พีทีที โกลบอล แจงโรงกลั่นน้ำมันเดินเครื่องได้ปกติ แม้ท่อส่งชายฝั่งมาบตพุดรั่ว ระบุมีการทำประกันภัยคุ้มครองธุรกิจหยุดชะงัก และความรับผิดชอบต่อบุคคลที่สามเรียบร้อย ด้านทิพยประกันภัย ขอเวลาตรวจสอบความเสียหายก่อน ยอมรับมี 3 กรมธรรม์ที่ทางบริษัทรับประกันภัยในกรณีนี้
รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทาง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้ทำการแจ้งความคืบหน้าสถานการณ์ความเสียหายของท่อรับน้ำดิบต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยระบุว่า ปัจจุบันหลังาจากเกิดเหตุได้มีการควบคุมสถานการณ์โดยการปิดวาล์วทันทีเพื่อไม่ให้มีการรั่วเพิ่มอีก จากนั้นได้ดำเนินการเก็บคราบน้ำมัน และขจัดคราบน้ำมันในทะเลโดยการฉีดพ่นน้ำยาสลายคราบน้ำมันทั้งทางเรือ และทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันคราบน้ำมันสลายลงเหลือประมาณ 5,000 ลิตร โดยบริษัทฯ จะยังคงดำเนินการสลายคราบน้ำมันต่อไป สำหรับการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ ยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติ
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีประกันคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากทรัพย์สินและธุรกิจหยุดชะงัก (Property Damage and Business Interruption) ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเล (Marine Cargo) และประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลที่สาม (Third Party Liability) ซึ่งในขณะนี้ บริษัทฯ และบริษัทประกันภัยอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว
ส่วนความเสียหายจากเหตุการณ์ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 เวลา 06.50 น. บริษัทพีทีที โกลบอล ระบุว่า มีน้ำมันดิบรั่วออกมาประมาณ 50,000 ลิตร หรือประมาณ 316 บาร์เรล จากการรั่วของท่อรับน้ำมันดิบชนิดยืดหยุ่น (Flexible Hose) ขนาด 16 นิ้ว ที่บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบ (Single Point Mooring) ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร ขณะกำลังมีการส่งน้ำมันมายังโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การทำประกันภัยของบริษัทพีทีที โกลบอลฯ เบื้อต้นพบว่า มีกรมธรรม์ประกันภัยอยู่กับทางบริษัททิพยประกันภัย 3 กรมธรรม์ และขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบประเมินความเสียหาย ซึ่งน่าจะมีรายละเอียดที่ชัดเจนเพิ่มเติมหลังจากนี้
รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทาง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้ทำการแจ้งความคืบหน้าสถานการณ์ความเสียหายของท่อรับน้ำดิบต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยระบุว่า ปัจจุบันหลังาจากเกิดเหตุได้มีการควบคุมสถานการณ์โดยการปิดวาล์วทันทีเพื่อไม่ให้มีการรั่วเพิ่มอีก จากนั้นได้ดำเนินการเก็บคราบน้ำมัน และขจัดคราบน้ำมันในทะเลโดยการฉีดพ่นน้ำยาสลายคราบน้ำมันทั้งทางเรือ และทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันคราบน้ำมันสลายลงเหลือประมาณ 5,000 ลิตร โดยบริษัทฯ จะยังคงดำเนินการสลายคราบน้ำมันต่อไป สำหรับการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ ยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติ
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีประกันคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากทรัพย์สินและธุรกิจหยุดชะงัก (Property Damage and Business Interruption) ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเล (Marine Cargo) และประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลที่สาม (Third Party Liability) ซึ่งในขณะนี้ บริษัทฯ และบริษัทประกันภัยอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว
ส่วนความเสียหายจากเหตุการณ์ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 เวลา 06.50 น. บริษัทพีทีที โกลบอล ระบุว่า มีน้ำมันดิบรั่วออกมาประมาณ 50,000 ลิตร หรือประมาณ 316 บาร์เรล จากการรั่วของท่อรับน้ำมันดิบชนิดยืดหยุ่น (Flexible Hose) ขนาด 16 นิ้ว ที่บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบ (Single Point Mooring) ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร ขณะกำลังมีการส่งน้ำมันมายังโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การทำประกันภัยของบริษัทพีทีที โกลบอลฯ เบื้อต้นพบว่า มีกรมธรรม์ประกันภัยอยู่กับทางบริษัททิพยประกันภัย 3 กรมธรรม์ และขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบประเมินความเสียหาย ซึ่งน่าจะมีรายละเอียดที่ชัดเจนเพิ่มเติมหลังจากนี้
