นายก ส.ท่องเที่ยวระยอง วอนหน่วยงานเกี่ยวข้อง-สื่อหยุดเหมารวมเสม็ดเที่ยวไม่ได้

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมการท่องเที่ยวระยอง วอนสื่อหยุดเหมารวบผลกระทบคราบน้ำมันทำเกาะเสม็ดเที่ยวไม่ได้ เพราะยังมีอ่าวอื่นบนเกาะเสม็ดที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ และไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาคราบน้ำมัน เผยข่าวน้ำมันรั่วทำยอดยกเลิกจองห้องพักในโรงแรม และรีสอร์ทต่างๆทั้งในระยอง รวมทั้งบนเกาะเสม็ดสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวการยกเลิกเดินทางเข้าเกาะสเม็ดของกลุ่มทัวร์ต่างชาติ ชี้หากหน่วยงานเกี่ยวข้องยังไม่เร่ง ปชส.ให้นักท่องเที่ยวรู้รายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นบนเกาะเสม็ด มีหวังรายได้จากการท่องเที่ยวถึงสิ้นปีริบหรี่

นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร นายกสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เผยว่าผลกระทบจากการรั่วไหลของคราบน้ำมันกลางทะเลที่ได้ลามเข้าสู่อ่าวพร้าว นอกจากจะทำให้การท่องเที่ยวบนอ่าวพร้าวหยุดชะงักแล้ว การเสนอข่าวของสื่อที่ไม่ได้ระบุว่าอ่าวพร้าว เป็นเพียงอ่าวๆ หนึ่งบนเกาะเสม็ด แต่เหมารวมว่าคราบน้ำมันกำลังทำให้เกาะเสม็ดเที่ยวไม่ได้ ได้ส่งผลให้กรุ๊ปทัวร์และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ยกเลิกการจองห้องพักทั้งในโรงแรม และรีสอร์ทต่างๆ ในตัวเมืองระยองเฉลี่ย 15-20 %แล้ว ขณะที่บางรีสอร์ทถูกยกเลิกการจองกว่า 50%

เช่นเดียวกับรายงานที่ว่าขณะนี้ยอดจองห้องพักบนอ่าวต่างๆ ของเกาะเสม็ด ของกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบ oneday trip ก็หายไปแล้วกว่า 10% ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เคยขึ้นเกาะเฉลี่ยต่อวันไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคน และหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังปล่อยให้นักท่องเที่ยวขาดความเข้าใจว่า อ่าวพร้าว ไม่ใช่ทั้งหมดของเกาะเสม็ด ก็เกรงว่ายอดการยกเลิกจองห้องพักจะสูงขึ้นเรื่อยๆ และจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ที่สำคัญยังเชื่อว่าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังเกาะเสม็ดจะมีอย่างบางตา

“จริงๆ แล้ว ททท.ระยอง กับสมาคมฯ ก็ได้ร่วมกับประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวและเอเยนต์ทัวร์ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศให้ทราบว่า อ่าวอื่นๆ บริเวณฝั่งตะวันออกของเกาะเสม็ด ไม่ว่าจะเป็น หาดวงเดือน หาดทรายแก้ว หาดปะการังฯลฯ ซึ่งถือเป็นชายหาดยอดนิยมและไม่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมัน ยังคงสามารถเข้าพักและเล่นน้ำได้ตามปกติ ซึ่งนับจากนี้อาจมีการจัดทำโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวในจุดที่ยังดี รวมทั้งเชิญสื่อ และเอเยนซี่ทัวร์ต่างๆ ให้เข้ามาดูให้เห็นกับตาว่าหาดอื่นๆ ของเกาะเสม็ดยังคงอยู่ในภาวะปกติ”

นายชัยรัตน์ ยังเผยอีกว่าจากการติดตามการดำเนินงานจัดเก็บคราบน้ำมันบนอ่าวพร้าวอย่างไกลชิด และการลงพื้นที่สังเกตการณ์ในช่วงเช้าของวันนี้พบว่า สีของน้ำทะเลในบางจุดเริ่มใสขึ้นแม้จะยังมีคราบน้ำมันหลงเหลืออยู่ในปริมาณพอสมควร โดยตนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของคณะทำงานว่าจะสามารถจัดเก็บคราบน้ำมันได้หมด และสามารถสกัดกั้นไม่ให้คราบน้ำมันลามไปยังอ่าวอื่นๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญได้

“แต่ปัญหาก็คือคราบน้ำมันที่มีลักษณะแผ่นใสซึ่งโดนน้ำยาจับให้ตกตะกอน เริ่มพัดไปยังที่อื่นเพราะมีกระแสลมแรงต่อเนื่อง โดยได้แต่เอาใจช่วยให้หน่วยงานต่างๆ ทำงานประสบผลสำเร็จ เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายทางการท่องเที่ยวแก่จังหวัดระยองอย่างมหาศาล และเหตุการณ์ดังกล่าวย่อมมีผลกระทบต่อการเข้าพักในช่วงไฮซีซันที่จะถึงในเดือน ต.ค. 2556 - มี.ค.2557 อย่างแน่นอน และก็เชื่อว่าหากหน่วยงานต่างๆ ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การกระจายตัวของคราบน้ำมันได้ ก็จะกระทบต่อภาวการณ์ท่องเที่ยวโดยรวมทั้งปี ”นายชัยรัตน์ กล่าว