xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทร.สั่งเพิ่มนาวิกฯ รวม 300 นาย ลุยล้างคราบน้ำมันอ่าวพร้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รองโฆษกทัพเรือเผยผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 สั่ง ฮ.ลาดตระเวนพร้อมเรือหลวงลุยแก้น้ำมันรั่ว ฉีดน้ำยากำจัดคราบ ส่ง 200 นาวิกโยธินล้างอ่าวพร้าว ก่อน ผบ.ทร.สั่งเพิ่มเป็น 300 นาย ลุยล้างเรื่อยๆ จนกว่าจะคืนสภาพเดิม

วันนี้ (31 ก.ค.) น.อ.วิพันธ์ ชมะโชติ รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดเหตุท่อรับน้ำมันขนาด 16 นิ้ว ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด รั่วไหลขณะขนถ่ายน้ำมันบริเวณระยะห่าง 10 ไมล์จากท่าเทียบเรือมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้น้ำมันรั่วไหลลงสู่ท้องทะเลจำนวน 50 ตัน ภายหลังเกิดเหตุบริษัท พีทีทีฯ ได้ประสานมายังทัพเรือภาคที่ 1 เพื่อขอรับความช่วยเหลือ ซึ่งทันทีที่ได้รับแจ้ง พล.ร.ท.รุ่งศักดิ์ เสรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่ 4 ขึ้นบินลาดตระเวนพร้อมทั้งสั่งการให้เรือหลวงบางปะกง และเรือ ต.82 เข้าควบคุมพื้นที่ไม่ให้เรือที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุ จากการบินสำรวจพบคราบน้ำมันกระจายตัวเป็นวงกว้าง ขนาดยาว 3 กม. และกว้าง 1 กม.ครอบคลุมพื้นที่บริเวณจุดที่น้ำมันรั่วไหล ในขณะเดียวกัน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กรมคุมมลพิษ ให้รับทราบและเตรียมการในส่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ รวมทั้งได้จัดเรือหลวงแสมสาร ซึ่งมีความพร้อมในการขจัดคราบน้ำมัน ฉีดน้ำยาปริมาณ 2 ตัน โดยในวันแรกสามารถขจัดคราบน้ำมันได้ถึงร้อยละ 65

น.อ.วิพันธ์กล่าวอีกว่า ต่อมาในวันที่ 28 ก.ค. ทุกหน่วยงานก็เร่งดำเนินการขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถขจัดคราบน้ำมันได้อีกร้อยละ 30 คงเหลือเพียงร้อยละ 5 จากปริมาณที่รั่วไหล จากนั้นในวันที่ 29 ก.ค.ได้มีการตรวจพบคราบน้ำมันถูกซัดเข้าสู่ฝั่งบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ทำให้นายวิชิต ชาติไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ประกาศให้บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางทะเล โดยทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินจัดกำลังพลจำนวน 200 นาย เข้าปฏิบัติภารกิจในการขจัดคราบน้ำมันบริเวณชายหาด พร้อมทั้งจัดเรือ กร.303 และ เรือ ต.225 เป็นเรือสนับสนุนในการจัดส่งกำลังพลเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยมีน.อ.ชำนาญ พวงเพชร ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 เป็นหัวหน้าชุดควบคุมการปฏิบัติงาน ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ได้มีการสับเปลี่ยนกำลังพลจากนาวิกโยธิน เป็นหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จำนวน 200 นาย เพื่อไม่ให้กำลังพลเกิดความอ่อนล้าและมลพิษที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

“พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่งการให้เพิ่มกำลังพลเข้าร่วมในการขจัดคราบน้ำมันเพื่อฟื้นฟูให้เกาะเสม็ดกลับเข้าสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด โดยจัดกำลังพลเพิ่มเป็น 300 นาย จากหน่วยต่างๆ ประกอบด้วย กองเรือยุทธการ ทัพเรือภาคที่ 1 ฐานทัพเรือสัตหีบ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งกองทัพเรือจะสนับสนุนกำลังพลเข้าปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์ต่างๆ บนอ่าวพร้าว เกาะเสม็ดจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ” รองโฆษกกองทัพเรือกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น