โฆษก กห.เผยนายกฯ ห่วงน้ำมันรั่วอ่าวพร้าว โทร.สายตรงสั่งเร่งแก้ปัญหาไม่ให้คราบขยายวงกว้าง รองโฆษกรัฐโต้ หน.ปชป. ไม่เป็นธรรมใส่ความรัฐบาลล่าช้า แก้ปัญหาน้ำมันรั่วกลางทะเล
วันนี้ (31 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงปัญหาการขจัดคราบน้ำมันในพื้นที่บริเวณชายหาดอ่าวพร้าว อ.เมืองฯ จ.ระยอง ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการประกอบอาชีพประมงของประชาชนในพื้นที่ โดยได้สั่งการเร่งด่วนมาจากทวีปแอฟริกาขณะเยือนสาธารณรัฐโมซัมบิกเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยกำชับให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งแก้ปัญหาคราบน้ำมันที่กระจายทั่วบริเวณชายหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ไม่ให้ขยายวงกว้างไปกว่าเดิม
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้กองทัพภาคที่ 1 เตรียมกำลังพลจากกรมวิทยาศาสตร์ ทหารบก กรมแพทย์ทหารบก กรมการทหารช่าง และกำลังพลอีกจำนวน 4 กองร้อย ที่เตรียมปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือหากได้รับการร้องขอ
ด้าน ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุรัฐบาลหรือหน่วยงานราชการล่าช้าแก้ไขปัญหาท่อรับน้ำมันดิบกลางทะเลรั่ว ทะลักเข้ามาบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่าหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงไปช่วย ปตท.แก้ปัญหาทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ ขณะนี้การขจัดคราบน้ำมันตกค้างในทะเลดำเนินการไปได้ 99% แล้ว เหลือเพียงการชำระล้างคราบน้ำมันที่ติดอยู่ตามโขดหินและทรายที่ปนเปื้อน หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการฟื้นฟูบูรณะสภาพแวดล้อมให้กลับสู่สภาพเดิม
ส่วนเรื่องของการเยียวยานั้น ผู้ว่าฯ จ.ระยองกำลังรวบรวมข้อมูล นายอภิสิทธิ์ไม่ทราบข้อเท็จจริง ก็ไม่ควรกล่าวหาเจ้าหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรม เพราะจะทำให้ผู้เกี่ยวข้องเสียกำลังใจ และอันที่จริงแล้ว หากเป็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ อาจใช้เวลานานกว่านี้ก็เป็นได้ ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่า ปตท.ไม่มีความพร้อมในการเผชิญเหตุนั้น ปตท.ได้แจ้งให้รัฐบาลทราบว่า ก่อนหน้านี้บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้เคยซ้อมแผนฉุกเฉิน เพื่อรับมือเหตุการณ์น้ำมันรั่วไปแล้ว เมื่อเดือน พ.ค. 56 ในบริเวณที่เป็นจุดเกิดเหตุ แต่ในวันที่เกิดเหตุการณ์จริงนั้น ทะเลมีคลื่นลมแรง และมีคลื่นสูงถึง 3 เมตร ซึ่งสูงกว่าปกติ ทำให้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตามแผน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วขึ้น บริษัท ก็ได้ปฏิบัติตามแผนฉุกเฉิน โดยการหยุดยั้งการรั่วไหล ประกาศเหตุฉุกเฉิน และประสานงานกับหน่วยราชการทันที