ศูนย์ข่าวศรีราชา - พ่อเมืองระยอง เร่งทุกอำเภอติดทะเลจัดตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันดิบรั่วกลางทะเล พร้อมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ ขณะที่ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นที่ดูการแก้ไขปัญหาคราบน้ำมันด้วยตัวเอง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (31 ก.ค.) นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เรียกประชุมนายอำเภอ นายตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และได้รับความเดือดร้อนจากเหตุน้ำมันดิบ ของบริษัท พีทีที จีซี จำกัด (มหาชน) รั่วไหลกลางทะเล โดยได้ร่วมกันหาแนวทางและวางแผนช่วยเหลือ เยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน และผู้ประกอบการ
โดยนายวิชิต เผยว่า นอกจากพื้นที่ชายทะเลจะได้ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาลแล้ว การท่องเที่ยวถือว่าได้รับผลกระทบรองลงมา เพราะมีผู้ที่เกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ประกอบการด้านที่พัก ร้านอาหาร เรือโดยสาร รองลงมาคือ กลุ่มการประมง และผู้เลี้ยงปลาในกระชัง พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของไม่ได้ ซึ่งทางจังหวัดจะเร่งให้การช่วยเหลือ
นอกจากนั้น ยังจะวางมาตรการ และกำหนดนโยบายรวบทั้งการกำกับดูแลในการขึ้นทะเบียนผู้ที่ได้รับผลกระทบ หรือได้รับความเดือดร้อน ซึ่งในเบื้องต้นได้มอบหมายให้ทุกอำเภอที่มีพื้นที่ติดชายทะเล เร่งจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือในองค์กรปกครองท้องถิ่น รวมทั้งโหมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงข้อมูลการขอรับความช่วยเหลือดังกล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง เร่งประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เข้าพัก และท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยว และที่พักบนเกาะเสม็ด ที่เหลือกว่า 95% ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมัน โดยเฉพาะชายหาดทางทิศตะวันออกของเกาะ ที่สามารถลงเล่นน้ำได้เพราะไม่มีกลิ่นเหม็นจากคราบน้ำมันรบกวน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า ในวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค.นี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา และการกู้วิกฤตคราบน้ำมันในอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ด้วยตนเองด้วย
เวลา 14.30 น. นายสรวงค์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ได้เดินทางมายังท่าเรือศูนย์อนุรักษ์ทรัพย์กรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ต.เพ อ.เมืองระยอง เพื่อนำหน้ากากอนามัย จำนวน 20,000 ชิ้น มอบให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อใช้ในการจัดเก็บคราบน้ำมัน บริเวณอ่าวพร้าว หลังได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีหน้ากากอนามัยใช้ระหว่างทำงาน จึงหวั่นว่าอาจได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อน
นอกจากนั้น ยังจัดให้มีการตรวจสุขภาพ และตรวจปัสสาวะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งพนักงานรีสอร์ตในพื้นที่อ่าวพร้าว เพื่อหาสารเบนซีนในร่างกาย รวมทั้งให้กรมอนามัยเก็บตัวอย่างน้ำ สัตว์น้ำ รวมทั้งอาหารทะเลที่วางขายตามตลาดสด เพื่อนำไปวิเคราะห์ว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พบว่าพนักงานรีสอร์ตเริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ และอาเจียนแล้ว จำนวน 20 ราย
