รัสเซียพบสาเหตุส่งยานลำเลียงไปสถานีอวกาศล้มเหลวครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ เหตุเกิดจากความผิดพลาดที่เครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้าแบบใช้ก๊าซที่จรวดท่อนบน ซึ่งข้อสรุปจากอุบัติเหตุครั้งนี้จะช่วยในการแก้ปัญหาการส่งจรวดโซยุซต่อไปในอนาคต
หลังจากยานขนลำเลียงสัมภาระโปรเกรส (Progress) ของรัสเซียประสบอุบัติเหตุตกในไซบีเรียเมื่อวันที่ 24 ส.ค.54 เนื่องจากการทำงานของจรวดโซยุซ (Soyuz) ที่ผิดพลาด ล่าสุดสเปซด็อทคอมรายงานว่าทางการของรัสเซียได้พบสาเหตุของอุบัติเหตุที่ไม่พบในบ่อยนักในการส่งจรวดชุดนี้ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
จากคำแถลงของ อเลกเซย์ คุซเนตซอฟ (Alexei Kuznetsov) โฆษกองค์การอวกาศสหพนธรัฐรัสเซีย (Russian Federal Space Agency) หรือรอสคอสมอส (Roscosmos) ที่เผยต่อสื่อท้องถิ่นรัสเซียระบุว่า วิศวกรขององค์การได้พบสาเหตุที่ทำให้จรวดทำงานผิดพลาดในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบใช้ก๊าซในจรวดท่อนที่ 3 ของจรวดโซยุซ
ข้อสรุปของสาเหตุอุบัติเหตุนี้จะช่วยให้ทางการรัสเซียเดินหน้าแก้ปัญหาเพื่อการส่งจรวดโซยุซต่อไปในอนาคตอีกหลายเที่ยวบิน ซึ่งรวมถึงการใช้งานเพื่อขนส่งนักบินอวกาศของชาติอื่นและของรัสเซียเองไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station)
ทางด้านองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ซึ่งต้องพึ่งพารัสเซียในการขนส่งเสบียงและนักบินอวกาศสู่สถานีอวกาศหลังจากยุติโครงการกระสวยอวกาศลงประกาศว่า จะไม่มีการส่งมนุษย์ไปกับจรวดโซยุซจนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสสูงที่จะต้องทิ้งร้างสถานีอวกาศโดยไม่มีลูกเรือประจำอยู่ชั่วคราว
“เรามีทางเลือกมากมาย โดยเราจะให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของลูกเรือเหมือนที่เราทำมาตลอด” ไมค์ ซัฟเฟรดินี (Mike Suffredini) ผู้จัดการโครงการสถานีอวกาศของนาซากล่าวหลังจากจรวดส่งยานขนส่งเสบียงของรัสเซียประสบอุบัติเหตุไม่นาน
บนสถานีอวกาศมีลูกเรือประจำอยู่มาตั้งแต่ปี 2000 และมีเป้าหมายที่ส่งนักบินอวกาศขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนถึงปี 2020 แต่เอพีระบุว่าการทิ้งร้างสถานีอวกาศชั่วคราวอาจทางเลือกสุดท้ายที่ไม่น่าพึงพอใจแก่ 5 องค์การอวกาศของโลกที่ร่วมกันลงขันสร้างสถานีอวกาศนี้ขึ้นมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ
ซัฟเฟรดินีกล่าวอีกว่า ผู้ควบคุมเที่ยวบินสามารถสั่งการสถานีอวกาศที่ทิ้งร้างได้อย่างต่อเนื่อง ตราบเท่าที่ระบบหลักทั้งหมดยังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ก็จะมีความเสี่ยงต่อสถานีอวกาศหากไม่มีลูกเรือประจำอยู่เพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหาย
ขณะนี้มีนักบินอวกาศ 3 ชาติประจำอยู่บนสถานีอวกาศ 6 คน โดย 3 คนมีกำหนดกลับโลกในเดือนก.ย.นี้ ส่วนอีก 3 คนที่เหลือจะสิ้นสุดการประจำอยู่ยนสถานีอวกาศกลางเดือน พ.ย.นี้ พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถประจำอยู่บนสถานีอวกาศได้นานเพราะข้อจำกัดในกิจการส่งยานอวกาศและนำกลับโลก
เพื่อให้สถานีอวกาศเดินหน้าต่อไปโดยมีลูกเรือประจำเต้มอัตรา นักบินอวกาศสหรัฐ 1 รายและนักบินอวกาศรัสเซียอีก 2 ราย ซึ่งมีกำหนดกลับโลกในวันที่ 8 ก.ย.นี้จะต้องประจำอยู่ในวงโคจรต่อไปอีกหลายสัปดาห์ ส่วนกำหนดส่งลูกเรือชุดใหม่ในวันที่ 22 ก.ย.นี้ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินแรกหลังยุคกระสวยอวกาศของนาซาได้เลื่อนออกไปก่อน
ส่วนเสบียงบนสถานีอวกาศนั้นซัฟเฟรดินีกล่าวว่ามีตุนไปจนถึงเดือน ก.ค.ปีหน้า โดยยานแอตแลนติส (Atlantis) ซึ่งเป็นกระสวยอวกาศลำสุดท้ายของนาซาที่ปฏิบัติภารกิจเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาได้ทิ้งเสบียงและสัมภาระเพียงพอที่จะใช้ต่อไปนาน 1 ปี
ทั้งนี้ ในการสืบหาสาเหตุของอุบัติเหตุทางการรัสเซียพยายามกู้ซากชิ้นส่วนยานซึ่งตกในบริเวณเทือกเขาอัลไตแถบไซบีเรีย แต่มีเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเหตุฉุกเฉินรัสเซียเพียงลำเดียวที่รับหน้าที่ดังกล่าว แต่คาดว่าทางการรัสเซียจะเพิ่มจำนวนเฮลิคอปเตอร์เพื่อปฏิบัติภารกิจดังกล่าวในเร็ววันนี้