อ้างทำโคลนนิงมนุษย์โผล่อีกราย คราวนี้เป็นแพทย์จากไซปรัสสัญชาติอเมริกัน อ้างกับสื่อเมืองผู้ดีว่าโคลนตัวอ่อนมนุษย์ได้ และฝากในท้องแม่แล้ว 4 ราย ใช้ห้องแล็บในตะวันออกกลางเป็นฐานวิจัย มั่นใจอีก 1-2 ปี เด็กโคลนนิงคนแรกเกิดแน่นอน ระบุที่โคลนนิงมนุษย์เพราะอยากช่วยคนที่มีลูกยาก
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ดร.พานายีโอติส ซาวอส (Dr.Panayiotis Zavos) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาผู้มีบุตรยากชาวสหรัฐฯ เชื้อสายไซปรัส เปิดเผยต่อหนังสือพิมพ์ ดิ อินดิเพนเดนท์ ของอังกฤษว่า ขณะนี้เขากำลังโคลนนิงมนุษย์ โดยได้โคลนตัวอ่อนมนุษย์แล้วจำนวน 14 ตัว โดยมีตัวอ่อน 11 ตัวที่นำไปฝากไว้ในมดลูกของหญิงจำนวน 4 คน โดย 3 คนแต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร และอีก 1 คน เป็นโสด
"ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เด็กโคลนนิงกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว และไม่มีทางที่จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน" ถ้อยคำที่ ดร.ซาวอส ให้สัมภาษณ์ ซึ่งเขาโคลนนิงตัวอ่อนมนุษย์ด้วยเทคนิคเดียวกับการโคลนนิงแกะดอลลี โดยใช้เซลล์ผิวหนังของชาวอังกฤษ, สหรัฐฯ และชาวตะวันออกกลางที่ไม่ได้ระบุประเทศ
"ถ้าพยายามกันมากยิ่งขึ้น เราจะมีทารกโคลนนิงคนแรกได้ภายใน 1-2 ปีนี้แน่นอน แต่ผมไม่รู้ว่า ความพยายามของเราจะสามารถทำได้จนสำเร็จหรือไม่ เราไม่กดดันที่จะทำให้เด็กโคลนนิงคลอดออกมา แต่กดดันว่า เด็กที่จะเกิดมานั้นจะมีสุขภาพแข็งแรงดีหรือไม่" ดร.ซาวอสกล่าว
ทั้งนี้ เขาได้แอบทำการโคลนนิงตัวอ่อนมนุษย์ดังกล่าว ที่ห้องแล็บแห่งหนึ่งซึ่งถูกปิดเป็นความลับ โดยตั้งอยู่ในตะวันออกกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกต่อต้านในสหรัฐฯ ขณะที่นานาชาติห้ามไม่ให้มีการโคลนนิงมนุษย์ ส่วนในบางประเทศก็อนุญาตการโคลนนิงมนุษย์สำหรับการวิจัยด้านสเต็มเซลล์เท่านั้น
"ผมถูกซักทุกวัน จนถึงวันนี้พวกเราถูกถามมาแล้วเป็นร้อยเรื่อง แต่ละเรื่องก็เคร่งเครียดทั้งนั้น พวกเขาให้ความสำคัญกับการให้กำเนิดมนุษย์ ด้วยวิธีโคลนนิง เพราะเป็นทางเลือกเดียว ที่พวกเขาจะทำได้ หลังจากที่พยายามมาแล้วทุกวิถีทางแต่ไม่เป็นผล" ดร.ซาวอส กล่าวถึงความต้องการของคู่สามีภรรยาที่มาปรึกษากับเขา เรื่องปัญหาการมีบุตรยาก
อีกทั้งเขายังบอกว่าไม่ได้คิดที่จะโคลนนิงคนดังอย่างไมเคิล แจ๊กสัน, ไมเคิล จอร์แดน หรือมหาเศรษฐีคนอื่นๆ แต่อย่างใด เพียงแต่อยากช่วยเหลือคนที่ไม่สามารถมีบุตรได้เท่านั้น
ดร.ซาวอสยังบอกอีกว่า เขาตั้งใจจะโคลนนิงบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้วจำนวน 3 รายด้วยกัน หนึ่งในนั้นมีเด็กหญิงแคดี้ (Cady) ชาวสหรัฐฯ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ ซึ่งตอนนี้เขาได้เก็บรักษาเซลล์เม็ดเลือดแดงของเธอเอาไว้แล้ว โดยการแช่แข็ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอให้แน่ใจว่าการโคลนนิงครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดีเสียก่อน
ขณะเดียวกัน เขาก็ได้ทดลองโคลนนิงตัวอ่อนโดยใช้เซลล์ต้นแบบจากบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้วดังกล่าวกับเซลล์ไข่ของวัว เพื่อใช้เป็นตัวอย่างสำหรับศึกษาและพัฒนาเทคนิคการโคลนนิงมนุษย์ แต่ไม่คิดที่จะนำตัวอ่อนลูกผสมหรือไฮบริดเหล่านั้นย้ายฝากเข้าไปในครรภ์แต่อย่างใด แม้ว่าแม่ของแคดี้จะยินยอมก็ตาม หากทำให้ลูกสาวของเธอกลับคืนมาได้อีกครั้ง
นอกจากนั้น หนังสือพิมพ์ ดิ อินดิเพนเดนท์ ระบุด้วยว่าซาวอสยังได้ร่วมงานกับ คาร์ล อิลเมนซี (Karl Illmensee) นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ในการสร้างมนุษย์โคลนนิง โดยต้องการคู่สามีภรรยาที่ต้องการรักษาการมีบุตรยากจำนวน 10 คู่ เข้าร่วมโครงการถัดไป
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้เมื่อปี 2547 ซาวอสเคยอ้างว่า ได้นำตัวอ่อนมนุษย์โคลนนิงรายแรกย้ายฝากเข้าไปในมดลูกของผู้หญิงรายหนึ่งมาแล้ว แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องดังกล่าว เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจน
อีกทั้ง เหล่านักวิทยาศาสตร์ทั่วไปก็ยังเห็นว่าการโคลนนิงยังไม่ใช่วิธีที่ปลอดภัยดีพอ สำหรับนำมาใช้ในการรักษาผู้มีบุตรยาก แม้ว่าการโคลนนิงสัตว์ก็ได้รับการปรับปรุงพัฒนาเรื่อยมาจนมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก หลังจากแกะดอลลีเกิดมาด้วยความพยายามของนักวิทยาศาสตร์ถึง 277 ครั้ง.