xs
xsm
sm
md
lg

อิหร่านอวดบ้างโคลนนิงแพะได้ หลังดูไบประกาศโคลนอูฐสำเร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 “ฮานา” (Hana) แพะเพศเมียที่เกิดจากการโคลนนิงได้ลืมตาดูโลก เมื่อวันที่ 15 เม.ย.52 นับเป็นอีกความสำเร็จของอิหร่าน (ภาพเอพี)
หลังจากปล่อยให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศ โคลนนิงอูฐได้เป็นครั้งแรกของโลกไปไม่กี่วัน คราวนี้อิหร่านขอออกมาเผยความสำเร็จบ้าง ว่าได้สร้างแพะโคลนนิงขึ้น อีกทั้งยังมองไกลในวันข้างหน้า จะใช้เป็นหนทางรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ

สำนักข่าวเอพี เปิดเผยว่า “ฮานา” (Hana) แพะเพศเมียที่เกิดจากการโคลนนิง ได้ลืมตาดูโลก เมื่อวันที่ 15 เม.ย.52 โดยอ้างแหล่งข่าว ดร.โมฮัมเหม็ด ฮอสเซ็น นาสร์ อี อิสฟาฮานี (Dr. Mohammed Hossein Nasr e Isfahani) หัวหน้าสถาบันวิจัยทางด้านเซลล์ต้นกำเนิด รอยัน (Royan Research Institute) ในเมืองเอสฟาฮาน (Isfahan) ตอนกลางของอิหร่าน

“เมื่อฮานาได้เกิดขึ้นมา อิหร่านกลายเป็น 1 ใน 5 ของประเทศ ที่สามารถโคลนนิงลูกแพะได้สำเร็จ” คำกล่าวจากอิสฟาฮานี ผู้เชี่ยวชาญด้านเพาะเลี้ยงตัวอ่อน

อย่างไรก็ดี เมื่อปี 2549 อิหร่านก็รั้งตำแหน่งประเทศแรกในตะวันออกกลาง ที่สามารถโคลนนิงลูกแกะได้สำเร็จ และอีก 2 ปีครึ่งต่อมา สถาบันแห่งนี้ก็ได้รายงานว่าแกะดังกล่าวยังมีสุขภาพแข็งแรง

ความสำเร็จที่เกิดขึ้น เป็นผลจากการตั้งเป้าของอิหร่าน ที่จะเป็นผู้นำในความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายในปี 2568 ซึ่งจากที่เห็น อิหร่านก็ประสบความสำเร็จใจด้านการแพทย์ ด้านการบินและอวกาศ รวมทั้งเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่เป็นข่าวอย่างชัดเจน

อิสฟาฮานี กล่าวว่า สำหรับการโคลนนิงแพะ หรือสัตว์อื่นๆ นั้น ก็เพื่อนำทางไปสู่ความก้าวหน้าของงานวิจัยทางด้านการแพทย์ รวมถึงอาจต้องการใช้สัตว์โคลนนิงเหล่านี้สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่มนุษย์ เพื่อรักษาโรคร้ายต่างๆ ซึ่งสถาบันที่เขาดูแลอยู่นั้น ตั้งเป้าในการโคลนแพะ เพื่อหาหนทางในการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ

ทั้งนี้ ชาวอิหร่านส่วนใหญ่กว่า 70 ล้านคน เป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ โดยโครงการโคลนนิงของอิหร่านนี้ ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำชีอะห์ ซึ่งอนุญาตให้โคลนนิงสัตว์ได้ แต่ไม่ยอมให้มีการโคลนนิงมนุษย์เพื่อการสืบพันธุ์

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันประเทศเพื่อนบ้านของอิหร่าน อย่างสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็ได้ออกมาประกาศว่า สามารถโคลนนิงอูฐได้สำเร็จ โดยลูกอูฐดังกล่าวคลอดออกเมื่อวันที่ 8 เม.ย. นับเป็นอูฐโคลนนิงตัวแรกของโลก

“อินจาซ” (Injaz) หมายถึง “ความสำเร็จ” ในภาษาอาหรับ ถูกตั้งเป็นชื่ออูฐหนอกเดียวเพศเมีย ที่นักวิทยาศาสตร์ของศูนย์แพร่พันธุ์อูฐ (Camel Reproduction Centre) และห้องปฏิบัติการวิจัยกลางด้านสัตวศาสตร์ (Central Veterinary Research Laboratory) ในดูไบ ใช้เวลาทำงานกว่า 5 ปี

ทั้งนี้ อินจาซถูกโคลนมากจากอูฐที่ถูกฆ่าเอาเนื้อในปี 2548 โดยนักวิทยาศาสตร์ได้นำดีเอ็นเอที่สกัดจากเซลล์รังไข่ของอูฐตัวที่ตาย จากนั้นนำใส่เข้าไปในไข่ของแม่อูฐ ที่ทำหน้าที่อุ้มท้องเพื่อสร้างตัวอ่อนใหม่ขึ้นมา

นัยสำคัญของการโคลนนิงอูฐของนักวิจัยเหล่านี้ ก็เพื่อปกป้องพันธุกรรมของอูฐสายพันธุ์วิ่งแข่งอันมีค่า และรวมไปถึงอูฐสายพันธุ์ผลิตน้ำนมในอนาคต ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ดูไบเปรียบเทียบว่า การโคลนอูฐได้ในครั้งนี้สำคัญพอๆ กับการเกิดของดอลลี สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโคลนนิงตัวแรกของโลก เพียงแต่เวอร์ชั่นตะวันออกกลางจึงเป็น “อูฐ”

สำหรับดอลลี่ แกะโคลนนิงที่เขย่าวงการวิทยาศาสตร์โลก ได้เกิดขึ้นในปี 2539 ที่เมืองเอดินบะระ สหราชอาณาจักร และกลายเป็นต้นแบบวิธีการโคลนนิงให้แก่นักวิจัยทั่วโลก จนมีผลงานออกมามากมาย จากนั้นดอลลี่ก็หลับอย่างสงบในปี 2546.
ลูกแพะสีน้ำตาล-ขาวแข็งแรง คลอดจากแม่แพะสีดำที่อุ้มฝากท้องนาน 147 วัน (ภาพ Royan Research Institute)
ดร.อิสฟาฮานี หัวหน้าสถาบันวิจัยรอยัน ในเมืองเอสฟาฮาน (Isfahan) กับแพะโคลนนิงตัวแรกของประเทศ (ภาพ Royan Research Institute)
อินจาซ อูฐโคลนนิงตัวน้อยกับแม่อุ้มบุญ นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ภาพ AFP)
กำลังโหลดความคิดเห็น