xs
xsm
sm
md
lg

เตือนอย่าเชื่อ “สเต็มเซลล์” ทำสวย ยังไม่รับรองว่าปลอดภัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
อย.เตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณาอวดอ้าง “สเต็มเซลล์” ช่วยให้ขาว-สวย อาจมีผลข้างเคียงจากการรักษา เนื่องจากเพราะยังไม่มีการพิสูจน์หรือยืนยันว่าใช้ได้จริงหรือปลอดภัยหรือไม่ เตรียมออกประกาศเพื่อให้สเต็มเซลล์เป็นยาที่ใช้ในการศึกษาวิจัย

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการกล่าวถึงผลิตภัณฑ์จากเซลล์ต้นกำเนิด หรือที่รู้จักกันในชื่อของสเต็มเซลล์ “Stem Cell” อย่างแพร่หลาย โดยพบว่า มีการข้อมูลทางการแพทย์ที่ยังไม่สมบูรณ์มาแอบอ้างเพื่อหารายได้ ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ผิด เพื่อป้องกันมิให้ตกเป็นเหยื่อการโฆษณาชวนเชื่อ
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอแจ้งให้ทราบว่า แท้จริงแล้ว “สเต็มเซลล์” คือ เซลล์ที่ยังไม่เจริญเต็มที่ สามารถแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด และสามารถให้กำเนิดเซลล์ที่กลายเป็นเซลล์ในร่างกายได้หลายชนิด ซึ่งมีทั้งสเต็มเซลล์ของตัวอ่อน มีคุณสมบัติ คือ ให้กำเนิดเซลล์ของร่ายกายได้ทุกชนิด และสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อจำเพาะ หรือที่นิยมเรียกว่า สเต็มเซลล์ของผู้ใหญ่ พบในเกือบทุกเนื้อเยื้อในร่างกาย เช่น ไขกระดูก กล้ามเนื้อ สมอง ผิวหนัง ลำไส้ แต่ไม่สามารถให้กำเนิดเซลล์ร่างกายได้ทุกชนิดเหมือนตัวอ่อน

นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ในวงการแพทย์ ยอมรับว่า เซลล์ต้นกำเนิดที่รักษาได้ผลจริงเฉพาะในโรคเลือดเท่านั้น เช่น ใช้รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือด โรคเลือดที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม และรักษาผู้ป่วยที่ไขกระดูกถูกทำลายจากยารักษามะเร็ง โดยจากการศึกษาวิจัยส่วนใหญ่ พบว่า การใช้สเต็มเซลล์ต้นกำเนิดจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นเพียงช่วงหนึ่งเท่านั้น แต่ยังไม่พบผลการศึกษาวิจัยว่า สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ และอาจมีผลข้างเคียงจากการรักษาได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ การโฆษณาอวดอ้างต่างๆ ว่า สเต็มเซลล์สามารถทำให้ขาวขึ้น สวยขึ้นนั้น ยังไม่มีการพิสูจน์หรือยืนยันว่าใช้ได้จริง และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง อย.ห้ามมิให้ใช้เซลล์เนื้อเยื่อหรือผลิตภัณฑ์มนุษย์เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง

นพ.พิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 สเต็มเซลล์จะเข้าข่ายเป็นยา แต่เนื่องจากอาจมีความคลาดเคลื่อนหรือเข้าใจไม่ตรงกัน อย.ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว รวมถึงความจำเป็นและแนวโน้มการพัฒนาสเต็มเซลล์ จึงได้จัดทำระบบกำกับดูแลผลิตภัณฑ์จากสเต็มเซลล์ เพื่อรองรับการผลิตหรือนำเข้า นอกจากนี้ ได้ร่วมมือกับ แพทยสภา และกองการประกอบโรคศิลปะ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้บริโภค สร้างความมั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไม่ตกเป็นเหยื่อการโฆษณาอวดอ้างเกินจริง เสียเงินและเสียโอกาสในการรักษา
 
นอกจากนี้ อย.ได้เตรียมออกประกาศสำนักงาน เพื่อกำหนดมาตรการในการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สเต็มเซลล์ โดยถือว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ นอกจากที่ใช้เป็นมาตรฐานในการรักษาจะจัดเป็นยาที่อยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย ซึ่งจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายยา มิฉะนั้น จะเป็นการผลิตหรือนำเข้ายาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา หากผู้บริโภคมีข้อสงสัยหรือพบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สเต็มเซลล์ โทร.สายด่วน อย.1556 เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม www.oryor.com/oryor_stemcell/

กำลังโหลดความคิดเห็น