xs
xsm
sm
md
lg

ฝันค้างประทับตรา "สินค้านาโน" การันตียากกว่าที่คิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


∞ สวัสดีบรรดามิตรรักแฟนคอลัมน์ "ไซน์กระซิบ" ทั้งหลายเจ้าค่า และแล้ว "หนูไซน์" ก็กลับมาตามคำเรียกร้องในวันหยุดสุดสัปดาห์พร้อมกับเรื่องราวเก็บตกของวงการวิทย์เช่นเคย ∞

∞ในที่สุดก็ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับ "โทรเลขไทย" ที่ให้บริการพ่อแม่พี่น้องมานานกว่าศตวรรษ บรรยากาศในวันอำลาโทรเลขที่ไปรษณีกลาง บางรัก ก็คึกคักมากมาย แม้หลายคนจะบ่นเสียดายเหมือนเสียเพื่อนไปอีก 1 คน แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าไม่มีโทรเลขแล้วจะติดต่อกันด้วยอะไร เพราะไปรษณีย์ไทยเขาได้เตรียมช่องทางบริการอื่นๆ ไว้ทดแทนแล้วเจ้าค่า ก็เช่น อีเอ็มเอส (EMS) อย่างไรละเจ้าคะ ∞

∞ เห็นข่าว "หมึกยักษ์" แล้วเล่นเอาหลายคนน้ำลายไหล นึกถึงหมึกย่างน้ำจิ้มรสเด็ดหรือเมนูจานเด็ดอื่นๆ ทว่ารสชาติของหมึกยักษ์ตัวโตที่ว่านี้คงไม่อร่อยเหมือนที่เราจินตนาการไว้ เพราะนักวิทย์เขาแจ้งไว้แต่แรกตั้งแต่จับหมึกตัวนี้ได้แล้วว่า "เนื้อของหมึกยักษ์ตัวนี้เต็มไปด้วยแอมโมเนีย ถ้าใครขืนกินเข้าไปรสชาติคงเหมือนกับน้ำยาขัดพื้นไม่มีผิด" รู้อย่างนี้แล้วถ้าใครเกิดจับหมึกยักษ์ได้บ้างก็อย่าเพิ่งด่วนเอาไปย่างแล้วเปิปทันทีทันใดนะเจ้าคะ ไม่งั้นอาจมีอาการเหมือนกินน้ำยาขัดพื้นแล้วจะยุ่งไปกันใหญ่ ∞

∞ ผู้อ่านหลายท่านได้ยลโฉม "เครื่องล้างผักอัลตราโซนิกส์" ที่นักวิจัย วว. พัฒนาขึ้นก็สนใจน่าซื้อน่าใช้ซะจริงๆ สนนราคาต่อเครื่องก็ถูกกว่าของนอกเกือบ 10 เท่า แถมไม่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับสารเคมีตกค้างตามซอกผักอีกต่างหาก แต่ยุคข้าวยากน้ำมันแพงอย่างนี้อีกหลายคนก็เลยยังชั่งใจว่าจะคุ้มค่าไหมถ้าซื้อเจ้าเครื่องนี่มาใช้ แล้วบางท่านยังสงสัยอีกแนะว่า "แล้วมันต่างกะเครื่องล้างแว่นอัลตราโซนิกส์ที่ห้างแว่นเค้าทำแจกยังไงเหรอ" บางท่านก็ว่า "เอาเครื่องล้างแว่นที่แจกฟรีมาล้าง ประหยัดกว่า"...ห๊า! ถ้าใช้แทนกันได้ดีจริงก็อย่าลืมกระซิบบอกหนูไซน์บ้างนะเจ้าคะ จะได้รีบหาเครื่องล้างแว่นแจกฟรีมาใช้บ้างไงเจ้าค่า∞
แค่เห็นก็น้ำลายไหล แต่รู้ไหมว่าเนื้อ หมึกยักษ์ เต็มไปด้วยแอมโมเนียเหมือนในน้ำยาขัดพื้น
∞ ยินดีด้วยเจ้าค่า กับเหล่านักรบ "วิจัย" ทุกท่าน ที่วานก่อน สวทช.เขาเพิ่งจัดพิธีมอบรางวัลให้กับนักวิจัยที่มีผลงานจดสิทธิบัตรและที่กำลังยื่นขอในรอบปี 50 ไปหยกๆ สะระตะแล้วก็ 81 ผลงานด้วยกัน ทำเอาบรรยากาศ "วัฒนธรรมการจดสิทธิบัตร" ตลบอลอวลไปทั่วแดน "ไซน์ปาร์ก" เหลือคนา "หนูไซน์" เองก็แอบ (หลบมุม) ยินดีด้วยเงียบๆ ที่เห็นวัฒนธรรม "การจดสิทธิบัตร" ของนักวิจัยไทยกำลังเบ่งบานและแตกใบอ่อนได้งดงามไม่น้อยเลย∞

ครั้นเช็คตัวเลข ไอ้หย๋า! "เอ็มเทค" ที่เคยอยู่ท้ายๆ กลับมีผลงานสูงผิดหูผิดตา จนเข้าป้ายที่ 1 ด้วยผลงานที่ยื่นจดแล้ว 32 ชิ้น จึงซักไซร้ถามท่าน ผอ. "ดร.วีระศักดิ์ อุดมกิจเดชา" ให้รู้แจ้งแถลงไขถึงเคล็ดลับเค้นฟอร์มเก่งได้ใจขนาดนี้

ด้านเจ้าตัวครั้นได้ยินคำถามของ "หนูไซน์" ก็หัวเราะ 5 5 5 ก่อนอธิบายว่า คงเป็นเพราะได้จังหวะที่งานวิจัยหลายชิ้นเสร็จพร้อมกันพอดี แถมนักวิจัยเองก็เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ที่สำคัญยังมีระบบบริหารจัดการทรัพยากรใหม่ใน สวทช. งานอะไรๆ ก็เลยลื่นปรื้อ สะดวกโยธินด้วยประการฉะนี้แล...หนูไซน์เองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าปีนี้และปีต่อๆ ไป เอ็มเทคจะมีงานวิจัย "ดก" อย่างนี้เรื่อยไปนะเจ้าคะ...ส่วนหน่วยไหนนิ่งนอนใจ ระวังจะถูกลืมไม่รู้ด้วยนะเจ้าค้าา...∞

∞ แต่ก็อย่างว่ามีคน "ชม" แล้ว ก็ต้องมีคน "ตำหนิ" บ้างเป็นธรรมดา ที่หลายคนแอบติง (ทั้งในใจ และ...) ว่าเป็นหน่วยวิจัยระดับชาติซะเปล่า แต่ไฉนตั้งแต่ปี 34 จนบัดนี้กลับมีผลงานวิจัยยื่นจดสิทธิบัตรแค่ 418 ชิ้น "ดร.ศักรินทร์" นายใหญ่ สวทช. เลยชิงตอบกรายๆ ว่าผลงาน สวทช. น่ะ กำลังเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างปี 51 นี้ก็ตั้งเป้ายื่นจดสิทธิบัตรไว้ถึง 110 ผลงาน บวกลบคูณหารแล็วก็ 1 ใน 4 ของที่ผ่านๆ มา และต้องสูงขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน... "หนูไซน์" ว่าถ้าทำได้จริงก็ต้องถือเป็นก้าวกระโดดทีเดียวเจ้าค่า∞
อาหารนาโนกำลังคุกคาม เอ๊ย! เข้ามามีบทบาทในชีวิตมนุษย์มากขึ้น
∞ นับวัน "นาโนเทคโนโลยี" ยิ่งจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ผลิตภัณฑ์มากมายได้รับการปรับปรุงคุณสมบัติให้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีจิ๋วๆ ล่าสุดนักวิชาการ "นาโนเทค" จึงจัดสัมมนาแนะแนวทางผู้ประกอบการว่าจะนำนาโนเทคโนโลยีไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารอย่างไรได้บ้าง แต่ก็มีคำเตือนว่าสิ่งที่เติมใน "อาหารนาโน" ต้องสารชีวภาพที่คนเรากินได้เท่านั้นเจ้าค่า

ดังนั้น อย่าได้หลงเชื่อเสียเงินซึ้อบรรดาอาหารการกินแปลกๆ ที่อุตริใส่วัตถุดิบที่ไม่ใช่อาหารลงไป อย่าง "น้ำนาโน" ที่อ้างว่าผสม "ซิลเวอร์นาโน" แล้วอวดสรรพคุณว่าช่วยฆ่าเชื้อโรคในร่างกายได้อย่างโน้นอย่างนี้ ก็ยังไม่มีรายงานที่ชัดเจนกะเค้าสักที เรื่องคำอวดอ้างแบบนี้ก็พิจารณากันให้ดี อย่าได้เสียรู้ผู้ผลิตหัวใสแต่ใจไม่ซื่อกันนะเจ้าคะ∞

∞ ส่วนเรื่องที่ผู้บริโภคอินเทรนด์ตั้งตารอมานานอย่างมาตรฐาน "นาโนมาร์ก" เห็นทีคงออกมาไม่ได้ง่ายๆ เสียแล้ว เพราะแว่วมาว่า "หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" ไม่กล้าออกใบรับรอง "สินค้านาโน" เพราะยังไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและเกรงว่าระยะยาวผลิตภัณฑ์นาโนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้ใช้ แล้วจะกระทบต่อ "หน่วยงานที่รับผิดชอบ" ได้...อ้าว! แล้วกัน ไหงพูดปัดกันอย่างนี้ล่ะเจ้าคะ โฆษณางานวิจัยไปแล้วก็ตั้งเยอะ ของก็ขายไปแล้วตั้งแยะ แล้วไหนจะสาวกนาโนที่เตรียมควักกระเป๋าให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จ่อคิววางตลาดอีกล่ะเจ้าคะ...เอ! อย่างนี้เข้าข่าย "ไม่รับผิดชอบ" ใช่รึเปล่าเจ้าคะ

แต่เดี๋ยวก่อน ก็เมื่อวันแถลงข่าวโรงงานต้นแบบเส้นใยสังเคราะห์ผสม "ดร.วิวัฒน์ ตัณฑะพานิชกุล" ผอ.นาโนเทค ก็แย้มมาว่า เทคโนโลยีใหม่นี้อาจจะผลิตเส้นใยนาโนได้ด้วย ซึ่งจะได้เป็นผลิตภัณฑ์นาโนที่ปลอดภัยกว่านำไปเคลือบสารนาโนทีหลังที่เสี่ยงหลุดออกมาปนเปื้อนกับสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า...เอ้า! สาวกนาโนทั้งหลายได้ยินอย่างนี้แล้วก็ศึกษาข้อมูลและทบทวนดีๆ ก่อนซื้อ "สินค้านาโน" มาใช้สอยนะเจ้าคะ ประเดี๋ยวเกิดเรื่องไม่คาดคิดจะซวยเอา เพราะไม่มี "หน่วยงานไหน" ออกมาแสดงความรับผิดชอบเจ้าค่า∞
ฤาจะหนีไม่พ้นจีเอ็มโอ?
∞ แวะเวียนไปประเทศเพื่อนบ้านแถวมาเลเซียกันบ้างเจ้าค่า ได้ข่าวว่านักวิทย์ประเทศนี้เขาพัฒนา "ยุงจีเอ็มโอ" สำเร็จแล้ว และเตรียมจะปล่อยให้เป็นเพชรฆาตกำจัดยุงร้ายต้นเหตุ "ไข้เลือดออก" ในเร็วๆ นี้ เพราะนี่เขาถือว่าเป็นปัญหาระดับชาติเลยทีเดียว...ข้างฝ่ายพี่ไทยมัวทำไรกันอยู่น้อ ยังไม่ต้องรีบตัดต่อพันธุกรรมให้ยุงหรอกเจ้าค่า เอาแค่โรงงานวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกให้เสร็จเร็วทันรักษาชีวิตอีกนับพันๆ คนที่เสี่ยงติดเชื้อไข้เลือดออกในแต่ละปีให้ได้เร็วๆ ก็แล้วกัน ประเดี๋ยววัคซีนจะ "บูด" เสียก่อน∞

∞ พูดถึงยุงจีเอ็มโอก็ให้นึกถึง "พืชจีเอ็มโอ" ขึ้นมาทันที เพราะวินาทีนี้ราคาข้าวขยันพุ่งขึ้นแข่งกับราคาน้ำมันซะจริงจริ๊ง และพืชอาหารอื่นๆ ก็ทำท่าจะเอาขยับตามเสียด้วย ทำเอาจำนวนผู้หิวโหยและอดอยากเพิ่มมากขึ้นตามมาด้วย และเป็นที่น่าจับตาดูว่ากลุ่มหนุน "อาหารจีเอ็มโอ" ทั้งหลายจะฉวยโอกาสนี้รึไม่ แต่ก็ยังไม่มีอะไรแว่วมาจากวงใน

ส่วนบทสรุปจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่มีใครรู้แน่ แต่ที่แน่ๆ พี่ยุ่นที่เคยปฏิเสธนำเข้าสินค้าจีเอ็มโอ ก็เริ่มเปิดประตูรับเอา "ข้าวโพดจีเอ็มโอ" เข้าประเทศกะเค้าบ้างแล้ว เพราะชักจะสู้ราคา "ข้าวโพด นัน-จีเอ็มโอ" ไม่ไหว และถ้ามีความคืบหน้าจะอะไร หนูไซน์จะนำมารายงานให้ทราบกันอีกเจ้าค่า∞

∞ ถ้าใครได้ข่าวคราวเรื่องไหนเพิ่มเติม ก็กระซิบมาบอก "หนูไซน์" ได้ที่นี่ scigossip@gmail.com ทุกเวลาเลยเจ้าค่า และแล้วก็ถึงเวลาอันควรที่หนูไซน์จะต้องกล่าวคำอำลาไว้ ณ ที่นี้ แล้วกลับมาพบกันอีกในสัปดาห์หน้านะเจ้าคะ...สวัสดีเจ้าค่า∞
กำลังโหลดความคิดเห็น