กรมวิชาการเกษตร -ไบโอเทค เตรียมดัน "มะละกอ" ลงทดสอบจีเอ็มโอภาคสนามชนิดแรก พร้อมพ่วงมะเขือเทศต้านโรคใบหงิกร่วมทดสอบอีกชนิด เผยมติ ครม.ฉลองคริสต์มาส แม้เอื้อให้ทดลองแล้ว แต่ยังไม่ถูกใจวอนอยากทำวิจัยได้ง่ายขึ้น พร้อมนำเรื่องเสนอ ครม.ขิงอีกครั้ง อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตรผิดหวังรัฐบาลขิง หากไทยเสียหายจะต้องรับผิดชอบ
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ (ไบโอเทค) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ "มาตรการเพื่อรองรับการทดสอบพืชดัดแปลงพันธุกรรมในระดับภาคสนาม" ขึ้นเมื่อวันที่ 16 ม.ค.51 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพฯ โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ พร้อมทั้งนักวิชาการจากหน่วยงานต่างๆ เกือบ 50 คน
นางวิไล ปราสาทศรี ผอ.ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตขอนแก่น กรมวิชาการเกษตร กษ.กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรมีความพร้อมที่จะนำมะละกอจีเอ็มโอที่พัฒนาลงแปลงปลูกภาคสนามแล้ว ซึ่งในปี 47 เคยทดลองปลูกมะละกอแขกนวลจีเอ็มโอต้านทานโรคใบด่างจุดวงแหวนจำนวน 3 สายพันธุ์พบว่าได้ผล 95% ส่วนการพัฒนามะละกอแขกดำจีเอ็มโอมีการทดลองในโรงเรือนกระจกแล้วต้านทานโรคได้ผล 100% แต่ยังไม่เคยทดสอบในแปลงเปิดมาก่อน เพราะมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 3 เม.ย.44 ห้ามไว้
ส่วนพืชจีเอ็มโอที่ศูนย์ไบโอเทคได้พัฒนาและพร้อมทดสอบในแปลงเปิดได้ ดร.บุญญานาถ นาถวงษ์ นักวิจัยไบโอเทค กล่าวว่ามี 2 ชนิดคือ มะละกอและมะเขือเทศ โดยมะละกอที่พัฒนาขึ้นมีทั้งมะละกอแขกดำชะลอการสุก และมะละกอแขกดำและแขกนวลต้านทานโรคใบด่างจุดวงแหวน
ขณะที่มะเขือเทศมีการพัฒนาทั้งให้ต้านทานโรคใบหงิกเหลืองแบบใช้เทคนิคยีนคัดเลือก (Marker Gene ) และมะเขือเทศต้านทานโรคใบหงิกเหลืองแบบไม่ใช้เทคนิคยีนคัดเลือกเพื่อลดข้อขัดแย้งว่ายีนคัดเลือกมีฤทธิ์ต้านทานยาปฏิชีวนะบางตัว
นอกจากนี้ยังมีกล้วยไม้ตระกูลหวาย ทั้งสนานและปอมปาดัวร์ มีการดัดแปลงพันธุกรรมให้ยืดอายุได้นานขึ้น แต่ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะทดสอบในแปลงเปิดได้
ดร.อนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เผยว่า หลังการประชุมครั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรจะได้นำความคิดเห็นที่ได้จากการประชุมและเอกสารอื่นๆ ยื่นเสนอต่อ ครม.เพื่อพิจารณาทบทวนมติการอนุมัติการทดสอบพืชจีเอ็มโอในแปลงเปิดของหน่วยราชการ ให้มีความชัดเจนมากขึ้นภายในรัฐบาลชุดปัจจุบัน จากตอนนี้ที่ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้เพราะ ครม.ได้กำหนดเนื้อหาไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติงานจริง
หาก ครม.ออกมติที่มีความชัดเจนขึ้นแล้ว ก็จะสามารถเดินหน้าปลูกพืชจีเอ็มโอภาคสนามได้ทันที เช่น แปลงปลูกมะละกอจีเอ็มโอของกรมวิชาการเกษตร ณ ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตขอนแก่น หรือศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตกาฬสินธุ์
ดร.อนันต์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการในขณะนี้ยังได้แก่ การกำหนดมาตรการและแนวทางการปลูกพืชจีเอ็มโอภาคสนามให้ชัดเจนขึ้น การกำหนดแม่งานที่รับผิดชอบการทดลองภาคสนาม ซึ่งน่าจะเป็นกรมวิชาการเกษตร ที่สำคัญผู้บริหารต้องตอบคำถามให้ได้ว่ากล้าเดินหน้าหรือไม่
ทั้งนี้ ระหว่างที่คณะกรรมการกลางความปลอดภัยทางชีวภาพ (เอ็นบีซี) ยังไม่เกิดขึ้น จะให้คณะกรรมการเทคนิคความปลอดภัยทางชีวภาพ (ทีบีซี) ซึ่งประกอบด้วยคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นผู้ควบคุม กำกับ และดูแลความปลอดภัยของการทดลอง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ไม่ให้กรมวิชาการเกษตรต้องสวมหมวกผู้วิจัยและผู้กำกับดูแลในเวลาเดียวกัน อันจะทำให้เกิดข้อครหาได้
ส่วน ดร.อดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ คณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตรอีกคนแสดงความคิดเห็นว่า รู้สึกผิดหวังกับ ครม.ชุดปัจจุบันที่ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภาควิชาการมากมาย และแน่ใจว่าไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ไม่สามารถผลักดันมติเรื่องพืชจีเอ็มโอที่มีความหนักแน่นได้
อย่างไรก็ดี ดร.อดิศักดิ์ จำแนกว่า กลุ่มคนที่ต่อต้านพืชจีเอ็มโอมี 2 กลุ่มคือ กลุ่มนักวิชาการตัวจริงที่รู้จริงแต่อาจไม่เห็นด้วยกับจีเอ็มโอ ซึ่งจำเป็นต้องฟังความคิดเห็นหรือเชิญมาร่วมหารือ
ส่วนอีกกลุ่มคือพวกมีวัตถุประสงค์แอบแฝง มักสร้างภาพ และสร้างสถานการณ์ เช่น การนำมะละกอไปเทหน้ากระทรวง การสวมชุดอวกาศไปตรวจพืชจีเอ็มโอ หรือการอ้างว่าค้นพบการปนเปื้อน
"เมื่อ ครม.กำลังนำเรื่องจีเอ็มโอเข้าพิจารณา ซึ่งคนกลุ่มนี้จะคัดค้านเพียงอย่างเดียวและไม่เปิดรับข้อมูลใหม่ๆ ยึดติดแต่ข้อมูลความผิดพลาดเดิมๆ ในอดีต แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันกลับฟังเสียงนกเสียงกาจนไม่มีอะไรความคืบหน้า ผมขอบันทึกไว้เลยว่า รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบนะ หากไทยเราล้าหลังประเทศอื่น เช่น ฟิลิปปินส์ เพราะพวกท่านทำงานกันแบบผ่านๆ ปัดไปรัฐบาลหน้าทำต่อ ผมรู้สึกผิดหวังกับรัฐบาลชุดนี้” ดร.อดิศักดิ์ กล่าว
ด้าน ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ และรักษาการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวภายหลังถึงข้อกล่าวหาจากที่ประชุมครั้งนี้ที่ระบุว่า ครม.ไม่ตั้งใจออกมติการทดลองพืชจีเอ็มโอภาคสนามและพยายามเตะถ่วงไปให้รัฐบาลหน้าว่า ต้องเข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งจะไม่มีใครได้อะไรดังใจไปทั้งหมด มติครั้งนี้ก็สามารถขยับไปได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น เพราะยังมีคนคัดค้านอยู่มาก
อย่างไรก็ดี แม้จะออกมติให้มีข้อผูกมัดต่างๆ มากมายอย่างนี้แล้วก็ยังถูกตามล้างตามเช็ดจากฝ่ายไม่เห็นด้วย เพราะเรื่องพืชดัดแปลงพันธุกรรมยังเป็นเรื่องที่คนไม่เข้าใจและกลัวกันมาก โดยส่วนตัวเองก็ผิดหวังที่ผลักดันได้แค่นี้ แต่ก็เพียงพอที่จะให้มีการทดสอบพืชจีเอ็มภาคสนามได้เพียงแต่ต้องมีการรายงานเสนอ ครม.มากหน่อยเท่านั้น