นักพฤกษศาสตร์ จุฬาฯ ยืนยันผลห้องปฏิบัติการชี้ "ข้าวโพด" ที่ตรวจพบในแปลงปลูกเกษตรกร จ.พิษณุโลก เป็นจีเอ็มโอแน่นอน อีก 2 สัปดาห์จะระบุได้ว่าเป็นของใคร จวกกระทรวงเกษตรฯ ต้องตื่นตัว เร่งจัดการไม่ให้บานปลาย ด้าน ผอ.ไบโอไทย ชี้สื่อต้องจับตาหากทำทองไม่รู้ร้อนจะเข้าข่ายละเลยหน้าที่ ส่วน รมว.วิทย์ โต้ "ไม่เห็นเป็นไร" ข้าวโพดทั่วไปก็จีเอ็มโอทั้งนั้น
หลังจากที่มีการตรวจพบสิ่งที่เชื่อได้ว่าเป็นข้าวโพดจีเอ็มโอจำนวน 2 ตัวอย่างในแปลงปลูกเกษตรกร จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 25 -26 พ.ย.50 ที่ผ่านมา และตัวแทนมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) ได้ยื่นหนังสือต่อ ศ.ดร.เสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.50 โดยไบโอไทยจะทราบผลการพิสูจน์ภายในสัปดาห์ที่ 2 ของ ม.ค.51
ล่าสุด ผศ.ดร.ปิยะศักดิ์ ชอุ่มพฤกษ์ ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าทีมวิจัยที่ตรวจพบการปนเปื้อน เผยผลการตรวจพิสูจน์ว่า ห้องปฏิบัติการอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ สามารถยืนยันได้แล้วว่า ข้าวโพดที่ตรวจพบเป็นข้าวโพดจีเอ็มโออย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ทีมวิจัยได้ตรวจพบทั้งโครงสร้างยีนที่เป็น 35 เอส โปรโมเตอร์ (35 S promotor) และโครงสร้างโนพาลีน ซินเตส เทอร์มิเนเตอร์ (Nopalin Syntase Terminator) ซึ่งพบมากในพืชดัดแปลงพันธุกรรม ทำให้มั่นใจว่าเป็นพืชจีเอ็มโอแน่นอน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับขบวนรถไฟแล้ว "35 เอส โปรโมเตอร์" เปรียบได้กับส่วนหัวรถจักรที่จะกระตุ้นการทำงานของยีน และ"โนพาลีน ซินเตส เทอร์มิเนเตอร์" จะเปรียบกับท้ายขบวนรถไฟ ซึ่งจะกำหนดว่ายีนจะผลิตโปรตีนไปจนสิ้นสุด ณ จุดใด
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.ปิยะศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่อาจระบุได้ว่าข้าวโพดจีเอ็มที่ตรวจพบจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยเอกชนรายใด เพราะประเทศไทยยังอยู่ในภาวะปลอดกฎหมายไบโอเซฟตีที่จะบังคับและเอาผิดใครได้ ใครจะทำอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น ทำให้อาจมีการลักลอบปลูกข้าวโพดจีเอ็มโอนับกว่า 10 สายพันธุ์จากทั่วโลก จึงไม่อาจระบุได้ว่าเป็นการหลุดรอดมาจากแปลงปลูกของเอกชนที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เคยอนุญาตให้ปลูกมาก่อนหน้านี้หรือไม่
ผศ.ดร.ปิยะศักดิ์ เผยต่อว่า เวลานี้ ห้องปฏิบัติการอาหารจึงเร่งตรวจสอบตัวอย่างที่พบโดยเทียบเคียงกับข้าวโพดจีเอ็มโอแต่ละสายพันธุ์อย่างรอบคอบ รัดกุม และไม่ให้เกิดความผิดพลาด เพราะอาจถูกฟ้องดำเนินคดีได้ โดยต้องใช้เวลาอีกราว 2 สัปดาห์จึงจะทราบผลที่ชัดเจนว่าเป็นข้าวโพดจีเอ็มโอของบริษัทใด
"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐต้องจัดการ โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ ที่ต้องป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อนได้ และเมื่อพบการปนเปื้อนแล้วก็ต้องตื่นตัว ป้องกันไม่ให้ปานปลายไปมากกว่านี้ หากเป็นตัวผมเองคงต้องรีบดูและแก้ไขแล้ว เพราะหากใหญ่โตหรือบานปลายออกไปอาจควบคุมได้ลำบาก เกษตรกรก็ลำบาก เราจะสูญเสียพันธุ์พืชที่มี กระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงทางอาหารที่เราเป็นอินทรีย์อยู่แล้ว และหากปนเปื้อน ก็อาจเกิดคดีฟ้องร้องอีก เช่น สหรัฐฯ อาจมากล่าวหาได้ว่าเราไปขโมยพืชของเขามา " นักพฤกษศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว
เมื่อสอบถามไปยัง ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) หนึ่งในสามกระทรวงหลัก ที่ผลักดันให้มีการทดสอบพืชดัดแปลงพันธุกรรมภาคสนามเรื่อยมา โดยร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่ง ศ.ดร.ยงยุทธ ตอบอย่างมีอารมณ์ว่า เรื่องของการตรวจสอบก็ให้ทำกันต่อไป ไม่ในรัฐบาลนี้ก็ในรัฐบาลหน้า ซึ่งพืชจีเอ็มโอก็เป็นที่แพร่หลายทั่วโลกมากแล้ว
"ไม่เห็นเป็นไรเลย ทุกอย่างมันก็ไม่ใช่ธรรมชาติทั้งนั้น ข้าวโพดที่บริโภคทั่วไป เราก็นำมาผสมสายพันธุ์ ไม่ใช่ด้วยธรรมชาติ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้ใช้เทคนิคใหม่เท่านั้น มันก็เป็นจีเอ็มโอเหมือนกัน ไม่เห็นต่างกันเลย เรื่องการทดสอบก็ให้ทดสอบกันต่อไป" รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าว
ส่วนนายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.ไบโอไทย กล่าวว่า หากผลการพิสูจน์ออกมาชัดเจนแล้ว อยากให้สื่อช่วยติดตามเรื่องดังกล่าวกับกระทรวงเกษตรฯ ด้วยว่ามีการดำเนินการใดๆ กับผู้ลักลอบปลูกหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายแล้ว หากไม่มีการดำเนินการใดๆ เลยย่อมเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่
ขณะที่ความคืบหน้าของการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ น.ส.น้ำทิพย์ เกตุสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ประสานงานไบโอไทย แจ้งว่า ยังไม่มีการแจ้งรายละเอียดใดๆ กลับมายังไบโอไทยเลย