“จ่าจำปา” กลับไปจำขังต่อตอนเย็น “กองทัพภาคที่ 4” แจงเหตุผล ทำไมต้องลงโทษ

พบผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ให้เบิกตัว “จ่าจำปา” ไปเยี่ยมแม่ได้ถึง 5 โมงครึ่ง ก่อนกลับไปจำขังที่เรือนจำทหาร โฆษกกองทัพภาคที่ 4 แจงลงโทษเพราะทำผิดวินัยทหาร แต่ขอบคุณที่ส่งเสียงมา เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมสั่งดูแลครอบครัว เตือนกำลังพลอย่าโพสต์แตกแยกในกรมกอง อีกด้าน “เมียผู้ว่าฯ ตรัง” ดอดเยี่ยมแม่จ่าถึงบ้าน

วันนี้ (20 เม.ย.) กรณีที่ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จำปา หรือ “จ่าจำปา” ทหารสื่อสารประจำหมวดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 5 กองพลทหารราบที่ 5 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ถูกสั่งลงทัณฑ์โดยการจำขัง 45 วัน ณ เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 43 และส่งไปฝึกที่ศูนย์ฝึกธำรงวินัย กองทัพภาคที่ 4 พร้อมสั่งงดบำเหน็จประจำปี 2563 (ครึ่งปีหลัง) หลังเว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ สื่อยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ นำเสนอข่าวหัวข้อ “ไม่สนเป็นผู้ว่าฯ เปิดคลิปเถียงเดือด ชายหัวเกรียนอ้างทหารจะฝ่าด่านห้ามเข้า-ออกตรัง” เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่พบว่าในวันเกิดเหตุ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ กำลังเดินทางไปที่ จ.ตรัง เพราะ นางสุการณ์ทิพย์ จำปา มารดาป่วยหนัก กระทั่งมาถึงด่านตรวจบนถนนแห่งหนึ่ง หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง ระหว่างขออนุญาต นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง มาตรวจพื้นที่พร้อมกับผู้สื่อข่าวและสติงเกอร์ (ผู้สื่อข่าวภูมิภาค) พอดี แม้ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จะลงไปชี้แจง ยืนยันว่า มีเอกสารจากผู้บังคับบัญชา ปรากฏว่า นายลือชัย ไม่อ่านเอกสาร พยายามเสียงแข็ง กล่าวว่า “คุณเป็นหน่วยไหน?” ขณะที่คนรอบข้าง กล่าวว่า “นายคุณมันเล็กเกินไป ให้โทร.หาแม่ทัพเลย”

แม้ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ เห็นว่า ไม่อนุญาตก็ไม่เป็นไร กลับไปใช้เส้นทางหลักเพื่อไปจังหวัดตรัง ปรากฏว่า มีคลิปที่สื่อมวลชนนำมาเผยแพร่ตัดต่อเฉพาะขณะที่ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ แสดงกิริยาไม่เหมาะสมเท่านั้น ทำให้สังคมนักเรียนนายสิบทหารบกไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ทั้งท่าทีของผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และคนรอบข้าง รวมทั้งคำสั่งลงโทษของผู้บังคับบัญชา ที่ทำตามกระแสและรุนแรงเกินไป โดยไม่สอบสวนให้รอบด้าน ทั้งที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ต้องรีบไปดูแลแม่ที่ป่วยหนัก ขณะที่ พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ยังคงให้ลงโทษ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ต่อไป แต่สั่งให้นายทหารและชุดทหารจากกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 5 นำสิ่งของจำเป็นเข้าเยี่ยมมารดาแทน ทำให้มีกระแสทั้งทหารชั้นประทวนและประชาชนทั่วไป ตั้งแฮชแท็ก #Saveจ่าทหาร และ #Saveจ่าจำปา เพื่อเล่าความจริงอีกด้าน พร้อมเรียกร้องให้คืนความยุติธรรม ตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

เฟซบุ๊ก “ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า” ได้เผยแพร่ข่าวระบุว่า พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 และ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดภาพข่าวการลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา จนเกิดกระแสวิจารณ์ในสื่อโซเชียลอย่างกว้างขวางนั้น จากกรณีดังกล่าว พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้รับทราบข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว พร้อมกับขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันสะท้อนความคิดเห็น และความรู้สึกออกมาอย่างจริงใจ โดยได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่า มีการสั่งลงโทษกำลังพลดังกล่าวจริง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของสังคมส่วนใหญ่ จึงได้กำหนดแนวทางดำเนินการดังนี้

1. ด้านข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นการสั่งลงโทษ เนื่องจากได้กระทำผิดวินัยทหารฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และพยายามฝ่าฝืนระเบียบและคำสั่งของจังหวัดตรัง โดยอ้างหนังสือรับรองของผู้บังคับบัญชา เพื่อขอผ่านเส้นทางที่ได้มีคำสั่งห้ามบุคคลภายนอกผ่านเข้าออกอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 4 จะเร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และรับฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมอย่างเร่งด่วนต่อไป

2. ด้านการดูแลครอบครัว ได้สั่งการให้กองพลทหารราบที่ 5 ในฐานะหน่วยบังคับบัญชา จัดทีมแพทย์เข้าทำการดูแลมารดาที่มีโรคประจำตัวและต้องการดูแลเป็นพิเศษ พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกในการรักษาพยาบาลและการดำรงชีวิตอย่างดีที่สุด ให้เป็นไปตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 4 ในการดูแลด้านสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของกำลังพลและครอบครัวตามที่ได้ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง

และ 3. ด้านวินัยทหาร ให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับกวดขันกำลังพลให้ธำรงและรักษาไว้ซึ่งวินัยทหาร การแสดงความคิดเห็นให้อยู่บนพื้นฐานความจริง และไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกภายในกรมกอง พร้อมทั้งให้กำกับดูแลกำลังพลและครอบครัวให้ปฏิบัติตามมาตรการและสนับสนุนส่วนราชการต่างๆ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกองทัพบกที่ได้กำหนดไว้แล้วอย่างเคร่งครัด

ก่อนหน้านี้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เปิดเผยกรณีดังกล่าวว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา เป็นที่น่าสนใจและหลายส่วนให้ความสำคัญ เจ้าหน้าที่หรือใครก็ตามจะเข้าในเขตพื้นที่ห้ามเข้า ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวได้สั่งการให้ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 แพทย์และพยาบาลเข้าไปดูแล ให้การรักษา เวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้กับมารดาของ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ที่บ้าน เพราะเป็นนโยบายปกติที่ให้การดูแลครอบครัวกำลังพลของกองทัพอยู่แล้ว พร้อมเบิกตัว จ.ส.อ.พีรศักดิ์ไปเยี่ยมมารดาที่บ้าน

ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์แบบนี้ ทุกคนทุกส่วนต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะกำลังพลของทหารบก ที่มีคำสั่งชัดเจนอยู่แล้วของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เรื่องมาตรการการการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ต้องให้ความร่วมมือ และยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ฝากเน้นย้ำกำลังพล ยึดคำสั่ง ทำตามหน้าที่ ให้ความร่วมมือ ให้เกียรติการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ ขอยืนยันว่าหากมีการเดินทางผ่านเขตจังหวัดกรณีมีความจำเป็น สามารถกระทำได้ แต่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด ห้ามฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเด็ดขาด





รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 สั่งการให้ พ.อ.อภินันท์ แจ่มแจ้ง เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 5 เบิกตัว จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ออกจากเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 43 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนเดินทางไปเยี่ยมมารดาที่บ้านพักใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง พร้อมกับ พ.ท.นพ.เนาวพงษ์ พงษ์เจริญชัย ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 5 และทีมพยาบาลจากโรงพยาบาลค่ายเทพสตรีศรีสุนทร เพื่อทำการตรวจสุขภาพและจัดยาเวชภัณฑ์พร้อมทั้งพูดคุยให้กำลังใจ โดยพบว่า การเบิกตัว จ.ส.อ.พีรศักดิ์ มีกำหนดเวลา 10.00-17.30 น. หลังจากนั้น จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จะต้องกลับมารับโทษจำขังที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 43 ตามเดิม

นอกจากนี้ยังพบว่า ในวันนี้มีนางเอื้อจิตร เจริญทรัพย์ ภริยา นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายอำพร ณ วิโรจน์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง นายวัลลภ ช่วยบำรุง ปลัดเทศบาลนครตรัง เดินทางไปยังบ้านของ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ในเขตเทศบาลตำบลห้วยยอด เพื่อเข้าเยี่ยมนางสุการณ์ทิพย์อีกด้วย

อ่านประกอบ : ลดกระแสสังคม! ผบ.พล.ร.5 สั่งเบิกตัว "จ่าจำปา" เยี่ยมแม่ป่วยติดเตียง ปิดบัญชีธารน้ำใจยอดกว่า 2 แสน

"อัจฉริยะ" จี้ "บิ๊กแดง" ให้ความเป็นธรรม "จ่าจำปา" ฉะผู้ว่าฯ ตรังไม่ใช่เทวดา - ส.ส.ก้าวไกลวอนทบทวนจำขัง 45 วัน

ธารน้ำใจทะลุแสน! ช่วยแม่ “จ่าจำปา” เหยื่อคลิป “ผู้ว่าฯ ตรัง” มีแต่ทหารชั้นผู้น้อย-ชาวบ้านช่วยกันเอง

ตบหัวลูบหลัง? ผบ.พล.ร.5 ให้ขัง “จ่าจำปา” ต่อ แต่สั่งลูกน้องไปดูแลแม่แทน-ธารน้ำใจช่วยกันเองกว่า 7 หมื่น

แม่ป่วยหนักไร้เหลียวแล! “จ่าทหาร” ถูกจำขัง 45 วัน เถียง “ผู้ว่าฯ ตรัง” ชี้อีกฝ่ายไม่อ่านเอกสาร ซ้ำนักข่าวตัดต่อคลิป