MGR Online ขอนำเสนอ "7 ข่าวฮอตในรอบปี 2562" คัดสรรข่าวเด่น ประเด็นฮอตในรอบปีที่ผ่านมา ทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
อันดับ 1 : วิบากกรรม "ธนาธร"
หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครองมานานเกือบ 5 ปี ในที่สุดก็มีการเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค. 2562 กลายเป็นการแจ้งเกิดนักการเมืองคนรุ่นใหม่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ทายาทไทยซัมมิท ฉายา "ไพร่หมื่นล้าน" ในนามพรรคอนาคตใหม่ ชูนโยบาย "ไทย 2 เท่า" สร้างปรากฎการณ์คว้าคะแนนเสียงไปได้ 6.33 ล้านเสียง กวาดที่นั่ง ส.ส. ไปได้ถึง 81 ที่นั่ง เป็นรองแค่พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ดึงพรรคร่วมรัฐบาลผสม สืบทอดอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย
แต่เป้าหมายสูงสุดของธนาธร จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปก็ไม่ถึงฝั่งฝัน ตายน้ำตื้นตั้งแต่ถือครองหุ้นสื่อ ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ก่อนพิพากษาว่าขัดคุณสมบัติ พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. โดยปริยาย ตามมาด้วยธนาธรให้เงินกู้พรรคอนาคตใหม่ 191.2 ล้านบาท กกต. มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค แถมเกิดปรากฎการณ์งูเห่า 4 ส.ส. แหกมติพรรคช่วย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลโหวตคว่ำมติตั้งกรรมาธิการเช็กบิลมาตรา 44 ของ คสช. ที่สุดแล้วธนาธรตัดสินใจชุมนุมที่สกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน เป็นปฐมบทการเมืองข้างถนนที่จะเจอของจริงในปีหน้า
อันดับ 2 : "ปารีณา" รุกป่า
กลายเป็นดาวดับในสภา สำหรับ "เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์" ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ตามที่สื่อมวลชนรัฐสภาตั้งฉายาส่งท้ายปี สร้างกระแสในแง่ลบบนโลกโซเชียลบ่อยครั้ง แต่ประเด็นหนึ่งที่สังคมคาใจก็คือ ที่ดิน ภบท.5 และ ส.ป.ก. 1,700 ไร่ หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่ทำฟาร์มเลี้ยงไก่ "เขาสนฟาร์ม" มานานกว่า 10 ปี กรมป่าไม้และ ส.ป.ก. ตรวจสอบพบว่าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี 46 ไร่ ขณะที่ปารีณาจากที่เคยฝีปากกล้า เจอเรื่องนี้กลับไม่พูดถึง แถมยังโมเมอ้างทำเอ็มโอยูไว้กับนักข่าว ทั้งที่มีแค่แจกเอกสารข่าวเท่านั้น
หลังกระแสสังคมกดดันไม่หยุด ในที่สุดเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ปารีณาก็ยอมจำนนคืนที่ดินให้ ส.ป.ก. แล้ว ที่น่าอึ้งก็คือ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า น.ส.ปารีณา จะไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำประโยชน์อีก แต่จะไม่ดำเนินคดี อ้างว่าครอบครองพื้นที่ก่อนประกาศเขต ส.ป.ก. ขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ให้เจ้าหน้าที่แจ้งความกับตำรวจ บก.ปทส. เอาผิดกับปารีณา 4 ข้อหาแล้ว แม้จะเจอบิดาอย่าง ทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม ป่วนถึงกรมป่าไม้ แย่งไมโครโฟนจากอธิบดี ปฏิเสธไม่ได้รุกป่า อ้างซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้านก็ตาม
อันดับ 3 : ดับปริศนา "ลันลาเบล"
ปริศนาการเสียชีวิตของพริตตี้สาววัย 25 ปี ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือฉายา "ลันลาเบล" ที่พบศพบนโซฟาล็อบบี้ชั้นล่าง ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังรับงานพริตตี้ รับจ้างชงเหล้าเอนเตอร์เทน ที่บ้านใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนที่พริตตี้บอยวัย 24 ปี รัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือฉายา "น้ำอุ่น" จะอุ้มขึ้นรถกลับไปคอนโดฯ เข้าห้อง ก่อนอุ้มร่างของลันลาเบลมาทิ้งที่ล็อบบี้คอนโดฯ ต่อมาตำรวจจับกุมน้ำอุ่น แจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและอนาจาร รวม 3 ข้อหา เจ้าตัวยอมรับพาลันลาเบลมาจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ข่มขืน
ขณะที่ผลรายงานแพทย์ระบุ ลันลาเบลเสียชีวิตจากการเมาสุราจนช็อก เพราะมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 418 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ตำรวจยังคงขยายผลดำเนินคดี โดยจับกุม นที สถิตย์พงศ์สถาพร และ ชัยพล พรรณา สองพี่น้องเจ้าของบ้าน รวมทั้งผู้ที่ร่วมอยู่ในงานปาร์ตี้มรณะ 6 คน ข้อหาซ่องโจรและร่วมกันทำอนาจาร หลัง "เดียร์" พริตตี้ที่เคยรับงาน แจ้งความว่าถูกมอมเหล้าแล้วถูกสำเร็จความใคร่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. น้ำอุ่นได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลอาญาธนบุรี และประกันตัวในคดีซ่องโจรอีกคดี หลังติดคุกมานานเกือบ 3 เดือน
อันดับ 4 : "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกรต่อเนื่อง
สังคมแตกตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อฆาตกรต่อเนื่อง 5 ศพ "สมคิด พุ่มพวง" วัย 55 ปี ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ไปก่อเหตุฆ่าศพที่ 6 หลังพบศพสาวใหญ่วัย 51 ปี รัศมี มุลิจันทร์ ในบ้านพักที่ ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น สภาพถูกห่อด้วยผ้าห่ม ท่อนล่างเปลือย ถูกมัดที่ลำคอและข้อเท้าอย่างโหดเหี้ยม ตำรวจแกะรอยพบฝีมือของสมคิด สังคมจึงเกิดความกังขา เดิมสมคิดถูกจับกุมเมื่อปี 2548 ศาลสั่งลงโทษประหารชีวิต ต่อมาลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต แต่ติดคุกจริง 14 ปีเพราะประพฤติตัวดี ก่อนพ้นโทษออกจากเรือนจำหนองคายเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผลจากสังคมให้ความสนใจคดีนี้เป็นพิเศษ วันที่ 18 ธ.ค. นายกษิเดช เลิศอุดมธรรม นักศึกษา โดยสารรถไฟขบวนที่ 234 สุรินทร์-กรุงเทพ กับแฟนสาว พบนายสมคิดสวมเสื้อแจ็กเก็ต สวมหมวกและหน้ากากอนามัยอำพรางใบหน้า จึงหนีไปตู้โดยสารอื่นแล้วแจ้งตำรวจ ก่อนจับกุมนายสมคิดได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา พบเจ้าตัวซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ปลายทางสถานีรถไฟอยุธยา รับสารภาพแต่ขอไม่ไปทำแผน อ้างว่าที่ทำไปเพราะบันดาลโทสะ ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
อันดับ 5 : เหยื่อพันล้าน "แชร์แม่มณี"
ในรอบปีที่ผ่านมา มีประชาชนตกเป็นเหยื่อขบวนการต้มตุ๋นหลอกลวงที่เรียกว่า "แชร์แม่มณี" ซึ่งมี วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือเดียร์ วัย 28 ปี เป็นเจ้าของ สร้างโปร์ไฟล์ชีวิตหรูหราในโซเชียล อ้างเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง ร้านทอง รถเช่า ก่อนที่จะหลอกลวงเหยื่อร่วมลงทุนออมเงิน 1,000 บาท รับคืน 1,930 บาท เทียบเท่าดอกเบี้ย 93% ต่อเดือน มีผู้คนหลงเชื่อออมเงินจำนวนมาก สุดท้ายถูกบ่ายเบี่ยงไม่ได้รับเงินต้นและดอกเบี้ย แห่แจ้งความกับตำรวจ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กว่า 3 พันราย เสียหายกว่า 1 พันล้านบาท
เมื่อตำรวจตรวจค้นสถานที่ต่างๆ ถึงกับผงะ หนึ่งในนั้นมีห้องตกแต่งคล้ายร้านทอง แต่เป็นทองชุบ ใช้จัดฉากเฟซบุ๊กไลฟ์สร้างความน่าเชื่อถือ แถมมีห้องตกแต่งหรูหราไว้รีวิวเครื่องสำอาง กระทั่งวันที่ 2 พ.ย. ตำรวจจับกุมแม่มณี พร้อมแฟนหนุ่ม เมธี ชิณภา วัย 20 ปี ได้ที่ห้องเช่าในตลาดเอกธานี กม.10 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ยึดทรัพย์มาได้เพียง 30 ล้านบาท เจ้าตัวอ้างไม่ได้โกง แต่การเงินสะดุดเพราะนำเงินบางส่วน 60 ล้านบาทไปซื้อทรัพย์สิน เหน็บแนมเหยื่อว่ามาเพราะความโลภ อยากได้เงินเปอร์เซ็นต์ แม่ข่ายต้องดูแลลูกข่ายไม่ใช่โยนความผิด
อันดับ 6 : "แก๊งงานบวช" กร่างสนามสอบ
สังคมต่างประณามพฤติกรรม "แก๊งงานบวช" ใช้เครื่องเสียงภายในวัดรบกวนการสอบ ก่อนที่จะไม่พอใจยกพวกพังโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. กลุ่มวัยรุ่นนำโดย "เอกไฝ" วัลลภ นุชแฟง วัย 32 ปี หัวหน้าคณะกระตั้วกลองยาวศิษย์หลวงพ่อขาว บุกเข้าไปในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ทำร้าย รปภ. ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู และนักเรียนบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งคุกคามทางเพศนักเรียนหญิง สาเหตุเกิดจากไม่พอใจที่ถูกทางวัดร้องขอให้ลดใช้เสียงในงานอุปสมบท ทั้งที่จ้างเครื่องขยายเสียงและนักร้องกว่า 2 หมื่นบาท
ตำรวจ สน.บางขุนเทียน รวบตัวเอกไฝและพวกรวม 24 คน ข้อหาร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย ข่มขืนใจผู้อื่น มั่วสุม ดื่มแอลกอฮอล์ในวัด รวม 7 ข้อหา เจ้าตัวอ้างจะเข้าไปคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่พวกตนต่างมึนเมา เกิดความวุ่นวายไปทั่ว ในที่สุดเมื่อ 30 ก.ย. ศาลอาญาธนบุรีพิพากษาลงโทษสถานหนัก จำคุกเอกไฝ 17 ปี 5 เดือน ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ จำคุกตั้งแต่ 13 ปี สูงสุด 19 ปี 3 เดือน ปิดฉากคดีท้าท้ายสังคมและกฎหมาย เป็นบทเรียนให้ทุกคนมีสติ ระมัดระวัง เพราะคนที่เดือดร้อนที่สุดคือตัวเองและครอบครัว
อันดับ 7 : "พีท พชร-แพทริเซีย" คู่ร้างแห่งปี
ข่าวบันเทิงที่สังคมให้ความสนใจมากที่สุด คงจะเป็นกรณีที่ "พีช พชร จิราธิวัฒน์" นักแสดงหนุ่มทายาทกลุ่มเซ็นทรัล ตัดสินใจเลิกกับ "แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด" นักแสดงลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เมื่อหนุ่มพีทอันฟอลโลว์ไอจีแพทริเซีย ไม่โผล่ไปร่วมปาร์ตี้วันเกิด ขณะที่ฝ่ายหญิงกลับพบภาพหลุดคู่กับ "โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์" ทายาทเจ้าของธุรกิจหลอดไฟ Racer หมื่นล้านไปกินข้าว พีทระบุเพราะไม่สื่อสารกัน เป็นเรื่องของบุคคล ถึงจุดที่กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้ ส่วนฝ่ายหญิงอ้างที่เลิกกันเพราะการสื่อสาร ปฏิเสธว่าโน้ตเป็นมือที่สาม แค่คนรู้จักไม่ได้สนิท
ต่อมาอินสตาแกรมทั้งคู่ถูกแฮก แคปหน้าจอที่พีชสนทนากับเพื่อน ทำนองว่าอยากให้แพทได้รับบทเรียน ก่อนโจมตีพีชว่าโยนความผิดให้ฝ่ายหญิงให้ไม่มีที่ยืน พีชแจ้งความต่อตำรวจ ปอท. และกล่าวทิ้งท้ายว่า เลิกกันแล้วไม่มีประโยชน์ ไม่อยากได้เขาคืนแล้ว ใครจะคุยกับเขาก็เชิญ ส่วนฝ่ายหญิงกล่าวว่า ไม่ได้คบซ้อนหรือนอกใจพีช ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่สนิท เพราะตอนนั้นเพิ่งมาเปิดใจคุยกัน โดยไม่ได้อธิบายอย่างละเอียด ทำให้ถูกมองว่าเป็นคนโกหก ปัจจุบันความรักครั้งใหม่ของแพทริเซียยังคงหวานชื่น แม้สังคมจะเคยวิจารณ์ตัวเธออย่างหนักก็ตาม
(หมายเหตุ : คอลัมน์ "Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน" ใน MGR Online ขอหยุดตีพิมพ์เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 1 สัปดาห์ และจะกลับมาพบกับผู้อ่านในสัปดาห์ถัดไป)
อ่านประกอบ : #MGRTOP7 ข่าวฮอตในรอบปี 2561 : 17 วัน พาหมูป่ากลับบ้าน | จับก๊วนเปรมชัยล่าเสือดำ | นาฬิกาบิ๊กป้อม ใส่ได้เพื่อนตายแล้ว
#MGRTOP7 ข่าวฮอตในรอบปี 2560 : ก้าวคนละก้าว "พี่ตูนพันล้าน" | "เปรี้ยวหั่นศพ" หนีกรรมไม่พ้น | "น้องเมย" เหยื่อเตรียมทหาร