xs
xsm
sm
md
lg

อีซูซู เที่ยวทั่วไทยสไตล์ NewNormal

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“การท่องเที่ยว” ถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดของ ประเทศไทย ซึ่งนำพารายได้เข้าสู่ประเทศปีละนับแสนล้านบาท แต่จากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การเดินทางท่องเที่ยงต้องหยุดชะงักลงเพื่อยุติการระบาดให้ได้มากที่สุด ซึ่งประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมในการควบคุมการแพร่ระบาดจนไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมานานถึง 100 วัน ทำให้ภาครัฐผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มการเดินทาง และสามารถท่องเที่ยวได้

ดังนั้น เมื่อเริ่มเปิดการท่องเที่ยวได้อีกครั้งทาง “อีซูซุ” จึงได้จัดกิจกรรม เที่ยวไทย สไตล์ NewNormal ขึ้นเพื่อสนับสนุนและฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทย หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตในครั้งนี้ โดยให้สื่อมวลชนใช้รถยนต์ อีซูซุ ดีแมคซ์ โฉมใหม่ล่าสุดเป็นพาหนะในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ ซึ่งให้เลือกสถานที่ท่องเที่ยวได้ตามใจเรา ฉะนั้นเราจึงขอเลือกที่ใกล้ๆ กทม. เพื่อให้เดินทางได้แบบสบายๆ


“หาดเจ้าสำราญ จังหวัดเพชรบุรี” คือจุดหมายปลายทางของเรา แต่เรื่องราวการท่องเที่ยวในแบบของเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่งนั้นจะโฟกัสในเรื่อง “ระหว่างทาง” มากกว่าจุดสิ้นสุด เพราะระหว่างทางมักจะมีเรื่องราวให้น่าจดจำอยู่เสมอ 

อีซูซุ จัดรถให้เราเป็นรุ่น4 ประตู V-Cross 3.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติตัวท็อปสุด หลังได้รถมาเราขับใช้งานแบบวิ่งในเมืองก่อนเพื่อจับจ่ายซื้อของ แม้ตัวรถจะดูใหญ่ แต่เมื่อใช้งานจริงถือว่าไม่มีปัญหาแม้จะเข้าซอยแคบหรือการจอดในช่องจอดของห้างสรรพสินค้า ด้วยระบบเซนเซอร์รอบคันและกล้องมองหลังที่ช่วยให้เรากะระยะจอดได้ไม่ผิดพลาด อาจจะมีหวาดเสียวบ้างในเรื่องของความสูงหากต้องเข้าห้างที่เพดานต่ำ แต่ขอให้มั่นใจว่ารอดผ่านได้


การเดินทางออกไปยังจังหวัดเพชรบุรีในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้เราเลือกใช้เส้นทางถนนสายรอง โดยวิ่งออกทางนครปฐม และใช้สายรองวิ่งลัดเลาะไปตามถนนดำเพื่อทะลุออกไปยังเส้นตลาดน้ำอัมพวา หลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นและช่วยย่นระยะเวลาไปได้ไม่น้อย แต่การเลือกใช้เส้นทางรองแบบนี้บวกกับการนำทางของGoogle Map สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักไว้เสมอคือ ถนนที่ไม่คาดคิด และเราก็เจอกับเหตุการณ์เช่นนั้น

ช่วงลัดเลาะเพื่อมุ่งหน้าตลาดน้ำดำเนิน สภาพถนนค่อนข้างดี เป็นแบบ 2 เลนสวนกัน วิวสองข้างทางนั้นสวยงามตามธรรมชาติ แต่แล้วขับไปเริ่มสังเกตุว่าเลนหนึ่งนั้นลาดยางอย่างดีและอีกเลนนั้นกลับเป็นถนนลูกรัง แล้วก็มีรถบรรทุกหลายคันจอดเรียงขวางไปหนึ่งเลนแบบงงๆ และเมื่อขับมาถึงคันหน้าสุด ...ใช่ครับ...เป็นไปตามที่ทุกท่านคาดไว้ ถนนกำลังลาดยางมะตอย มีทั้งรถใหญ่และเครื่องจักรกำลังทำงานอยู่


จากที่วิ่งถนนเรียบสบายๆ ตอนนี้เราต้องมาวิ่งบนถนนที่มีพื้นผิวไม่ต่างจากอุกาบาต เรียกว่า ได้โชว์สมรรถนะของ ดีแมคซ์ วี-ครอส อย่างเต็มที่ นับว่าเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานในลักษณะนี้เป็นอย่างมาก พร้อมลุยผ่านทุกสถานการณ์ได้อย่างสบาย ไม่ต้องกังวลว่าขับผ่านได้หรือรถจะได้รับความเสียหาย

โดยเส้นทางนี้เราต้องขับผ่านวัดหลายแห่งแน่นอนว่าไม่พลาดในการแวะเพื่อเยี่ยมชมและอุดหนุนแม่ค้าภายในวัดเหล่านั้น ซึ่งแทบทุกจุดที่เราไปเหล่าแม่ค้าพ่อค้าต้อนรับเป็นอย่างดี เสน่ห์แบบไทยๆคือการได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับแม่ค้ากลับมาอีกครั้ง เช่น การแนะนำการเลือกส้มโอ ที่ไม่ต้องเน้นผิว แต่เน้นน้ำหนัก ยิ่งลูกใหญ่แต่เบานั่นหมายความว่า ส้มโอลูกนั้นจะเป็นฝ้า ทานไม่อร่อย ส้มโอดีต้องหนักมือ เป็นต้น

หลังจากการจุดนั้นมาเราออกมาวิ่งต่อไปเรื่อยจนถึงถนนธนบุรี-ปากท่อ แต่เราเลือกใช้ทางรองโดยไปวิ่งเส้น เลียบชายฝั่งทะเล และเหมือนเส้นทางก่อนหน้า เราแวะเยี่ยมชมวัดและสถานที่น่าสนใจตลอดเส้นทาง ส่วนสิ่งที่ขาดไม่ได้แม้จะทะลุข้ามมาเส้นทางอีกจังหวัดแล้วนั่นก็คือ การก่อสร้างถนน


ไม่ต่ำกว่า 2 ช่วง ที่เราต้องวิ่งผ่านถนนผิวดาวอังคาร ที่มีทั้งกรวดเม็ดเล็กเม็ดใหญ่ เรียกว่าถ้าใช้รถเก๋งหรือที่ไม่ใช่ปิกอัพหรือเอสยูวียกสูงแล้ว มีโอกาสที่ยางหรือช่วงล่างจะได้รับความเสียหายได้เลยทีเดียว ไม่นับบางช่วงของถนนที่มีหลุมดักล้อรถหรือเนินที่สามารถสร้างความเสียหายหากขับแล้วตกลงไปแรงๆ ทำให้เรารู้สึกดีมากกับการขับ อีซูซุ ดีแมคซ์ วี-ครอส ในรอบนี้ เพราะนี่คือรถที่ไม่กลัวความย่ำแย่ของพื้นผิวถนนแบบนั้น

ในส่วนของความรู้สึกในการขับขี่ทบทวนกันสั้นๆ ยังคงนุ่มในแบบรถปิกอัพจะให้เทียบเท่ารถเก๋งคงไม่ใช่ แต่มีดีอย่างที่บอกไปคือ การลุยและความทนทานไม่หวั่นต่อพื้นผิวที่เลวร้าย พวงมาลัยบังคับควบคุมแม่นยำ การเร่งและการตอบสนองของเครื่องยนต์เหมาะสมกันดีกับตัวเลขกำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร

เบาะนั่งทางด้านหลัง จากการสอบถามผู้โดยสารที่เชี่ยวชาญการนั่งทางด้านหลังเป็นประจำ ได้รับคำตอบว่า นั่งและนอนหลับได้สบาย มีสะเทือนบ้างตามจังหวะ แต่ไม่เวียนหัวหรือเมารถแต่อย่างใด


ส่วนสิ่งที่จะลืมไม่ได้เลยคือ อัตราการบริโภคน้ำมัน การขับของเรามีครบทั้งวิ่งเร็ว วิ่งช้า จอดรถติดเครื่องยนต์รอ ทั้งใช้งานในเมือง ตัวเลขตามการแสดงผลบนหน้าจอ หลังขับผ่านระยะทางรวมกว่า 300 กม. เราเห็นตัวเลข 13.1 กม./ลิตร และเมื่อขากลับขับใช้งานในเมืองต่อไปจนถึงตัวเลขสุดท้ายก่อนนำรถส่งคืน ตัวเลขระบุ 12.4 กม./ลิตร กับระยะทางวิ่งทั้งหมดกว่า 480 กม. โดยระดับน้ำมันจากเต็มถังหายไปเพียงครึ่งเดียว สมมุติฐานง่ายๆ น้ำมันเต็มถังวิ่งจนหมดถังยังไงต้องขับได้เกิน 1,000 กม. แน่นอน


บทสรุปจากการเดินทางในรอบนี้ หากคุณชอบการท่องเที่ยวและชอบที่จะใช้ทางรอง ค้นหาทางใหม่หรือพึ่งพาGoogle Map เป็นหลักในการเดินทาง รถที่เราแนะนำว่าเหมาะกับพฤติกรรมการใช้รถแบบนี้คือ ปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ และหากอยากได้ การดูแลขั้นเทพด้วยแล้ว แน่นอนคำตอบของการแนะนำนี้คือ “อีซูซุ ดีแมคซ์ วี-ครอส” อย่างไม่ต้องสงสัย ลองใช้แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมอีซูซุจึงได้ความไว้วางใจจากลูกค้าชนิดที่เรียกว่า “ซื้อแล้วซื้ออีก” นั่นเอง






กำลังโหลดความคิดเห็น