“เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ทีมแข่งที่เป็นคนไทย 100% คว้าท็อปโฟร์ ในศึกเอ็นดูรานซ์สุดโหด ซูซูก้า 4 ชั่วโมง ที่แดนปลาดิบ ด้านเฮดโค้ช “ฟิล์ม-รัฐภาคย์” ปลื้มลูกทีมทำผลงานเกินเป้าหมายกับครั้งแรกของทีมไทยในสนามระดับนานาชาติ
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบแบบเอ็นดูรานซ์ รายการ ซูซูก้า 4 ชั่วโมง ประจำปี 2017 ณ สนามซูซูก้า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น ระยะทางต่อรอบ 5.8 กิโลเมตร วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2560 เป็นรอบชิงชนะเลิศ เริ่มชิงชัยเวลา 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
สำหรับทีมแข่งสายเลือดไทย เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นคนไทยทั้งทีม นำทัพโดยนักบิดหลัก “เอ้-วรพงศ์ มาลาหวล” และนักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทย “มุกข์-มุกข์ลดา สารพืช” ใช้รถแข่งฮอนด้า CBR600RR หมายเลข 149 ได้ตำแหน่งออกตัวในอันดับที่ 5 โดยมีกองเชียร์จาก เอ.พี.ฮอนด้า ประเทศไทย บินลัดฟ้ามาให้กำลังใจ กว่า 300 ชีวิต พร้อมด้วยผู้บริหาร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) น้ำมันหล่อลื่น ปตท. ภายใต้แบรนด์ PTT CHALLENGER ผลิตภัณฑ์ของคนไทยร่วมสนับสนุนทีมแข่งไทยในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมหวังให้ทีมนักแข่งสัญชาติไทยได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้ในที่สุด
ก่อนเริ่มต้นการแข่งขันได้มีฝนปรอยลงมาอย่างไม่ขาดสาย ส่งผลให้กรรมการประกาศเป็น “เว็ตเรซ” ทุกทีมต้องเข้าไปเปลี่ยนใช้ยางฝน ก่อนจะประกาศเริ่มต้นการแข่งขันในเวลา 9.30 น. และลดเวลาชิงชัยเหลือ 3 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งจะจบเรซในเวลาเดิมคือ 13.00 น. ตามเวลาในญี่ปุ่น
หลังสัญญาณเริ่มเกม เอ้-วรพงศ์ รับหน้าที่เป็นไม้ที่หนึ่ง ทำการออกสตาร์ทแบบเลอมัง โดยวิ่งข้ามแทร็กและกระโดดขึ้นคร่อมรถแข่งได้ดีกว่านักบิดในกลุ่มหัวแถว พร้อมขยับตำแหน่งขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ก่อนเข้าพิทมาในรอบที่ 11 ขณะที่รั้งอันดับ 6 เพื่อเปลี่ยนใช้ยางสลิค และเติมน้ำมัน ก่อนจะออกมาลุยต่อด้วยการตามหลังกลุ่มนำ 1 รอบสนาม
ผ่านการแข่งขัน 1 ชั่วโมงแรก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 เช่นเดียวกับอันเดับสตาร์ท โดยทำเวลาตามหลังผู้นำอยู่ราว 1 นาที 30 วินาที ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง 1 ชั่วโมง 30 นาทีหลัง มีรถแข่งพลาดล้มขวางไลน์ ส่งผลให้เซฟตี้คาร์ต้องออกมาวิ่งนำขบวนรถแข่งเพื่อเคลียร์แทร็กถึง 5 รอบสนาม ก่อนจะกลับมาลุยกันต่อในช่วง 1 ชั่วโมง 15 นาที ที่เหลือ
ในช่วงชั่วโมงสุดท้ายการแข่งขันเต็มไปด้วยความเข้มข้น วรพงศ์ เข้าพิทเพื่อส่งไม้ต่อให้กับมุกข์ลดาลงทำหน้าที่นักบิดมือสุดท้าย บิดเข้าป้ายเป็นอันดับ 4 ด้วยเวลารวม 3 ชั่วโมง 31 นาที 33 วินาที จบการแข่งขันในอันดับท็อปโฟว์ในฐานะทีมแข่งไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ตามเป้าหมาย และถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของทีม
ทางด้าน “ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์” อดีตนักบิดขวัญใจชาวไทยในเวทีเวิล์ดกรังปรีซ์ ซึ่งรับหน้าที่ “เฮดโค้ช” เปิดเผยว่า “ซูซูก้า 4 ชั่วโมง ถือเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันเอ็นดูรานซ์ที่ท้าทายมาก ในปีนี้มีทีมแข่งเข้าร่วมถึง 62 ทีม และ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ก็คือหนึ่งในทีมที่ลงดวลความเร็วด้วย และเป็นครั้งแรกที่เราใช้ทีมช่าง ทีมนักบิดและทีมซัพพอร์ตทั้งหมดที่เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ เรียกได้ว่านี่คือทีมไทยล้วนๆ ที่ก้าวขึ้นมาแข่งขันในสนามระดับนานาชาติแบบนี้”
“ผลการแข่งขันที่เราทำได้ในอันดับ 4 ถือว่ายอดเยี่ยมมาก นักบิดทั้งสองคน เอ้-วรพงศ์ และมุกข์-มุกข์ลดา ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ขณะที่ทีมช่างก็ทำงานกันอย่างหนัก สำหรับครั้งแรกของพวกเขากับการแข่งขันระดับนานาชาติ เบื้องต้นเราตั้งเป้าไว้เพียงให้จบเรซให้ได้ แต่พอคว้าอันดับ 4 มาได้ ถือเป็นรางวัลที่ดีที่จะสร้างกำลังใจให้ทีมมีการพัฒนาต่อไป”
ทั้งนี้ สำหรับแฟนๆ ความเร็วชาวไทยยังมีลุ้นเชียร์นักบิดไทยกันต่อ ในศึกจักรยานยนต์เอ็นดูรานซ์ชิงแชมป์โลก รายการ ซูซูก้า 8 ชั่วโมง กับการแข่งขันของนักบิดไทยหนึ่งเดียวอย่าง “โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์” รอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม นี้ โดยจะออกสตาร์ท เวลา 9.30 น. ตามเวลาประเทศไทย.
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบแบบเอ็นดูรานซ์ รายการ ซูซูก้า 4 ชั่วโมง ประจำปี 2017 ณ สนามซูซูก้า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น ระยะทางต่อรอบ 5.8 กิโลเมตร วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2560 เป็นรอบชิงชนะเลิศ เริ่มชิงชัยเวลา 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
สำหรับทีมแข่งสายเลือดไทย เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นคนไทยทั้งทีม นำทัพโดยนักบิดหลัก “เอ้-วรพงศ์ มาลาหวล” และนักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทย “มุกข์-มุกข์ลดา สารพืช” ใช้รถแข่งฮอนด้า CBR600RR หมายเลข 149 ได้ตำแหน่งออกตัวในอันดับที่ 5 โดยมีกองเชียร์จาก เอ.พี.ฮอนด้า ประเทศไทย บินลัดฟ้ามาให้กำลังใจ กว่า 300 ชีวิต พร้อมด้วยผู้บริหาร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) น้ำมันหล่อลื่น ปตท. ภายใต้แบรนด์ PTT CHALLENGER ผลิตภัณฑ์ของคนไทยร่วมสนับสนุนทีมแข่งไทยในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมหวังให้ทีมนักแข่งสัญชาติไทยได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้ในที่สุด
ก่อนเริ่มต้นการแข่งขันได้มีฝนปรอยลงมาอย่างไม่ขาดสาย ส่งผลให้กรรมการประกาศเป็น “เว็ตเรซ” ทุกทีมต้องเข้าไปเปลี่ยนใช้ยางฝน ก่อนจะประกาศเริ่มต้นการแข่งขันในเวลา 9.30 น. และลดเวลาชิงชัยเหลือ 3 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งจะจบเรซในเวลาเดิมคือ 13.00 น. ตามเวลาในญี่ปุ่น
หลังสัญญาณเริ่มเกม เอ้-วรพงศ์ รับหน้าที่เป็นไม้ที่หนึ่ง ทำการออกสตาร์ทแบบเลอมัง โดยวิ่งข้ามแทร็กและกระโดดขึ้นคร่อมรถแข่งได้ดีกว่านักบิดในกลุ่มหัวแถว พร้อมขยับตำแหน่งขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ก่อนเข้าพิทมาในรอบที่ 11 ขณะที่รั้งอันดับ 6 เพื่อเปลี่ยนใช้ยางสลิค และเติมน้ำมัน ก่อนจะออกมาลุยต่อด้วยการตามหลังกลุ่มนำ 1 รอบสนาม
ผ่านการแข่งขัน 1 ชั่วโมงแรก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 เช่นเดียวกับอันเดับสตาร์ท โดยทำเวลาตามหลังผู้นำอยู่ราว 1 นาที 30 วินาที ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง 1 ชั่วโมง 30 นาทีหลัง มีรถแข่งพลาดล้มขวางไลน์ ส่งผลให้เซฟตี้คาร์ต้องออกมาวิ่งนำขบวนรถแข่งเพื่อเคลียร์แทร็กถึง 5 รอบสนาม ก่อนจะกลับมาลุยกันต่อในช่วง 1 ชั่วโมง 15 นาที ที่เหลือ
ในช่วงชั่วโมงสุดท้ายการแข่งขันเต็มไปด้วยความเข้มข้น วรพงศ์ เข้าพิทเพื่อส่งไม้ต่อให้กับมุกข์ลดาลงทำหน้าที่นักบิดมือสุดท้าย บิดเข้าป้ายเป็นอันดับ 4 ด้วยเวลารวม 3 ชั่วโมง 31 นาที 33 วินาที จบการแข่งขันในอันดับท็อปโฟว์ในฐานะทีมแข่งไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ตามเป้าหมาย และถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของทีม
ทางด้าน “ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์” อดีตนักบิดขวัญใจชาวไทยในเวทีเวิล์ดกรังปรีซ์ ซึ่งรับหน้าที่ “เฮดโค้ช” เปิดเผยว่า “ซูซูก้า 4 ชั่วโมง ถือเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันเอ็นดูรานซ์ที่ท้าทายมาก ในปีนี้มีทีมแข่งเข้าร่วมถึง 62 ทีม และ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ก็คือหนึ่งในทีมที่ลงดวลความเร็วด้วย และเป็นครั้งแรกที่เราใช้ทีมช่าง ทีมนักบิดและทีมซัพพอร์ตทั้งหมดที่เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ เรียกได้ว่านี่คือทีมไทยล้วนๆ ที่ก้าวขึ้นมาแข่งขันในสนามระดับนานาชาติแบบนี้”
“ผลการแข่งขันที่เราทำได้ในอันดับ 4 ถือว่ายอดเยี่ยมมาก นักบิดทั้งสองคน เอ้-วรพงศ์ และมุกข์-มุกข์ลดา ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ขณะที่ทีมช่างก็ทำงานกันอย่างหนัก สำหรับครั้งแรกของพวกเขากับการแข่งขันระดับนานาชาติ เบื้องต้นเราตั้งเป้าไว้เพียงให้จบเรซให้ได้ แต่พอคว้าอันดับ 4 มาได้ ถือเป็นรางวัลที่ดีที่จะสร้างกำลังใจให้ทีมมีการพัฒนาต่อไป”
ทั้งนี้ สำหรับแฟนๆ ความเร็วชาวไทยยังมีลุ้นเชียร์นักบิดไทยกันต่อ ในศึกจักรยานยนต์เอ็นดูรานซ์ชิงแชมป์โลก รายการ ซูซูก้า 8 ชั่วโมง กับการแข่งขันของนักบิดไทยหนึ่งเดียวอย่าง “โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์” รอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม นี้ โดยจะออกสตาร์ท เวลา 9.30 น. ตามเวลาประเทศไทย.
