ทัพนักบิดสายเลือดไทย สังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ พร้อม “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ กุนซือนักบิดมากประสบการณ์ และทีมช่างฝีมือดีจากประเทศไทย แพ็คกระเป๋าบินลัดฟ้าสู่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเตรียมตัวทำศึกครั้งสำคัญในรายการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก “ซูซูก้า เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” ณ สนาม ซูซูก้า เซอร์กิต วันที่ 29 กรกฎาคมนี้
หลังจากทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ทำการคัดเลือกนักบิดที่ดีที่สุด เข้าร่วมทีมสำหรับการแข่งขัน ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง และเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมสภาพร่างกายและจิตใจจนมีความพร้อมสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ถึงเวลาที่ทีมแข่งสัญชาติไทย ที่นักแข่งและทีมงานล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้นจะออกเดินทางไปสู่สมรภูมิความทรหดระดับโลกที่ญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG644 เวลา 00.05 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
สำหรับตัวแทนนักบิดของ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จะลงแข่งด้วยรถหมายเลข 149 ซึ่งถือเป็นนักแข่งสัญชาติไทยที่ล้วนแต่มีประสบการณ์ลงแข่งรายการความเร็วระดับเอเชียมาอย่างโชกโชนไม่ว่าจะเป็น “เจ้าเอ้” วรพงศ์ มาลาหวล, “เจ้าดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง และนักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของวงการ “น้องมุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ซึ่งทั้งหมดได้ผ่านการคัดเลือกจากทีมงานของ เอ.พี.ฮอนด้า พร้อมได้ร่วมเก็บตัวฝึกซ้อมโดยมี เฮดโค้ช “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดขวัญใจชาวไทยในการแข่งขันระดับโลก โมโตทู คอยเป็นพี่เลี้ยงดูแล ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
โดยก่อนเดินทาง “เจ้าเอ้” วรพงศ์ มาลาหวล เป็นตัวแทนพูดถึงความพร้อมสำหรับการลุยศึกใหญ่ที่ญี่ปุ่นว่า “ก่อนหน้านี้พวกเราได้มีโอกาสนำรถลงซ้อมที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัด บุรีรัมย์ แล้วก็มีโอกาสไปซ้อมที่สนามจริงที่สนามในญี่ปุ่น ซึ่งเวลาต่อรอบที่ออกมาถือว่าค่อนข้างดี ใกล้เคียงกับเวลาของคนที่เป็นแชมป์ปีที่แล้ว ขณะเดียวกันสนามแห่งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่บริเวณทางโค้งที่ต้องใช้ความเร็วสูง เราได้มีการพูดคุยกับทีมช่างแล้วว่าจะมีการปรับเซ็ตรถอย่างไรบ้างก่อนถึงวันแข่งจริง ส่วนพวกเราทุกคนมีความพร้อมมากสำหรับการเป็นตัวแทนของประเทศไทย ดังนั้นก็พร้อมสู้เต็มที่ในสนามนี้”
ด้าน "ฟิล์ม"รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดมากประสบการณ์ที่ผันตัวมาเป็น"เฮดโค้ช"ดูแลทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ชุดลุยศึก ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง กล่าวเสริมว่า “ตอนนี้เราได้ทีมที่พร้อมที่สุดสำหรับการแข่งขันแล้ว ที่ผ่านมาน้องๆ ทุกคนก็ตั้งใจกันเต็มที่ทั้งเรื่องการฝึกซ้อมในสนามหรือการออกกำลังฟิตร่างกาย เพราะรายการนี้ไม่ได้ใช้เพียงแค่ความเร็วอย่างเดียวเพราะต้องใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายเข้าสู้ด้วย ขณะที่ทีมช่างของเราก็มีประสบการณ์ปรับแต่งและคุ้นเคยกับรถระดับ 600 ซีซี. เป็นอย่างดี ดังนั้นเรื่องฝีมือช่างของเราเก่งไม่แพ้ทีมช่างจากเมืองนอกแน่นอน เหลือเพียงการทดสอบครั้งสุดท้ายที่เราจะมาจัดทีมกันอีกทีว่าใครจะเป็นมือ 1-2 ในตอนแข่งขัน ซึ่งตอนนี้เราก็นับถอยหลังรอให้ถึงวันแข่งจริงแล้ว และอยากให้น้องๆ ทุกคนสู้เต็มที่เพื่อนำผลการแข่งขันที่ดีกลับมาฝากคนไทย”
สำหรับการแข่งขันรถจักรยานยนต์รายการใหญ่ระดับโลก “ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” จะทำการลงสนามชิงชัยกันเริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น. ( ตามเวลาในประเทศไทย ) ในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ ณ สนาม ซูซูก้า เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น
