ข่าวในประเทศ - ตลาดรถอุตสาหกรรมหนักเด้งรับเมกะโปรเจกต์รัฐบาล “โคมัตสุ” ลงทุน 320 ล้านบาทปรับและเพิ่มศูนย์บริการใหม่อีก 7 แห่ง คาดยอดขายปีนี้โตต่อเนื่อง หรือรายได้แตะ 6,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาด 36% ออกแคมเปญผ่อนรถขุดด้วยดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี
นายวิจิตร ตั้งประภาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักเพื่องานก่อสร้างและงานเหมืองแบรนด์“โคมัตสุ” จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนักในปีนี้และปีหน้ายังมีทิศทางเติบโต เนื่องจากมีการลงทุนใหญ่ของภาครัฐ (เมกะโปรเจกต์) ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส2 ตลอดจนการขุดคลอง บึง ต่างๆตามงบป้องกันภัยแล้ง โดยคาดว่าปีงบประมาณนี้ (เม.ย.2559 - มี.ค.2560) ตลาดรวมของรถประเภทนี้(รถขุด รถตัก รถดัน รถบรรทุกเทท้าย เป็นต้น) จะทำได้ 4,000 คัน เติบโต 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (3,800 คัน)
ในส่วนของโคมัตสุเองที่มีทั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย และคลังอะไหล่ และดำเนินธุรกิจด้านลิสซิ่งเอง ยังเดินหน้าลุยต่อเนื่องตามนโยบายของบริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่นที่ให้ไทยเป็น “วันแลนด์” หรือศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ ล่าสุดลงทุน 320 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน)เพื่อขยายและปรับปรุงสาขาโคมัตสุให้เป็นศูนย์บริการครบวงจร(ขาย-บริการหลังการขาย และอะไหล่) ปีนี้มี 3 แห่งคือ อุบลราชธานี สระแก้ว และนครสวรรค์ ส่วนปีหน้าอีก 4 แห่งคือ เชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก ซึ่งทั้งหมดเป็นการปรับปรุงใหม่ และจะมีที่สร้างเพิ่มเติมคือมุกดาหาร
ขณะเดียวกันบริษัทเพิ่งขยายธุรกิจไปยังประเทศกัมพูชา โดยร่วมกับพันธมิตรท่องถิ่นเปิดเป็นบริษัท อังกอร์ มอเตอร์เวอคส์ จำกัด จำหน่ายเครื่องจักรกลหนักโคมัตสุพร้อมบริการหลังการขายในประเทศกัมพูชา คาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 50 คันตากตลาดรวม 300 คัน(ไม่รวมรถใช้แล้ว)
ส่วนยอดขายในประเทศไทยในปีงบประมาณนี้ตั้งไว้ 1,200 คัน (ไม่รวมรถใช้แล้ว)หรือคิดเป็นมูลค่า 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ทำได้ 870 คัน มูลค่า 5,800 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 22% เป็น 36% ถือเป็นผู้นำในตลาดเครื่องจักรกลหนักของประเทศไทย (ที่สองคือ “แคตเตอร์พิลล่าร์”)
สำหรับรถที่ทำยอดขายหลักคือรถขุด โดยโคมัตสุมีขายตั้งแต่รุ่นเล็ก 3 ตันราคาประมาณ 1.5 ล้านบาท ไปจนถึงรุ่นใหญ่ 300 ตัน ราคา 110 ล้านบาท พร้อมทำโปรโมชันช่วงนี้คือ ผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี
อนึ่ง ธุรกิจโคมัตสุในไทยเริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2499 จากบริษัท สยามวิศวการ จำกัด ที่ได้รับการแต่งตั้งจากโคมัตสุ ประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศเป็นรายแรกของโลก จนในปีพ.ศ. 2503 เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท บางกอกมอเตอร์เวอคส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักเพื่องานก่อสร้างและงานเหมือง รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย และในปีพ.ศ. 2553 เปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้งเป็น บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด ขณะที่โรงงานบางกอกโคมัตสุ ปัจุบันผลิตรถขุดและรถตักเพื่อขายในไทยและส่งออกไป 15 ประเทศทั่วโลก ด้วยกำลังการผลิต 6,000 คันต่อปี
นายวิจิตร ตั้งประภาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักเพื่องานก่อสร้างและงานเหมืองแบรนด์“โคมัตสุ” จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนักในปีนี้และปีหน้ายังมีทิศทางเติบโต เนื่องจากมีการลงทุนใหญ่ของภาครัฐ (เมกะโปรเจกต์) ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส2 ตลอดจนการขุดคลอง บึง ต่างๆตามงบป้องกันภัยแล้ง โดยคาดว่าปีงบประมาณนี้ (เม.ย.2559 - มี.ค.2560) ตลาดรวมของรถประเภทนี้(รถขุด รถตัก รถดัน รถบรรทุกเทท้าย เป็นต้น) จะทำได้ 4,000 คัน เติบโต 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (3,800 คัน)
ในส่วนของโคมัตสุเองที่มีทั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย และคลังอะไหล่ และดำเนินธุรกิจด้านลิสซิ่งเอง ยังเดินหน้าลุยต่อเนื่องตามนโยบายของบริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่นที่ให้ไทยเป็น “วันแลนด์” หรือศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ ล่าสุดลงทุน 320 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน)เพื่อขยายและปรับปรุงสาขาโคมัตสุให้เป็นศูนย์บริการครบวงจร(ขาย-บริการหลังการขาย และอะไหล่) ปีนี้มี 3 แห่งคือ อุบลราชธานี สระแก้ว และนครสวรรค์ ส่วนปีหน้าอีก 4 แห่งคือ เชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก ซึ่งทั้งหมดเป็นการปรับปรุงใหม่ และจะมีที่สร้างเพิ่มเติมคือมุกดาหาร
ขณะเดียวกันบริษัทเพิ่งขยายธุรกิจไปยังประเทศกัมพูชา โดยร่วมกับพันธมิตรท่องถิ่นเปิดเป็นบริษัท อังกอร์ มอเตอร์เวอคส์ จำกัด จำหน่ายเครื่องจักรกลหนักโคมัตสุพร้อมบริการหลังการขายในประเทศกัมพูชา คาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 50 คันตากตลาดรวม 300 คัน(ไม่รวมรถใช้แล้ว)
ส่วนยอดขายในประเทศไทยในปีงบประมาณนี้ตั้งไว้ 1,200 คัน (ไม่รวมรถใช้แล้ว)หรือคิดเป็นมูลค่า 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ทำได้ 870 คัน มูลค่า 5,800 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 22% เป็น 36% ถือเป็นผู้นำในตลาดเครื่องจักรกลหนักของประเทศไทย (ที่สองคือ “แคตเตอร์พิลล่าร์”)
สำหรับรถที่ทำยอดขายหลักคือรถขุด โดยโคมัตสุมีขายตั้งแต่รุ่นเล็ก 3 ตันราคาประมาณ 1.5 ล้านบาท ไปจนถึงรุ่นใหญ่ 300 ตัน ราคา 110 ล้านบาท พร้อมทำโปรโมชันช่วงนี้คือ ผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี
อนึ่ง ธุรกิจโคมัตสุในไทยเริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2499 จากบริษัท สยามวิศวการ จำกัด ที่ได้รับการแต่งตั้งจากโคมัตสุ ประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศเป็นรายแรกของโลก จนในปีพ.ศ. 2503 เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท บางกอกมอเตอร์เวอคส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักเพื่องานก่อสร้างและงานเหมือง รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย และในปีพ.ศ. 2553 เปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้งเป็น บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด ขณะที่โรงงานบางกอกโคมัตสุ ปัจุบันผลิตรถขุดและรถตักเพื่อขายในไทยและส่งออกไป 15 ประเทศทั่วโลก ด้วยกำลังการผลิต 6,000 คันต่อปี