ลามิน่า เดินหน้ากิจกรรมเพื่อสังคมตอบแทนแผ่นดินเกิด ภายใต้โครงการ “รักษ์โลกกับลามิน่า” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ปลูกฟื้นฟูป่า 50 ไร่ ในพื้นที่สถานีวนวัฒนวิจัยหมูสี ต. หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รวมคืนผืนป่าให้กับประเทศไทยแล้วกว่า 360 ไร่
บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารลามิน่า ฟิล์มกลุ่มพิเศษลูมาร์ ผลิตโดยซีพีฟิล์มอิงค์ มาตรฐานไอเอสโอ 9001 ในเครือบริษัท อีสท์แมน เคมิคัล จากสหรัฐอเมริกา อุปกรณ์บรรทุกสัมภาระธูเล่ จากสวีเดน ผลิตภัณฑ์เคลือบปกป้องรถยนต์ เรือ อากาศยาน ไทรบอส จากอังกฤษ และผลิตภัณฑ์ลำโพงติดรถยนต์ระดับไฮเอนด์ โซนิค ดีไซน์ จากญี่ปุ่น แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยนางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ นำทีมปลูกป่าเพิ่มเติม 50 ไร่ ในโครงการรักษ์โลกกับลามิน่าต่อเนื่องเป็นปีที่ 9
ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายสุชาติ กัลยาวงศา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ ผู้แทนอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานในพิธี และได้รับความร่วมมือจากกรมป่าไม้, ชมรมรถขับเคลื่อนสี่ล้อกลุ่มกระทิงโทน, ครู นักเรียน และชุมชนบ้านหมูสี คณะผู้บริหารศูนย์ตัวแทนจำหน่าย กลุ่มลามิน่าฟิล์มแฟนเพจ ผู้ใช้ฟิล์มกรองแสงลามิน่า สื่อมวลชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันปลูกป่าพลิกฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ จำนวนทั้งสิ้น 50 ไร่ ณ สถานีวนวัฒนวิจัยหมูสี ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ. นครราชสีมา
โดยจะปลูกป่าภายใต้ชื่อ “เบญจพรรณ พลัส วัน” หมายถึงไม้พื้นเมืองหลักของป่าเบญจพรรณ 5 ชนิด ได้แก่ แดง มะค่าโมง ชิงชัน ประดู่ป่า และสัก สำหรับพลัส วัน คือไม้พะยูง รวมทั้งหมด 6 ชนิด ซึ่งเป็นไม้มีค่าอยู่คู่ชาติไทย แต่ปัจจุบันถูกตัดและทำลายจนแทบหมดจากป่าธรรมชาติ การปลูกป่าครั้งนี้จึงเป็นการปลูกไม้มีค่า เพื่อสร้างป่าเบญจพรรณให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังได้มอบเงินเพื่อสนับสนุนการดูแลพื้นป่าดังกล่าวอย่างต่อเนื่องอีก 2 ปี เพื่อการบำรุงรักษาต้นไม้ในโครงการให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งการปลูกป่าในโครงการนี้มีอัตรารอดและเติบโตสูงถึง 95% พร้อมทั้งได้บริจาคอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียนในชุมชน ได้แก่ โรงเรียนบ้านคลองดินดำ และโรงเรียนบ้านคลองเดื่อ เพื่อสนับสนุนด้านกีฬาแก่เยาวชนในพื้นที่อีกด้วย
จันทร์นภาได้เปิดเผยถึงโครงการนี้ว่า “วัตถุประสงค์ของโครงการรักษ์โลกกับลามิน่าเพื่อฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมลดปัญหาสภาวะโลกร้อนที่เผชิญอยู่ในปัจจุบันเปรียบเสมือนการติดฟิล์มกรองแสงเพื่อช่วยลดความร้อนให้กับโลก โดยได้แนวคิดมาจากการติดฟิล์มเพื่อลดความความร้อนในรถยนต์และอาคารบ้านเรือน ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายฟิล์มกรองแสงได้นำมาใช้ในการดำเนินโครงการนี้”
นับตั้งแต่เริ่มโครงการแรกในปี พ.ศ.2551 จนถึงโครงการล่าสุดในปีนี้ รักษ์โลกกับลามิน่าได้คืนผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ให้ประเทศไทยไปแล้วกว่า 360 ไร่ รวมถึงยังได้ขยายขอบเขตของโครงการเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโป่งเพื่อเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า หรือแม้แต่การปลูกปะการังเพื่อช่วยฟื้นฟูทะเลไทยในโครงการที่ดำเนินการก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ โครงการรักษ์โลกกับลามิน่า จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนองแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการรักษาสภาพทางนิเวศวิทยาสิ่งแวดล้อม สนับสนุนโครงการทำดีเพื่อแผ่นดิน โดยลามิน่าริเริ่มโครงการนี้ด้วยความตั้งใจที่จะปลุกจิตสำนึกให้เกิดความรักสิ่งแวดล้อม เกิดความหวงแหนและเล็งเห็นความสำคัญของต้นไม้ที่มีต่อสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของมนุษย์
บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารลามิน่า ฟิล์มกลุ่มพิเศษลูมาร์ ผลิตโดยซีพีฟิล์มอิงค์ มาตรฐานไอเอสโอ 9001 ในเครือบริษัท อีสท์แมน เคมิคัล จากสหรัฐอเมริกา อุปกรณ์บรรทุกสัมภาระธูเล่ จากสวีเดน ผลิตภัณฑ์เคลือบปกป้องรถยนต์ เรือ อากาศยาน ไทรบอส จากอังกฤษ และผลิตภัณฑ์ลำโพงติดรถยนต์ระดับไฮเอนด์ โซนิค ดีไซน์ จากญี่ปุ่น แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยนางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ นำทีมปลูกป่าเพิ่มเติม 50 ไร่ ในโครงการรักษ์โลกกับลามิน่าต่อเนื่องเป็นปีที่ 9
ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายสุชาติ กัลยาวงศา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ ผู้แทนอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานในพิธี และได้รับความร่วมมือจากกรมป่าไม้, ชมรมรถขับเคลื่อนสี่ล้อกลุ่มกระทิงโทน, ครู นักเรียน และชุมชนบ้านหมูสี คณะผู้บริหารศูนย์ตัวแทนจำหน่าย กลุ่มลามิน่าฟิล์มแฟนเพจ ผู้ใช้ฟิล์มกรองแสงลามิน่า สื่อมวลชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันปลูกป่าพลิกฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ จำนวนทั้งสิ้น 50 ไร่ ณ สถานีวนวัฒนวิจัยหมูสี ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ. นครราชสีมา
โดยจะปลูกป่าภายใต้ชื่อ “เบญจพรรณ พลัส วัน” หมายถึงไม้พื้นเมืองหลักของป่าเบญจพรรณ 5 ชนิด ได้แก่ แดง มะค่าโมง ชิงชัน ประดู่ป่า และสัก สำหรับพลัส วัน คือไม้พะยูง รวมทั้งหมด 6 ชนิด ซึ่งเป็นไม้มีค่าอยู่คู่ชาติไทย แต่ปัจจุบันถูกตัดและทำลายจนแทบหมดจากป่าธรรมชาติ การปลูกป่าครั้งนี้จึงเป็นการปลูกไม้มีค่า เพื่อสร้างป่าเบญจพรรณให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังได้มอบเงินเพื่อสนับสนุนการดูแลพื้นป่าดังกล่าวอย่างต่อเนื่องอีก 2 ปี เพื่อการบำรุงรักษาต้นไม้ในโครงการให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งการปลูกป่าในโครงการนี้มีอัตรารอดและเติบโตสูงถึง 95% พร้อมทั้งได้บริจาคอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียนในชุมชน ได้แก่ โรงเรียนบ้านคลองดินดำ และโรงเรียนบ้านคลองเดื่อ เพื่อสนับสนุนด้านกีฬาแก่เยาวชนในพื้นที่อีกด้วย
จันทร์นภาได้เปิดเผยถึงโครงการนี้ว่า “วัตถุประสงค์ของโครงการรักษ์โลกกับลามิน่าเพื่อฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมลดปัญหาสภาวะโลกร้อนที่เผชิญอยู่ในปัจจุบันเปรียบเสมือนการติดฟิล์มกรองแสงเพื่อช่วยลดความร้อนให้กับโลก โดยได้แนวคิดมาจากการติดฟิล์มเพื่อลดความความร้อนในรถยนต์และอาคารบ้านเรือน ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายฟิล์มกรองแสงได้นำมาใช้ในการดำเนินโครงการนี้”
นับตั้งแต่เริ่มโครงการแรกในปี พ.ศ.2551 จนถึงโครงการล่าสุดในปีนี้ รักษ์โลกกับลามิน่าได้คืนผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ให้ประเทศไทยไปแล้วกว่า 360 ไร่ รวมถึงยังได้ขยายขอบเขตของโครงการเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโป่งเพื่อเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า หรือแม้แต่การปลูกปะการังเพื่อช่วยฟื้นฟูทะเลไทยในโครงการที่ดำเนินการก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ โครงการรักษ์โลกกับลามิน่า จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนองแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการรักษาสภาพทางนิเวศวิทยาสิ่งแวดล้อม สนับสนุนโครงการทำดีเพื่อแผ่นดิน โดยลามิน่าริเริ่มโครงการนี้ด้วยความตั้งใจที่จะปลุกจิตสำนึกให้เกิดความรักสิ่งแวดล้อม เกิดความหวงแหนและเล็งเห็นความสำคัญของต้นไม้ที่มีต่อสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของมนุษย์