“มินิ เพซแมน” (Mini Paceman) น้องใหม่ล่าสุดในตระกูลมินิ หรือนับเป็นตัวถังลำดับที่ 7 ต่อจาก แฮทซ์แบ็ก(R56),เปิดประทุน,คลับแมน(แวกอน),คันทรีแมน(เอสยูวี),คูเป้ และโรดสเตอร์
โดยการพัฒนามีขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ“คันทรีแมน” เอสยูวี 5 ประตูทรงกล่อง แต่มินิสร้างสรรค์ให้ “เพซแมน” ปราดเปรียวด้วยโฉมคูเป้ 3 ประตู(ท้ายลาด) ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยูที่ทำกับ X5 X6 และเร็วๆนี้กับX4 ที่ต่อยอดมาจากX3 พร้อมเรียกรถประเภทนี้ Sport Activity Coupe - SAC
รถคันจริงเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งาน “ปารีส มอเตอร์โชว์ 2012” ช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว ขณะที่บ้านเรานำเข้ามาอวดโฉมในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2013 ต้นปีที่ผ่านมา ส่วนราคาขาย มินิ ประเทศไทย เพิ่งเคาะตัวเลขอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้
สำหรับ“มินิ เพซแมน”ยังมากับสามระดับความแรงคือรุ่น คูเปอร์ เอสดี เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ 143 แรงม้า ราคา 3.19 ล้านบาท รุ่นคูเปอร์ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ 122 แรงม้า ราคา 2.49 ล้านบาท และรุ่นที่ผู้เขียนเอามาลองขับ คูเปอร์ เอส เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ALL4 ราคา 2.95 ล้านบาท
ด้านมิติตัวถัง ยาว 4,115 มม. กว้าง 1,786 มม. สูง 1,522 มม. โดยถ้าเทียบความยาว “เพซแมน” จะเหนือกว่ารถมินิทุกรุ่น แต่ถ้าเทียบความสูงกับ“คันทรีแมน”แล้ว อาจจะเตี้ยกว่าเล็กน้อย เช่นเดียวกับน้ำหนักตัวที่เบากว่า 15 กิโลกรัม ส่วนพื้นที่เก็บสำภาระด้านหลังระดับ330 ลิตร และเพิ่มเป็น1,080 ลิตร เมื่อพับเบาะนั่งแถวสองลง
การเข้า-ออกในตำแหน่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า หัวไม่ชน-ขาไม่ติด การเป็นผู้โดยสารด้านหลังเมื่อเลื่อนเบาะแถวหน้าให้ได้ระยะ ก็ต้องมุดตัวข้าไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถึงกับลำบาก(เพระประตูมีความยาว) ส่วนเบาะนั่งแยกซ้าย-ขวา เพราะมีแร็คอเนกประสงค์ขั้นกลาง ซึ่งแร็คของ “เพซแมน” ไม่ได้ยาวตั้งแต่เบาะหลังไปจนถึงคอนโซลหน้าเหมือนกับ “คันทรีแมน”นะครับ ดังนั้นผู้โดยสารสามารถขึ้นฝั่งเดียวกันได้
บานประตูของ “เพซแมน” ค่อนข้างมีน้ำหนัก จึงต้องใช้แรงเปิด-ปิดพอสมควร เช่นเดียวกับน้ำหนักพวงมาลัยและเกียร์ที่ต้องใช้แรงโยกมากกว่ารถทั่วไป ส่วนทัศนวิสัยด้านหน้ามีจำกัดด้วยกระจกบังลมหน้าบีบแคบ ส่วนการมองกระจกหลังก็แทบไม่เหลือพื้นที่ ซึ่งก็เป็นไปตามสไตล์รถคูเป้ที่เน้นเท่เอาไว้ก่อน
เมื่อเทียบกับ“คันทรีแมน”นอกจากบานประตูจะหายไปสองบาน บุคลิกการขับขี่ยังแตกต่างกันนิดหน่อย โดยเฉพาะแรงสะทือนจากพื้นถนน ที่“เพซแมน”จะรับรู้ถึงอาการเด้งสะท้านเข้ามาภายในห้องโดยสารมากกว่า ซึ่งอาจจะเป็นความตั้งใจของวิศวกรในการสร้างการรับรู้แบบสปอร์ต สอดคล้องกับรูปลักษณ์อันปราดเปรียว และล้ออัลลอยด์วงโตขนาด 19 นิ้ว ประกบยางรันเฟลตของพิเรลลี่ ขนาด 225/40 R19 (คันทรีแมนใช้ล้อ 18 นิ้ว ยาง 225/45 R18)
ช่วงล่างหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง เซ็ทมาแน่น เกาะถนนเยี่ยม ขณะที่พวงมาลัยแบบแรคแอนด์พิเนียนผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าตอบสนองการสั่งงานดี แต่ถ้าวัดการทรงตัวและการควบคุมรวมๆ ผู้เขียนชอบ “คันทรีแมน” ที่ให้ความนุ่มและนิ่งแบบสมดุลกว่า
ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร รีดกำลังด้วยเทอร์โบ Twin-Scroll พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VALVETRONIC ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตรที่ 1,700รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.2 วินาที (คันทรีแมน 8.3 วินาที) ส่วนความเร็วสูงสุดแจ้งตัวเลขไว้ 207 กม./ชม.
การออกตัวกระฉับกระเฉง ช่วงเร่งแซงเครื่องยนต์และเกียร์ประสานการทำงานรวดเร็ว รอบแถว 3,000 กดคันเร่งไม่ต้องลึกมากแต่ได้แรงกระชากแบบทันใจ ขณะเดียวกันผู้ขับจะเลือกโยกเปลี่ยนเกียร์เองก็ได้ แต่อย่างที่บอกว่าคันเกียร์แข็งมากและคงต้องใช้แรงพอสมควร หรือถ้าใครนิยมแพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัยก็เชิญตามสะดวก ซึ่งตำแหน่งเกียร์จะแสดงตัวเลขสีส้มชัดเจนในช่องของไมล์วัดรอบ
เหนืออื่นใดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบALL4 มี Electromagnetic Center Differential คอยควบคุมการทำงาน ในภาวะปกติจะส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าเป็นหลัก และจะแบ่งกำลังไปยังล้อคู่หลังตามสภาพการขับขี่แต่ไม่เกิน 50% เพื่อรักษาเสถียรภาพการทรงตัวสูงสุด ทั้งยังมั่นใจกับระบบควบคุมการทรงตัว DSC ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมแรงเบรกตอนเข้าโค้ง CBC ระบบเสริมแรงเบรก BA ด้านถุงลมนิรภัยจัดเต็มกับ คู่หน้า-ด้านข้าง และม่านถุงลมป้องกันศีรษะของผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า
ขณะที่อัตราบริโภคน้ำมัน มินิเคลมไว้ 13 กม./ลิตร ส่วนผู้เขียนทำได้จากสภาพรถติดในเมืองและใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม.บนทางตรงถนนยาว แสดงตัวเลขอยู่ 10-11 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ...ชัดเจนว่า “เพซแมน” เน้นความสนุกในการขับขี่ เรื่องอัตราเร่ง-ความแรงไม่มีข้อสงสัย ช่วงล่าง-การควบคุมออกแนวสปอร์ต คล้ายๆกับเอาตัวถังแฮทซ์แบ็ก 3 ประตูมายกสูงเพิ่มมิติความเสียว ต่างจาก“คันทรีแมน”ที่นุ่มและนิ่งกว่า ซึ่งใครชอบความโดดเด่นสไตล์เอสยูวีคูเป้ และนิยมแบรนด์มินิเป็นทุนเดิม น่าจะตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก
โดยการพัฒนามีขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ“คันทรีแมน” เอสยูวี 5 ประตูทรงกล่อง แต่มินิสร้างสรรค์ให้ “เพซแมน” ปราดเปรียวด้วยโฉมคูเป้ 3 ประตู(ท้ายลาด) ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยูที่ทำกับ X5 X6 และเร็วๆนี้กับX4 ที่ต่อยอดมาจากX3 พร้อมเรียกรถประเภทนี้ Sport Activity Coupe - SAC
รถคันจริงเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งาน “ปารีส มอเตอร์โชว์ 2012” ช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว ขณะที่บ้านเรานำเข้ามาอวดโฉมในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2013 ต้นปีที่ผ่านมา ส่วนราคาขาย มินิ ประเทศไทย เพิ่งเคาะตัวเลขอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้
สำหรับ“มินิ เพซแมน”ยังมากับสามระดับความแรงคือรุ่น คูเปอร์ เอสดี เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ 143 แรงม้า ราคา 3.19 ล้านบาท รุ่นคูเปอร์ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ 122 แรงม้า ราคา 2.49 ล้านบาท และรุ่นที่ผู้เขียนเอามาลองขับ คูเปอร์ เอส เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ALL4 ราคา 2.95 ล้านบาท
ด้านมิติตัวถัง ยาว 4,115 มม. กว้าง 1,786 มม. สูง 1,522 มม. โดยถ้าเทียบความยาว “เพซแมน” จะเหนือกว่ารถมินิทุกรุ่น แต่ถ้าเทียบความสูงกับ“คันทรีแมน”แล้ว อาจจะเตี้ยกว่าเล็กน้อย เช่นเดียวกับน้ำหนักตัวที่เบากว่า 15 กิโลกรัม ส่วนพื้นที่เก็บสำภาระด้านหลังระดับ330 ลิตร และเพิ่มเป็น1,080 ลิตร เมื่อพับเบาะนั่งแถวสองลง
การเข้า-ออกในตำแหน่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า หัวไม่ชน-ขาไม่ติด การเป็นผู้โดยสารด้านหลังเมื่อเลื่อนเบาะแถวหน้าให้ได้ระยะ ก็ต้องมุดตัวข้าไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถึงกับลำบาก(เพระประตูมีความยาว) ส่วนเบาะนั่งแยกซ้าย-ขวา เพราะมีแร็คอเนกประสงค์ขั้นกลาง ซึ่งแร็คของ “เพซแมน” ไม่ได้ยาวตั้งแต่เบาะหลังไปจนถึงคอนโซลหน้าเหมือนกับ “คันทรีแมน”นะครับ ดังนั้นผู้โดยสารสามารถขึ้นฝั่งเดียวกันได้
บานประตูของ “เพซแมน” ค่อนข้างมีน้ำหนัก จึงต้องใช้แรงเปิด-ปิดพอสมควร เช่นเดียวกับน้ำหนักพวงมาลัยและเกียร์ที่ต้องใช้แรงโยกมากกว่ารถทั่วไป ส่วนทัศนวิสัยด้านหน้ามีจำกัดด้วยกระจกบังลมหน้าบีบแคบ ส่วนการมองกระจกหลังก็แทบไม่เหลือพื้นที่ ซึ่งก็เป็นไปตามสไตล์รถคูเป้ที่เน้นเท่เอาไว้ก่อน
เมื่อเทียบกับ“คันทรีแมน”นอกจากบานประตูจะหายไปสองบาน บุคลิกการขับขี่ยังแตกต่างกันนิดหน่อย โดยเฉพาะแรงสะทือนจากพื้นถนน ที่“เพซแมน”จะรับรู้ถึงอาการเด้งสะท้านเข้ามาภายในห้องโดยสารมากกว่า ซึ่งอาจจะเป็นความตั้งใจของวิศวกรในการสร้างการรับรู้แบบสปอร์ต สอดคล้องกับรูปลักษณ์อันปราดเปรียว และล้ออัลลอยด์วงโตขนาด 19 นิ้ว ประกบยางรันเฟลตของพิเรลลี่ ขนาด 225/40 R19 (คันทรีแมนใช้ล้อ 18 นิ้ว ยาง 225/45 R18)
ช่วงล่างหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง เซ็ทมาแน่น เกาะถนนเยี่ยม ขณะที่พวงมาลัยแบบแรคแอนด์พิเนียนผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าตอบสนองการสั่งงานดี แต่ถ้าวัดการทรงตัวและการควบคุมรวมๆ ผู้เขียนชอบ “คันทรีแมน” ที่ให้ความนุ่มและนิ่งแบบสมดุลกว่า
ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร รีดกำลังด้วยเทอร์โบ Twin-Scroll พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VALVETRONIC ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตรที่ 1,700รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.2 วินาที (คันทรีแมน 8.3 วินาที) ส่วนความเร็วสูงสุดแจ้งตัวเลขไว้ 207 กม./ชม.
การออกตัวกระฉับกระเฉง ช่วงเร่งแซงเครื่องยนต์และเกียร์ประสานการทำงานรวดเร็ว รอบแถว 3,000 กดคันเร่งไม่ต้องลึกมากแต่ได้แรงกระชากแบบทันใจ ขณะเดียวกันผู้ขับจะเลือกโยกเปลี่ยนเกียร์เองก็ได้ แต่อย่างที่บอกว่าคันเกียร์แข็งมากและคงต้องใช้แรงพอสมควร หรือถ้าใครนิยมแพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัยก็เชิญตามสะดวก ซึ่งตำแหน่งเกียร์จะแสดงตัวเลขสีส้มชัดเจนในช่องของไมล์วัดรอบ
เหนืออื่นใดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบALL4 มี Electromagnetic Center Differential คอยควบคุมการทำงาน ในภาวะปกติจะส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าเป็นหลัก และจะแบ่งกำลังไปยังล้อคู่หลังตามสภาพการขับขี่แต่ไม่เกิน 50% เพื่อรักษาเสถียรภาพการทรงตัวสูงสุด ทั้งยังมั่นใจกับระบบควบคุมการทรงตัว DSC ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมแรงเบรกตอนเข้าโค้ง CBC ระบบเสริมแรงเบรก BA ด้านถุงลมนิรภัยจัดเต็มกับ คู่หน้า-ด้านข้าง และม่านถุงลมป้องกันศีรษะของผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า
ขณะที่อัตราบริโภคน้ำมัน มินิเคลมไว้ 13 กม./ลิตร ส่วนผู้เขียนทำได้จากสภาพรถติดในเมืองและใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม.บนทางตรงถนนยาว แสดงตัวเลขอยู่ 10-11 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ...ชัดเจนว่า “เพซแมน” เน้นความสนุกในการขับขี่ เรื่องอัตราเร่ง-ความแรงไม่มีข้อสงสัย ช่วงล่าง-การควบคุมออกแนวสปอร์ต คล้ายๆกับเอาตัวถังแฮทซ์แบ็ก 3 ประตูมายกสูงเพิ่มมิติความเสียว ต่างจาก“คันทรีแมน”ที่นุ่มและนิ่งกว่า ซึ่งใครชอบความโดดเด่นสไตล์เอสยูวีคูเป้ และนิยมแบรนด์มินิเป็นทุนเดิม น่าจะตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก