ถือเป็นรถยนต์ที่โดดเด่น และเริ่มเห็นวิ่งบนท้องถนนเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” (Subaru XV) เปิดตัวพร้อมรับจองในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ปลายปีที่แล้ว ส่วนการส่งมอบให้ลูกค้าเริ่มเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
...เห็นว่ายอดจองวิ่งดีนะครับ ตอนนี้น่าจะทยอยส่งมอบรถไปกว่า 1,000 คันหรือจบสิ้นปีคงทำตัวเลขได้ตามเป้าหมาย3,000 คัน ถือว่าพลิกฟื้นสถานการณ์ มอเตอร์อิมเมจ (ล่าสุดใช้ชื่อ “ทีซี ซูบารุ” ในการทำตลาด) ให้กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็นอีกครั้ง เพราะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซูบารุในไทยทำยอดขายรวมทุกรุ่นได้แค่ 200-400 คันต่อปีเท่านั้น
ประเด็นสำคัญที่ทำให้ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” ได้การตอบรับดี คงเริ่มมาจากราคาที่เอื้อมถึงได้ โดยการทำตลาดมากับรุ่นย่อยเดียว 2.0i Premium ราคา 1.35 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก บริษัท ฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสตรี้ จำกัด (ผู้ผลิตซูบารุ)และคู่ค้าสำคัญอย่าง “ตันจง กรุ๊ป” วางแผนที่ใช้โรงงานในประเทศมาเลเซียผลิตเอสยูวีรุ่นนี้ พร้อมส่งออกไปยังประเทศต่างๆในอาเซียนตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี
...ราคาจึงทำออกมาแบบน่ารักน่าชังและแข่งขันได้กับเอสยูวีรุ่นอื่นๆ
เมื่อบวกกับเทคโนโลยีอันเลื่องชื่อของซูบารุ ทั้งเครื่องยนต์บ็อกเซอร์สูบนอน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา Symmetrical All-Wheel Drive (AWD) เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องชุดใหม่ (Lineartronic CVT) พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก-ความปลอดภัย แบบสมเหตุสมผล(แต่ไม่น้อยกว่าคู่แข่งในตลาด) ยิ่งทำให้ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” น่าคบหามากขึ้น
สำหรับ“เอ็กซ์วี”พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับเก๋งคอมแพกต์รุ่น“อิมเพรซา” โดยหวังให้เป็นรถอเนกประสงค์แบบ “ครอสโอเวอร์” (กระเดียดไปทางเก๋ง และให้ความสะดวกสบายมากกว่าคำจำกัดความเดิมๆของเอสยูวี) มิติตัวถังยาว 4,450 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,635 มม. และระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground Clearance) 220 มม.
รูปลักษณ์ดูดีครับ ออกแนว“บึกบึน หล่อล่ำ กล้ามโต” มาพร้อมล้ออัลลอยลายเท่ขนาด 17 นิ้ว ประกบยางคอนติเนนตัล 225/55 R17 รับกับ โอเวอร์เฟเดอร์สีดำ ตัดตัวถังสีขาว(สีที่ผู้เขียนเอามาขับ) ยิ่งขับผิวให้รถดูโดดเด่น
ด้านไฟหน้าแบบฮาโลเจน เสริมด้วยไฟตัดหมอก และกระจกมองข้างฝังไฟเลี้ยวLED ตามสมัยนิยม ด้านบนติดแรคหลังคามาให้เป็นมาตรฐาน ขณะที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ไล่ตั้งแต่ กล้องมองภาพขณะถอยหลัง แสดงภาพมายังหน้าจอสีแบบทัชสกรีนขนาด 6.1 นิ้วของเคนวูด ซึ่งยังรองรับการเล่น DVD และระบบนำทาง Navigator ของการ์มิน
นอกจากนี้ยังเติมเต็มความบันเทิงให้กับผู้โดยสารด้านหลัง ด้วยการติดตั้งจอมอนิเตอร์ส่วนตัวซึ่งฝังไว้ที่หมอนรองหัวของผู้โดยสาร-ผู้ขับด้านหน้า (แต่คันที่ซูบารุให้มาทดสอบไม่ได้ติดตั้งมานะครับ) ส่วนแอร์เป็นแบบอัตโนมัติพร้อมระบบกรองอากาศ พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลงและเข้า-ออก) พร้อมฝังปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์(ผ่านระบบบลูทูธ) ครูสคอนโทรล และมีแป้นแพดเดิ้ลชิฟท์ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อยู่หลังพวงมาลัย
ด้านความปลอดภัยจัดระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมการทรงตัว (ซูบารุเรียกว่า VDC -Vehicle Dynamics Control System) รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ลูก ขณะที่ฝั่งคนขับจะเสริมถุงลมป้องกันหัวเข่ามาให้อีกหนึ่งลูก
...ดูความหล่อของรถและออปชันต่างๆที่ซูบารุใส่มาให้แล้ว ต้องบอกว่าไม่ขี้เหร่ครับ!
ในส่วนของการขับขี่ ผู้เขียนเคยไปขับแบบขำๆบนระยะทางไม่เกิน 300 เมตรที่ประเทศอินโดนีเซียเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน แต่คราวนี้ได้ลองเต็มๆบนถนนเมืองไทย ต้องบอกว่าสมรรถนะของ“ซูบารุ เอ็กซ์วี” โดดเด่นกว่าเอสยูวีของคู่แข่งในพิกัดเครื่องยนต์(เบนซิน)เดียวกัน
เครื่องยนต์เบนซินสูบนอน ขนาด 2.0ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง Lineartronic CVT ถ้าเทียบประสิทธิผลต่างๆจะใกล้เคียงกับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี 2.0 ลิตร (เป็นเครื่อง SOCH i-VTEC) 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร ที่4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด(ทอร์คคอนเวอร์เตอร์)
แต่เมื่อดูน้ำหนักตัวแล้ว “เอ็กซ์วี” เบากว่า 120 กิโลกรัม (รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ) บวกกับโครงสร้างตัวถัง เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ที่เน้นความสมดุล ส่งผลให้การขับขี่ดูกระฉับกระเฉง พร้อมการทรงตัวเป็นเลิศ
โดยการออกตัวดูหวือหวา จังหวะกระแทกคันเร่งตอบสนองทันใจ การส่งกำลังของเกียร์ทำได้ไหลลื่นต่อเนื่อง รอบไม่สวิงวูบวาบ แต่จะค่อยๆไล่ขึ้นไปตามแรงกดของเท้าขวา และดูจะสัมพันธ์กับพละกำลังที่ปลดปล่อยออกมา ส่วนความเร็วปลายก็ไหลไปได้ยาวๆ หรือไปตื้อแถว 160 กม./ชม. โน่นละครับ ขณะที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ที่เกียร์สูงสุดรอบยังนิ่งอยู่แถวๆ 2,000 รอบเท่านั้น
...แม้จะเป็นรถยกสูงแบบเอสยูสวี แต่ซูบารุยังเน้นการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรมให้มีความสมมาตร พยายามสร้างความสมดุลให้กับรถ ตั้งแต่เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ศูนย์ถ่วงสั้นและต่ำ การจัดวางระบบส่งกำลัง ตลอดจนช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังใช้ระบบปีกนกอิสระ 2 ชั้น พร้อมเหล็กกันโคลง และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ AWD เป็นศูนย์กลางในการกระจายกำลัง ส่งผลให้รถถ่ายเทน้ำหนักยอดเยี่ยม การทรงตัวหนึบแน่น ตอบสนองทุกสภาพการขับขี่ ส่วนพวงมาลัยอาจจะหนักมือไปนิด แต่บังคับทิศทางได้ตามสั่ง ควบคุมคล่องแคล่ว
การเติมความเร็ว และการควบคุมของ ซูบารุเอ็กซ์วี ดูจะสอดคล้องกันและให้ความมั่นใจในการขับขี่มากทีเดียวครับ เช่นเดียวกับระบบเบรกที่เป็นดิสก์ทั้ง 4 ล้อ ให้ระยะชะลอหยุดอยู่ในความคาดหมาย ที่สำคัญยังรู้สึกถึงการจับของเบรก โดยตัวรถไม่ออกอาการโยกโยนหน้าทิ่ม
สำหรับอัตราบริโภคน้ำมัน จากการขับของผู้เขียนก็ทำได้ประมาณ 10 กม./ลิตร (มาตรวัดแสดงเป็นลิตรต่อ100 กม.) แต่ถ้าขับทางไกลเนียนๆ หรือขับในเมืองเท้านิ่งๆน่าจะได้ตัวเลขที่ดีกว่านี้แน่
รวบรัดตัดความ...หากว่ากันที่ตัวรถล้วนๆ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” สอบผ่านฉลุย ทั้งการออกแบบที่โดดเด่น ดูบึกบึนมีมัดกล้าม สมรรถนะจากเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2.0 ลิตร ประกบเกียร์แบบลิเนียร์ทรอนิกส์ซีวีที จัดพละกำลังให้ทันใช้ สอดคล้องกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อAWDช่วยควบคุมรถได้อยู่มือ ผสานกับช่วงล่างอันหนึบแน่น ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆก็จัดมาให้แบบคุ้มค่า แต่ก็อาจจจะด้อยเรื่องการตกแต่งภายในที่ดูโบราณไปนิด
“เอ็กซ์วี”ถือเป็นที่สุดความหวังของซูบารุใน พ.ศ.นี้ ซึ่งยอดขายที่เพิ่มเป็นหลัก(หลาย)ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องระวังเรื่องการบริการหลังการขายไปพร้อมๆกัน เพราะลูกค้าใหม่ที่ซื้อรถราคาล้านต้นๆ ย่อมตั้งความหวังไม่ต่างจากลูกค้าเดิมที่เคยซื้อรถราคา 2-3 ล้านบาท...รถดีจริง สถานการณ์ธุรกิจดีขึ้น แต่ก็ไม่การันตี ว่าจะดีตลอดไป ถ้าไม่ใส่ใจเรื่องบริการหลังการขาย และรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
...เห็นว่ายอดจองวิ่งดีนะครับ ตอนนี้น่าจะทยอยส่งมอบรถไปกว่า 1,000 คันหรือจบสิ้นปีคงทำตัวเลขได้ตามเป้าหมาย3,000 คัน ถือว่าพลิกฟื้นสถานการณ์ มอเตอร์อิมเมจ (ล่าสุดใช้ชื่อ “ทีซี ซูบารุ” ในการทำตลาด) ให้กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็นอีกครั้ง เพราะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซูบารุในไทยทำยอดขายรวมทุกรุ่นได้แค่ 200-400 คันต่อปีเท่านั้น
ประเด็นสำคัญที่ทำให้ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” ได้การตอบรับดี คงเริ่มมาจากราคาที่เอื้อมถึงได้ โดยการทำตลาดมากับรุ่นย่อยเดียว 2.0i Premium ราคา 1.35 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก บริษัท ฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสตรี้ จำกัด (ผู้ผลิตซูบารุ)และคู่ค้าสำคัญอย่าง “ตันจง กรุ๊ป” วางแผนที่ใช้โรงงานในประเทศมาเลเซียผลิตเอสยูวีรุ่นนี้ พร้อมส่งออกไปยังประเทศต่างๆในอาเซียนตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี
...ราคาจึงทำออกมาแบบน่ารักน่าชังและแข่งขันได้กับเอสยูวีรุ่นอื่นๆ
เมื่อบวกกับเทคโนโลยีอันเลื่องชื่อของซูบารุ ทั้งเครื่องยนต์บ็อกเซอร์สูบนอน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา Symmetrical All-Wheel Drive (AWD) เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องชุดใหม่ (Lineartronic CVT) พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก-ความปลอดภัย แบบสมเหตุสมผล(แต่ไม่น้อยกว่าคู่แข่งในตลาด) ยิ่งทำให้ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” น่าคบหามากขึ้น
สำหรับ“เอ็กซ์วี”พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับเก๋งคอมแพกต์รุ่น“อิมเพรซา” โดยหวังให้เป็นรถอเนกประสงค์แบบ “ครอสโอเวอร์” (กระเดียดไปทางเก๋ง และให้ความสะดวกสบายมากกว่าคำจำกัดความเดิมๆของเอสยูวี) มิติตัวถังยาว 4,450 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,635 มม. และระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground Clearance) 220 มม.
รูปลักษณ์ดูดีครับ ออกแนว“บึกบึน หล่อล่ำ กล้ามโต” มาพร้อมล้ออัลลอยลายเท่ขนาด 17 นิ้ว ประกบยางคอนติเนนตัล 225/55 R17 รับกับ โอเวอร์เฟเดอร์สีดำ ตัดตัวถังสีขาว(สีที่ผู้เขียนเอามาขับ) ยิ่งขับผิวให้รถดูโดดเด่น
ด้านไฟหน้าแบบฮาโลเจน เสริมด้วยไฟตัดหมอก และกระจกมองข้างฝังไฟเลี้ยวLED ตามสมัยนิยม ด้านบนติดแรคหลังคามาให้เป็นมาตรฐาน ขณะที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ไล่ตั้งแต่ กล้องมองภาพขณะถอยหลัง แสดงภาพมายังหน้าจอสีแบบทัชสกรีนขนาด 6.1 นิ้วของเคนวูด ซึ่งยังรองรับการเล่น DVD และระบบนำทาง Navigator ของการ์มิน
นอกจากนี้ยังเติมเต็มความบันเทิงให้กับผู้โดยสารด้านหลัง ด้วยการติดตั้งจอมอนิเตอร์ส่วนตัวซึ่งฝังไว้ที่หมอนรองหัวของผู้โดยสาร-ผู้ขับด้านหน้า (แต่คันที่ซูบารุให้มาทดสอบไม่ได้ติดตั้งมานะครับ) ส่วนแอร์เป็นแบบอัตโนมัติพร้อมระบบกรองอากาศ พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลงและเข้า-ออก) พร้อมฝังปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์(ผ่านระบบบลูทูธ) ครูสคอนโทรล และมีแป้นแพดเดิ้ลชิฟท์ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อยู่หลังพวงมาลัย
ด้านความปลอดภัยจัดระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมการทรงตัว (ซูบารุเรียกว่า VDC -Vehicle Dynamics Control System) รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ลูก ขณะที่ฝั่งคนขับจะเสริมถุงลมป้องกันหัวเข่ามาให้อีกหนึ่งลูก
...ดูความหล่อของรถและออปชันต่างๆที่ซูบารุใส่มาให้แล้ว ต้องบอกว่าไม่ขี้เหร่ครับ!
ในส่วนของการขับขี่ ผู้เขียนเคยไปขับแบบขำๆบนระยะทางไม่เกิน 300 เมตรที่ประเทศอินโดนีเซียเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน แต่คราวนี้ได้ลองเต็มๆบนถนนเมืองไทย ต้องบอกว่าสมรรถนะของ“ซูบารุ เอ็กซ์วี” โดดเด่นกว่าเอสยูวีของคู่แข่งในพิกัดเครื่องยนต์(เบนซิน)เดียวกัน
เครื่องยนต์เบนซินสูบนอน ขนาด 2.0ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง Lineartronic CVT ถ้าเทียบประสิทธิผลต่างๆจะใกล้เคียงกับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี 2.0 ลิตร (เป็นเครื่อง SOCH i-VTEC) 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร ที่4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด(ทอร์คคอนเวอร์เตอร์)
แต่เมื่อดูน้ำหนักตัวแล้ว “เอ็กซ์วี” เบากว่า 120 กิโลกรัม (รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ) บวกกับโครงสร้างตัวถัง เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ที่เน้นความสมดุล ส่งผลให้การขับขี่ดูกระฉับกระเฉง พร้อมการทรงตัวเป็นเลิศ
โดยการออกตัวดูหวือหวา จังหวะกระแทกคันเร่งตอบสนองทันใจ การส่งกำลังของเกียร์ทำได้ไหลลื่นต่อเนื่อง รอบไม่สวิงวูบวาบ แต่จะค่อยๆไล่ขึ้นไปตามแรงกดของเท้าขวา และดูจะสัมพันธ์กับพละกำลังที่ปลดปล่อยออกมา ส่วนความเร็วปลายก็ไหลไปได้ยาวๆ หรือไปตื้อแถว 160 กม./ชม. โน่นละครับ ขณะที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ที่เกียร์สูงสุดรอบยังนิ่งอยู่แถวๆ 2,000 รอบเท่านั้น
...แม้จะเป็นรถยกสูงแบบเอสยูสวี แต่ซูบารุยังเน้นการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรมให้มีความสมมาตร พยายามสร้างความสมดุลให้กับรถ ตั้งแต่เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ศูนย์ถ่วงสั้นและต่ำ การจัดวางระบบส่งกำลัง ตลอดจนช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังใช้ระบบปีกนกอิสระ 2 ชั้น พร้อมเหล็กกันโคลง และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ AWD เป็นศูนย์กลางในการกระจายกำลัง ส่งผลให้รถถ่ายเทน้ำหนักยอดเยี่ยม การทรงตัวหนึบแน่น ตอบสนองทุกสภาพการขับขี่ ส่วนพวงมาลัยอาจจะหนักมือไปนิด แต่บังคับทิศทางได้ตามสั่ง ควบคุมคล่องแคล่ว
การเติมความเร็ว และการควบคุมของ ซูบารุเอ็กซ์วี ดูจะสอดคล้องกันและให้ความมั่นใจในการขับขี่มากทีเดียวครับ เช่นเดียวกับระบบเบรกที่เป็นดิสก์ทั้ง 4 ล้อ ให้ระยะชะลอหยุดอยู่ในความคาดหมาย ที่สำคัญยังรู้สึกถึงการจับของเบรก โดยตัวรถไม่ออกอาการโยกโยนหน้าทิ่ม
สำหรับอัตราบริโภคน้ำมัน จากการขับของผู้เขียนก็ทำได้ประมาณ 10 กม./ลิตร (มาตรวัดแสดงเป็นลิตรต่อ100 กม.) แต่ถ้าขับทางไกลเนียนๆ หรือขับในเมืองเท้านิ่งๆน่าจะได้ตัวเลขที่ดีกว่านี้แน่
รวบรัดตัดความ...หากว่ากันที่ตัวรถล้วนๆ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” สอบผ่านฉลุย ทั้งการออกแบบที่โดดเด่น ดูบึกบึนมีมัดกล้าม สมรรถนะจากเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2.0 ลิตร ประกบเกียร์แบบลิเนียร์ทรอนิกส์ซีวีที จัดพละกำลังให้ทันใช้ สอดคล้องกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อAWDช่วยควบคุมรถได้อยู่มือ ผสานกับช่วงล่างอันหนึบแน่น ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆก็จัดมาให้แบบคุ้มค่า แต่ก็อาจจจะด้อยเรื่องการตกแต่งภายในที่ดูโบราณไปนิด
“เอ็กซ์วี”ถือเป็นที่สุดความหวังของซูบารุใน พ.ศ.นี้ ซึ่งยอดขายที่เพิ่มเป็นหลัก(หลาย)ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องระวังเรื่องการบริการหลังการขายไปพร้อมๆกัน เพราะลูกค้าใหม่ที่ซื้อรถราคาล้านต้นๆ ย่อมตั้งความหวังไม่ต่างจากลูกค้าเดิมที่เคยซื้อรถราคา 2-3 ล้านบาท...รถดีจริง สถานการณ์ธุรกิจดีขึ้น แต่ก็ไม่การันตี ว่าจะดีตลอดไป ถ้าไม่ใส่ใจเรื่องบริการหลังการขาย และรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ