คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแฟนๆ ที่อยากเห็นมวยไทยโกอินเตอร์คงตาแฉะไปตามๆ กัน เพราะมีศึกมวยไทยปะทะต่างชาติจัดไล่ๆ กันถึง 3 รายการด้วยกัน เริ่มด้วยศึก มวยไทยวอริเออร์ส วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาคือ ไทย ไฟต์ ที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ ช่วงค่ำวันเสาร์ถัดมาลากยาวไปจนถึงช่วงดึก เฉี่ยวชนเล็กๆ กับศึก แม็กซ์ มวยไทย ที่ต้องย้ายสังเวียนหลบควันไฟป่าที่อินโดนีเซียมาที่พัทยาแทน
แต่ละรายการก็มีจุดขายที่งัดมาเรียกเรตติ้งกันสุดฤทธิ์ ตั้งแต่มวยไทยวอริเออร์ส ที่ขนตัวจริงเสียงจริงอย่าง แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม มาขึ้นเวที รวมทั้งการคืนสังเวียนครั้งแรกรอบ 4 ปีของ “น้องตุ้ม” ปริญญา เกียรติบุษบา กลับมาเคาะสนิมขึ้นชกแบบอุ่นเครื่องโดยไม่มีการตัดสินกับมวยหญิงแท้สาวชาวอังกฤษ ซึ่งสาวเทียมเองก็ยอมรับว่ายังมีอาการเรื้อเวทีอยู่เยอะ แถมยังโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการขึ้นชกผู้หญิงจริงๆ
อันนี้ผมว่าต้องให้ความยุติธรรมกับ “น้องตุ้ม” ด้วย เธอผ่าตัดแปลงเพศไปแล้ว กินฮอร์โมนเพศหญิงมาตลอด สรีระต่างๆ รวมทั้งความแข็งแกร่งแบบผู้ชายหายไปเยอะแล้ว แฟนๆ คอลัมน์อาจจะจำได้ว่าผมเคยเขียนเรื่องนักสู้ MMA แปลงเพศไปเมื่อไม่นานมานี้ (ซึ่งเธอมาผ่าตัดแปลงเพศที่เมืองไทยเราและมี “น้องตุ้ม” เป็นขวัญใจด้วย) ตอนนี้เงื่อนไขที่ยอมรับกันกรณีขึ้นสู้ในประเภทหญิง คือต้องมีการผ่าตัดแปลงเพศแล้วอย่างสมบูรณ์ และมีการกินฮอร์โมนเพศหญิงมาแล้วตลอดช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่ง “บิวตี้ฟูลบ็อกเซอร์” ของเราก็เข้าเงื่อนไขแล้วทุกอย่าง
รายการต่อมา ศึก “ไทยไฟต์” ที่สร้างความฮือฮามาโดยตลอด คราวนี้จัดเต็มยกทีมมวยหน้าเสื่อแข็งอย่าง 4 อวตารขึ้นเวทีครบครัน แถมด้วยมวยหนุ่มรูปหล่ออย่างสองพี่น้อง อองตวน-ลีโอ ปินโต ขึ้นชกในรายการเป็นครั้งแรก มาพร้อมแสงสีเสียงอลังการงานสร้างตามระเบียบกะเรียกเสียงฮือฮาเต็มที่ ซึ่งก็น่าจะได้ผลเพราะแฟนๆ เข้าชมกันหนาแน่น แถมได้เวลาถ่ายทอดสดช่วงค่ำอีกด้วย แต่เรื่องคู่มวยในรายการก็ยังมีคำถามจากคนดูอยู่ดีว่าเหมาะแล้วหรือห่างชั้นกันแน่
มาที่ แม็กซ์ มวยไทย จัดขึ้นเป็นไฟต์ที่ 2 แต่มีปัญหาต้องหนีควันไฟที่อินโดนีเซีย ทำเอาผิดแผนเล็กน้อย โปรดักชั่นคราวนี้เลยเนือยไปพอสมควร แต่คู่มวยจัดได้โดนใจใส่กันสนุก กล้าให้นักมวยไทยแพ้ เน้นให้คะแนนมวยเดินออกอาวุธ แบบนี้แฟนน่าจะติดเร็ว แต่อยากทักในส่วนที่โปรโมเตอร์อย่าง “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ ขึ้นชกโชว์ศิลปะมวยไชยา เพราะติดเงื่อนไขเรื่องขึ้นเวทีอย่างที่ใครติดตามคงรู้อยู่
การชกโชว์ครั้งนี้ชื่อบอกว่าชกโชว์ก็ดีอยู่ แต่ผมว่าเน้นเนื้อเรื่องมากกว่าการโชว์ศิลปะมวยไทยซะแล้ว ทั้งจัดแบบ 2 รุม 1 เอย มีการทำมาดเข้มยืนจ้องหน้ากัน รวมถึงช็อตที่สุดๆ ในความเห็นผม คือตอนที่ทั้งเก้าก้านเล็ก และเภาซี ที่ร่วมขึ้นโชว์เตะสูงหมายก้านคอพร้อมกัน แล้วโดนดึงตัวหลบ จนทั้งคู่หัวคะมำไปพร้อมๆ กัน บอกตรงๆ ดูแล้วได้อารมณ์มวยปล้ำมากกว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า “เจ้าดำ” บัวขาว สนใจจะเข้าวงการบันเทิง ผมว่านี่แหละก้าวแรกมาแล้ว แต่บอกตามตรงถ้าจะหวังเอาดีทางนี้ก็ต้องหามือเขียนบทและกำกับคิวบู๊ที่ดีกว่านี้ คราวนี้ไม่เนียนจริงๆ
อยากจะฝากบอกผู้จัดทุกรายการ จัดศึกโปรโมทมวยไทยก็ดีหรอกครับ แสงสีเสียงโปรดักชั่นอลังการมันก็ดึงดูดใช้ได้ แต่สิ่งแรกที่ต้องคำนึงน่าจะเป็นคุณภาพของมวยในรายการ ถ้าคู่มวยดีสูสีชกสนุก การตัดสินเป็นไปตามเกมการชก มันถึงจะยกระดับมวยไทยให้โกอินเตอร์ได้จริงครับ
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแฟนๆ ที่อยากเห็นมวยไทยโกอินเตอร์คงตาแฉะไปตามๆ กัน เพราะมีศึกมวยไทยปะทะต่างชาติจัดไล่ๆ กันถึง 3 รายการด้วยกัน เริ่มด้วยศึก มวยไทยวอริเออร์ส วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาคือ ไทย ไฟต์ ที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ ช่วงค่ำวันเสาร์ถัดมาลากยาวไปจนถึงช่วงดึก เฉี่ยวชนเล็กๆ กับศึก แม็กซ์ มวยไทย ที่ต้องย้ายสังเวียนหลบควันไฟป่าที่อินโดนีเซียมาที่พัทยาแทน
แต่ละรายการก็มีจุดขายที่งัดมาเรียกเรตติ้งกันสุดฤทธิ์ ตั้งแต่มวยไทยวอริเออร์ส ที่ขนตัวจริงเสียงจริงอย่าง แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม มาขึ้นเวที รวมทั้งการคืนสังเวียนครั้งแรกรอบ 4 ปีของ “น้องตุ้ม” ปริญญา เกียรติบุษบา กลับมาเคาะสนิมขึ้นชกแบบอุ่นเครื่องโดยไม่มีการตัดสินกับมวยหญิงแท้สาวชาวอังกฤษ ซึ่งสาวเทียมเองก็ยอมรับว่ายังมีอาการเรื้อเวทีอยู่เยอะ แถมยังโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการขึ้นชกผู้หญิงจริงๆ
อันนี้ผมว่าต้องให้ความยุติธรรมกับ “น้องตุ้ม” ด้วย เธอผ่าตัดแปลงเพศไปแล้ว กินฮอร์โมนเพศหญิงมาตลอด สรีระต่างๆ รวมทั้งความแข็งแกร่งแบบผู้ชายหายไปเยอะแล้ว แฟนๆ คอลัมน์อาจจะจำได้ว่าผมเคยเขียนเรื่องนักสู้ MMA แปลงเพศไปเมื่อไม่นานมานี้ (ซึ่งเธอมาผ่าตัดแปลงเพศที่เมืองไทยเราและมี “น้องตุ้ม” เป็นขวัญใจด้วย) ตอนนี้เงื่อนไขที่ยอมรับกันกรณีขึ้นสู้ในประเภทหญิง คือต้องมีการผ่าตัดแปลงเพศแล้วอย่างสมบูรณ์ และมีการกินฮอร์โมนเพศหญิงมาแล้วตลอดช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่ง “บิวตี้ฟูลบ็อกเซอร์” ของเราก็เข้าเงื่อนไขแล้วทุกอย่าง
รายการต่อมา ศึก “ไทยไฟต์” ที่สร้างความฮือฮามาโดยตลอด คราวนี้จัดเต็มยกทีมมวยหน้าเสื่อแข็งอย่าง 4 อวตารขึ้นเวทีครบครัน แถมด้วยมวยหนุ่มรูปหล่ออย่างสองพี่น้อง อองตวน-ลีโอ ปินโต ขึ้นชกในรายการเป็นครั้งแรก มาพร้อมแสงสีเสียงอลังการงานสร้างตามระเบียบกะเรียกเสียงฮือฮาเต็มที่ ซึ่งก็น่าจะได้ผลเพราะแฟนๆ เข้าชมกันหนาแน่น แถมได้เวลาถ่ายทอดสดช่วงค่ำอีกด้วย แต่เรื่องคู่มวยในรายการก็ยังมีคำถามจากคนดูอยู่ดีว่าเหมาะแล้วหรือห่างชั้นกันแน่
มาที่ แม็กซ์ มวยไทย จัดขึ้นเป็นไฟต์ที่ 2 แต่มีปัญหาต้องหนีควันไฟที่อินโดนีเซีย ทำเอาผิดแผนเล็กน้อย โปรดักชั่นคราวนี้เลยเนือยไปพอสมควร แต่คู่มวยจัดได้โดนใจใส่กันสนุก กล้าให้นักมวยไทยแพ้ เน้นให้คะแนนมวยเดินออกอาวุธ แบบนี้แฟนน่าจะติดเร็ว แต่อยากทักในส่วนที่โปรโมเตอร์อย่าง “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ ขึ้นชกโชว์ศิลปะมวยไชยา เพราะติดเงื่อนไขเรื่องขึ้นเวทีอย่างที่ใครติดตามคงรู้อยู่
การชกโชว์ครั้งนี้ชื่อบอกว่าชกโชว์ก็ดีอยู่ แต่ผมว่าเน้นเนื้อเรื่องมากกว่าการโชว์ศิลปะมวยไทยซะแล้ว ทั้งจัดแบบ 2 รุม 1 เอย มีการทำมาดเข้มยืนจ้องหน้ากัน รวมถึงช็อตที่สุดๆ ในความเห็นผม คือตอนที่ทั้งเก้าก้านเล็ก และเภาซี ที่ร่วมขึ้นโชว์เตะสูงหมายก้านคอพร้อมกัน แล้วโดนดึงตัวหลบ จนทั้งคู่หัวคะมำไปพร้อมๆ กัน บอกตรงๆ ดูแล้วได้อารมณ์มวยปล้ำมากกว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า “เจ้าดำ” บัวขาว สนใจจะเข้าวงการบันเทิง ผมว่านี่แหละก้าวแรกมาแล้ว แต่บอกตามตรงถ้าจะหวังเอาดีทางนี้ก็ต้องหามือเขียนบทและกำกับคิวบู๊ที่ดีกว่านี้ คราวนี้ไม่เนียนจริงๆ
อยากจะฝากบอกผู้จัดทุกรายการ จัดศึกโปรโมทมวยไทยก็ดีหรอกครับ แสงสีเสียงโปรดักชั่นอลังการมันก็ดึงดูดใช้ได้ แต่สิ่งแรกที่ต้องคำนึงน่าจะเป็นคุณภาพของมวยในรายการ ถ้าคู่มวยดีสูสีชกสนุก การตัดสินเป็นไปตามเกมการชก มันถึงจะยกระดับมวยไทยให้โกอินเตอร์ได้จริงครับ