xs
xsm
sm
md
lg

“ซู ซิหมิง” ยังได้ไปต่อ / ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

ผ่านไปแล้วสำหรับไฟต์ที่สองในแบบอาชีพของยอดมวยแดนมังกรวัย 32 อย่าง ซู ซิหมิง ซึ่งก้าวขึ้นสังเวียนที่มาเก๊าเมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2556 พบกับมวยสร้างชาวเม็กซิกันวัย 19 ปี เฮซัส ออร์เตกา ในแบบ 6 ยก ผลปรากฏว่าอดีตเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกสองสมัยก็สามารถคว้าชัยชนะไปได้สมใจหลายฝ่าย เอาชนะคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 59-55 จากกรรมการทั้งสามท่าน

ก่อนชกไฟต์นี้ทาง เฟร็ดดี โรช เทรนเนอร์ของ ซู ซิหมิง ก็ออกมาเตือนนักมวยตัวเองผ่านสื่อว่า ต้องยกระดับการชกขึ้นมาให้ได้ ต้องชกให้ได้ใจคนดู โดยเฉพาะน้ำหนักหมัดต้องหยุดยั้งคู่ชกให้ได้ และเมื่อก้าวขึ้นสู่เวทีก็จะเห็นได้ว่าทางทีมงานก็พยายามสร้างกล้ามเนื้อช่วงอกและไหล่เพื่อเพิ่มน้ำหนักหมัดให้กับ อาหมิง เพราะรู้ดีว่านักมวยตัวเองเป็นสไตล์บ็อกเซอร์ น้ำหนักหมัดยังไม่ได้ แต่ภาพการชกจากทั้ง 6 ยกก็เห็นชัดว่าหมัดไม่ระคายเคืองคู่ชกเลย จนสุดท้ายก็ชนะไปแค่คะแนนและยังไม่สามารถสร้างศรัทธาจากแฟนมวยได้จริงๆ

แต่ความเป็นมวยสไตล์บ็อกเซอร์ของไอ้มังกรหมัดสิงโตรายนี้ก็มีจุดเด่น โดยเฉพาะในเรื่องความขยันออกหมัดและการออกหมัดเป็นชุด ที่ ซู ซิหมิง ทำได้ดี ทำให้กรรมการให้คะแนนได้ง่าย อย่างในไฟต์นี้ก็เช่นกัน ในสามยกแรกนักชกจีนออกหมัดเป็นชุดๆ จนมวยหนุ่มเม็กซิกันเข้าไม่ติด ทำคะแนนเป็นกอบเป็นกำ นอกจากนั้นเรื่องฝีเท้าก็ไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว ถ้าแกต้องการจะวนหนีแล้วล่ะก็คงหานักมวยตัวเท่าๆ กันในโลกนี้จะไล่แกเจอ

แต่อีกจุดที่ต้องสร้างกันขนานใหญ่สำหรับทีมปั้น อาหมิง ก็คือเรื่องพละกำลังและการยืนระยะ เพราะ ซู ซิหมิง นั้นชกสมัครเล่นมาตลอด ก็อยู่แค่ 3-4 ยกเท่านั้น มาแบบอาชีพนั้นต้องยืนให้ได้ครบ 12 ยก โดยเฉพาะถ้าน้ำหนักหมัดไม่สามารถกล่อมคู่ชกได้แล้ว โอกาสจะชนะก็คือต้องครบยกเท่านั้น ถ้าจะไม่ครบยกก็คือตัวเองโดนมากกว่า ดังนั้น เฟร็ดดี โรช คงต้องเร่งเน้นจุดนี้เป็นการใหญ่ ในไฟต์ที่สองนี้กำหนดแค่ 6 ยก พอขึ้นยก 4 ซู ซิหมิง ก็เป่าปากแล้ว ยิ่งยกสุดท้ายนี้เข้าฟอร์มเดิมเลยคือวิ่งหนีสลับกับกอดอย่างเดียว แบบนี้ถือว่าอันตรายสำหรับอนาคตการค้ากำปั้นของความหวังชาวจีนเลยนะครับ เพราะถ้าเจอมวยเขี้ยวๆ ไล่บี้ติดๆ อาหมิงอาจหนีไม่ออก น้ำหนักหมัดก็ขู่เขาไม่ได้ อาจมีภาพหวาดเสียวเกิดขึ้นได้เลยทีเดียว ที่สำคัญ ตอนนี้อายุอานามก็ปาเข้าไป 32 ปีแล้ว สภาพร่างกายจะสร้างขึ้นมาก็ถือเป็นความท้าทายอย่างแรงสำหรับทีมงาน

แต่ตอนนี้ยังไงก็ยังได้ไปต่อนะครับสำหรับยอดมวยจีนรายนี้ แต่สงสัยว่าจะต้องอยู่ที่ 6 ยกไปอีกสักระยะเหมือนกัน ก่อนจะขยับมา 8 ยกหรือ 10 ยก ก่อนจะไปถึง 12 ยกตามแบบอาชีพจริงๆ อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร นักมวยที่ผ่านวิธีการปั้นแบบอาชีพจริงๆ ก็ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 6 ยกกันไปหลายไฟต์อยู่ ก่อนจะค่อยๆ ขยับจนถึง 12 ยก มีก็นักมวยบ้านเรานี่แหละ ปั้นแล้วต้องรีบถอนทุน ชกไม่กี่ไฟต์ก็ต้องขึ้นชิงเข็มขัดอะไรซักเส้นให้ได้แล้ว

ก็คงต้องติดตามต่อไปว่า ซู ซิหมิง จะก้าวไปถึงดวงดาวหรือไม่ภายใต้การปั้นของทีมงานท็อปแรงค์ ล่าสุดจะไปร่วมซ้อมกับยอดมวยชาวตากาล็อกอย่าง แมนนี ปาเกียว ที่กำลังเตรียมตัวกลับคืนสังเวียนอีกครั้งในช่วงปลายปี หวังจะให้ได้เรียนรู้จากยอดมวยที่ก้าวไปได้ไกลมากๆ ในระดับโลก นักมวยไทยเราก็คงมีโอกาสได้ไปเป็นคู่อุ่นเครื่องของ อาหมิง อยู่เหมือนกัน เพราะมวยรุ่นนี้เราก็มีตัวให้เลือกเยอะ ก็น่าติดตามครับ เผื่อจะมีใครสบโอกาสล้างแค้นให้คนไทยทั้งประเทศได้บ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น