xs
xsm
sm
md
lg

“โยโกฮามา” จากสนามแข่งสู่ท้องถนน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายการ “มาเก๊า กรังด์ปรีซ์” นอกจากจะเป็นความภาคภูมิใจของชาวมาเก๊า เมืองแห่งความฝันเขตปกครองพิเศษในประเทศจีน เพราะเป็นสนามแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียแล้ว ยังมีความสำคัญต่อ “โยโกฮามา” ยางรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย เห็นได้จากการเป็นผู้สนับสนุนหลักมายาวนานถึง 30 ปี จนทำให้ภาพลักษณ์ของโยโกฮามาเป็นยางรถยนต์สมรรถนะสูง ที่ผู้ชื่นชอบความเร็วต่างนิยมเลือกใช้ แต่ระหว่างโยโกฮามาและรายการมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ ยังมีมากกว่านั้น…

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ “มาเก๊า กรังด์ปรีซ์” (MACAU GRAND PRIX )ประจำปี 2555 จบลงไปอย่างยิ่งใหญ่อีกเช่นเคยตลอดเวลา 3 วัน บนสนาม Guia Circuit ของช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการจัดแข่งขันครั้งที่ 59 หลังจากจัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2497 จึงนับเป็นสนามแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และเป็นปีที่ 30 ของโยโกฮามา รับเบอร์ ประเทศญี่ปุ่น หรือเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 ในการสนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นทางการ

โดยสนามแข่งมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ เป็นการแปลงสภาพถนนปกติภายในเมืองมาเก๊า ให้เป็นสนามแข่งขันรถ หรือซิตี้เรซระดับโลกอีกแห่ง ซึ่งโยโกฮามาเป็นผู้สนับสนุนยางให้กับการแข่งขันรถรุ่นฟอร์มูล่า3 มาเก๊า กรังด์ปรีซ์ (Formula 3 Macau Grand Prix), การแข่งขันรอบสุดท้ายชิงแชมป์โลก เอฟไอเอ เวิลด์ทัวริ่ง คาร์ แชมเปี้ยนชิพ (FIA World Touring Car Championship - WTCC) ที่เข้าร่วมในงานมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ เมื่อปี พ.ศ. 2548 และโยโกฮามาเริ่มสนับสนุนยางให้กับรถที่เข้าแข่งขันรายการนี้ในปีถัดมา ตลอดจนสนับสนุนการแข่งขันรายการจีที เอเชีย (GT Cup) และการแข่งขันทัวร์ริ่งคาร์ ระดับท้องถิ่นของรายการมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ด้วย ซึ่งรวมแล้วโยโกฮาม่าสนับสนุนยางสำหรับแข่งขันรถในรายการนี้มากกว่า 2,500 เส้นต่อปี

“โยโกฮามาเป็นผู้สนับสนุนยางให้กับการแข่งขันระดับโลก เพื่อให้ทีมนักแข่งใช้แข่งขันในรายการของมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสมรรถนะยางโยโกฮามา ที่ได้รับการยอมรับจากนักแข่งรถชั้นนำ และที่สำคัญโยโกฮามาไม่เพียงพัฒนายางให้กับทีมนักแข่งเท่านั้น ยังได้นำประสบการณ์จากการใช้ยางของนักแข่ง มาปรับปรุงและพัฒนากับยางรถยนต์โยโกฮามาทั่วไปที่ใช้บนท้องถนนด้วย”

เป็นคำอธิบายของ “รัฐวุฒิ เจระจิตติ” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โยโกฮามา โทร์ เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด หัวหน้าทีมที่นำสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง รวมถึง “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ไปร่วมชมและสังเกตุการณ์รายการแข่งขันมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ ครั้งที่ 59 และยังชี้แจงอีกว่า…

“หลังจากการแข่งขันจะมีทีมวิศวกรของโยโกฮามา สอบถามแบบตัวต่อตัวกับนักแข่งแต่ละคน เพื่อรับทราบจุดดีและจุดด้อยของยาง จากนั้นจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงและพัฒนายางรถยนต์โยโกฮามาต่อไป”

สำหรับในเมืองไทย โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ ประเทศไทย ได้ต่อยอดแนวคิดการดำเนินธุรกิจ ด้วยการใช้กลยุทธ์ทางการตลาด “สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง” สนับสนุนการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการสำคัญในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น ดี-วัน กรังปรีซ์, บางแสน ไทยแลนด์ สปีดเฟสติวัล และซูปเปอร์คาร์ไทยแลนด์ ฯลฯ เพื่อสะท้อนเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่ท้องถนน และสนับสนุนยางรถยนต์ที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ให้นักขับทีมแข่งตามรายการต่างๆ ได้ใช้ลงแข่งขันด้วยเช่นกัน

ส่วนในรายการแข่งขันมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ ครั้งที่ 59 โยโกฮามาไม่เพียงสนับสนุนยางในการแข่งขันแล้ว ยังได้ใช้สนามแข่งขันแห่งนี้เปิดตัวยางรถยนต์ใหม่ โดยมี “ฮิโกมิตสุ โนจิ” ประธานกรรมการ บริษัท โยโกฮามา รับเบอร์ ประเทศญี่ปุ่น แถลงข่าวแนะนำยางสมรรถนะสูงใหม่ 3 รุ่น คือ GEOLANDAR SUV ยางรถยนต์อเนกประสงค์ที่วางขายในไทยแล้ว และยาง ADVAN SPORT V105 ยางรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง ทั้งการยึดเกาะถนนและรับกับสภาพถนนเปียกหรือแห้งได้ดีกว่าเดิมอีก และยางเพื่อสิ่งแวดล้อมรุ่น BLUE EARTH AE01 ที่มีกำหนดจะวางตลาดในเมืองไทยภายในไตรมาส 2 ปีหน้า

จะเห็นว่ารายการ“มาเก๊า กรังด์ปรีซ์” และยาง “โยโกฮามา” มีความเกี่ยวพันกันอย่างมาก ตั้งแต่สนามแข่งไปจนสู่ท้องถนนเลยทีเดยว และจากความสำคัญดังกล่าว โยโกฮามา รับเบอร์ ประเทศญี่ปุ่น จึงได้มีการเซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนรายการมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ ต่อไปอีกเป็นเวลา 6 ปี…


รู้จักรายการ “มาเก๊า กรังด์ปรีซ์”

อย่างที่กล่าวไป “มาเก๊า กรังด์ปรีซ์” ถือเป็นการแข่งขันรถยนต์ที่เก่าแก่ในภูมิภาคเอเชีย ปีนี้จัดมาเป็นครั้งที่ 59 โดยรูปแบบจะเป็นการปิดเมืองแข่งขัน(CITY RACE) ด้วยการแปลงสภาพถนนปกติภายในเมืองให้เป็นสนามแข่งขัน โดยการแข่งขันมีมากมายหลายรายการ แต่ที่เป็นการแข่งขันหลักและได้รับความสนใจไปทั่วโลก เห็นจะเป็น 3 รายการนี้เท่านั้น (ข้อมูลรายละเอียด ภาพ และผลการแข่งขัน ดูได้ที่ www.macau.grandprix.gov.mo)

FORMULA3 (F3) MACAU GRAND PRIX

ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 30 ของรายการ F3 MACAU GRAND PRIX ภายใต้ FIA ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นรายการผลิตนักแข่งรุ่นใหม่ เห็นได้จากนักแข่ง 16 คน จากทั้งหมด 24 คน จากรายการแข่งขัน F1 ในปีนี้ ล้วนเคยผ่านสนามแห่งนี้มาแล้วทั้งนั้น

ที่สำคัญรายการนี้ นักขับผู้เป็นตำนาน Ayrton Senna เป็นผู้ที่คว้าถ้วยรางวัลคนแรกในปี 1983 และจากนั้นมาก็มี Michael Schumacher หรือ David Coulthard ต่างเคยผ่านสนามแห่งนี้มาก่อน โดยตลอด 30 ปีที่ผ่านมา มีนักขับดาวรุ่งและต่อมาเป็นแชมป์ F1 จำนวนถึง 8 คน ได้มาทดสอบทักษะในสนามมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ รวมถึงซูเปอร์สตาร์ในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น Sebastian Vettel, Lewis Hamilton และ Jason Button

FIA WORLD TOURING CAR CHAMPIONSHIP (WTCC)

นับเป็นปีที่ 8 ของการจัดการแข่งขัน โดยทาง FIA ได้ให้รายการมาเก๊า กรังด์ปรีซ์ เป็นสนามแข่งขันชิงแชมป์โลกสุดท้ายของ WTCC โดยปีที่แล้ว Frenchman Yvan Muller จากทีมเชฟโรเลต (ครูซ1.6T) คว้าแชมเปี้ยนชิพที่สามของเขา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีนอกจากรถที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้เข้าร่วมแข่งขัน นับเป็นรถที่ใช้บนท้องถนนทั่วไป และนี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้การแข่งขัน WTCC โด่งดังและได้รับความนิยมจากผู้คนไปทั่วโลก

MACAU MOTORCYCLE GRAND PRIX

มาเก๊า กรังด์ปรีซ์ เป็นการแข่งขันที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก ไม่เพียงความโดดเด่นหลายอย่างแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่น่าตื่นเต้นของรายการนี้ เพราะเป็นรายการเดียวในโลกที่มีการแข่งขันบนถนน ซึ่งรวมรายการแข่งขันรถ 4 และ 2 ล้อ ไว้ในสนามแข่งเดียวกัน โดยปีนี้นับเป็นการแข่งขันครั้งที่ 46 สำหรับการแข่งขัน MACAU MOTORCYCLE GRAND PRIX จนกลายเป็นหนึ่งในสนามแข่งที่ท้าทายและตื่นเต้นที่สุดบนท้องถนน ทำให้มีนักขับที่มีความสามารถ ซึ่งล้วนเคยผ่านรายการแข่งขันซูเปอร์ไบค์ระดับโลก มาเข้าร่วมแข่งขันบนสนามแห่งนี้ และครั้งนี้ยังได้มีการเพิ่มถ้วยรางวัลประเภททีมเข้าไปด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น