ระบบ PC, Xbox360, Playstation 3
เรตเกม PEGI: 3 เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย
เกมแข่งขันรถสูตรหนึ่งที่ได้ลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการประจำฤดูกาล 2012 ที่มาคราวนี้ดูพิถีพิถันใส่ใจผู้เล่นหน้าใหม่ๆมากขึ้น จนกลายมาเป็นเกมแข่งรถที่คอเกมขาซิ่งเล่นสนุกกันได้ทุกคน
F1 2012 พัฒนาโดย Codemasters Birmingham สตูดิโอในเครือของค่ายผู้นำเกมแนวเรซซิ่ง ที่ให้กำเนิดซีรีส์เกมฟอร์มูล่าวันมาตั้งแต่สมัย F1 2009 บนเครื่องนินเทนโดวี โดยในภาคใหม่นี้จะใช้เอนจิ้นตัวเดิมจากภาคก่อนที่ออกมาเมื่อปีกลาย EGO Engine 2.0 ซึ่งได้ถูกปรับปรุงใหม่ให้สามารถแสดงผลภาพกราฟฟิกที่ดูสวยงามและมีรายละเอียดสูงขึ้น แต่กินทรัพยากรเครื่องเท่าเดิม
เริ่มเกมมา ตัวเกมจะบังคับให้ผู้เล่นทุกคนเข้าสู่โหมดฝึกฝนกันก่อนที่มีชื่อเรียกว่า "Young Driver Test" ที่สนาม Yas Marina ใน Abu Dhabi ซึ่งจำลองมาจากการสอนนักแข่งฟอร์มูล่าวันรุ่นเยาว์ของจริง และถือเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ของภาคนี้ที่จะมาช่วยฝึกสอนทักษะการขับรถสูตรหนึ่ง และเป็นการวัดระดับความสามารถของผู้เล่นไปในตัว ผู้เล่นจะได้เลือกเข้าร่วมทีม Red Bull, Ferrari หรือ McLaren โดยการสอนจะแบ่งออกเป็น 2 วัน ไล่ตั้งแต่เบสิคพื้นฐานการบังคับควบคุมรถ เร่ง เบรก เข้าโค้ง ฝึกใช้ KERS (บูสต์เพิ่มความเร็วชั่วขณะ) และ DRS (ปรับปีกเพื่อเพิ่มแอโรไดนามิกในทางตรง) ทั้งบนสนามแห้งและพื้นเปียก หากฝึกจนผ่านในแต่ละการทดสอบก็จะได้รับเหรียญรางวัล 3 ระดับคือ ทองแดง เงิน และทอง ซึ่งจะมีผลต่อการปลดล็อคทีมแข่งที่มีมาให้เราเลือกในโหมด Career ต่อไป
หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกฝนทั้งหมด ผู้เล่นสามารถกลับมายังหน้าจอเมนูปกติ โดยในภาคนี้ได้มีการนำเสนอในรูปแบบของโชว์รูมรถสูตรหนึ่งที่ดูสวยงามเล่นแสงเงาเวาวับจับใจทำให้รู้สึกอยากขับมันขึ้นมาทันที ซึ่งในส่วนนี้จะมีตัวเลือกให้เข้าไปเซตค่าปรับแต่งโปรไฟล์ของเราทั้งเลือกลายหมวกที่ชอบ ปรับการบังคับควบคุม เลือกชื่อเล่นเอาไว้เรียกแทนตัวเราในการแข่ง รวมไปถึงปรับระดับความยากของ AI ของบรรดานักขับคู่แข่ง ส่วนโหมดการเล่นต่างๆภายในเกมจะขออธิบายแยกย่อยดังนี้
โหมด Quick Race สำหรับผู้เล่นที่ต้องการเข้าเล่นแบบรวดเร็วทันใจ เพียงแค่เลือกทีมและนักขับจาก 12 ทีมลิขสิทธิ์ที่เข้าร่วมทำการแข่งขันชิงชัยในปีนี้ จากนั้นก็เลือกสนามจากทั้งหมด 20 สนามที่ถูกบรรจุเข้ามาในปฏิทินการแข่งขันในฤดูกาล 2012 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีสนามใหม่อย่างสนาม Circuit of the Americas ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระยะทาง 5.515 กิโลเมตร ให้เราได้ทดลองแข่งก่อนการแข่งขันของจริงที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ รวมไปถึงสนาม Hockeinheimring ในเยอรมันที่ถูกบรรจุกลับเข้ามาใหม่ในฤดูกาลนี้ อีกทั้งเรายังสามารถปรับจำนวนรอบสนามในการแข่งได้ตามใจโดยมีให้เลือกทั้งแบบ 3 รอบ, 5 รอบ, 25% (ประมาณ 15 รอบ), 50% (ประมาณ 30 รอบ), และสุดท้ายแบบจัดเต็ม 100% (ประมาณ 60 รอบ)
โหมด Career จะให้เราสวมบทเป็นนักขับฟอร์มูล่าวันโนเนมที่เริ่มไต่เต้าจากทีมเล็กๆไปก่อน โดยทีมที่มีมาให้เลือกตั้งแต่แรกนั้นมี 6 ทีมด้วยกัน ได้แก่ Marussia F1 Team, HRT F1 Team, Caterham F1 Team, Scuderia Toro Rosso, Sahara Force India F1 Team และ Williams F1 Team (ปลดล็อคเมื่อผ่านทุกการทดสอบในระดับเหรียญทองเท่านั้น) โดยตัวเกมจะเรียงตามระดับความยากจากซ้ายไปขวา ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกดู Objective ของแต่ละทีมได้โดยทุกทีมจะมีการกำหนดอันดับจบต่ำสุดเอาไว้ สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ขอแนะนำว่าให้เลือกทีมที่อยู่ฝั่งซ้ายไปก่อน ถึงแม้จะได้ขับรถที่ไม่แรงหรือไม่มี DRS และ KERS ให้ใช้ แต่ในทางกลับกันเราก็จะไม่มีความกดดันและได้มีโอกาสเรียนรู้การขับในแต่ละสนามไปก่อนหนึ่งฤดูกาล แล้วฤดูกาลหน้าค่อยเลือกเซ็นสัญญากับทีมใหญ่ที่อยู่ถัดขึ้นไปเรื่อยๆ
เมื่อเลือกทีมได้แล้วก็จะเข้าสู่หน้าเมนูหลักของโหมด Career ซึ่งในส่วนนี้ผู้เล่นสามารถเลือกดูข้อเสนอจากทีมอื่นที่ยื่นเข้ามา ติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นล่าสุด เช็คอีเมล์จากทีมงาน ดูผลงานของเราในตารางอันดับการแข่งขัน และเลือกปรับเซตค่าต่างๆได้ตามใจชอบ ซึ่งมีให้เลือกทั้งระดับความยากของ AI เลือกการแข่งขันแบบ Short Weekend (Qualify รอบเดียวแล้วแข่งเลย) หรือแบบ Full Weekend (Qualify 3 รอบ) ปรับเพิ่มตัวช่วยในการขับ (สำหรับมือใหม่แนะให้เปิดทุกอย่างยกเว้นตัวช่วยเบรก) รวมทั้งลดกฏระเบียบให้ผ่อนปรนลงมาหน่อย เมื่อปรับทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็เข้าสู่การแข่งขัน โดยก่อนแข่งผู้เล่นสามารถเลือกดูไกด์แนะนำในแต่ละสนาม ซึ่งทาง "Anthony Davidson" เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาฝ่ายเทคนิคของ Codemasters จะมาติวเข้มสอนการเข้าทุกโค้งในสนาม พร้อมคลิปวิดีโอประกอบตั้งแต่จุดสตาร์ทจนถึงเส้นชัยเลยทีเดียว
สำหรับปฏิทินการแข่งขันจะหยิบยกมาจากของจริงทุกประการ โดยสนามแรกจะเริ่มขึ้นที่ Qantas Australian Grand Prix ในกรุงเมลเบิร์น เริ่มขึ้นมาผู้เล่นจะอยู่ในพิทพร้อมกับเมนูเลือกปรับแต่งรถ ดูสถิติผลงานในสนามของตัวเราเองและนักขับคนอื่นๆจากทีมคู่แข่ง ไปจนถึงเลือกกลยุทธ์ในการเข้าพิทเปลี่ยนยางซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญที่สุดในการแข่งขัน โดยยางหลักๆที่มีให้เลือกใช้นั้นมีอยู่ 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ Option (ขอบเหลือง) ยึดเกาะถนนให้ความเร็วสูงสุดแต่ยางจะสึกไว, Prime (ขอบขาว) ยางปกติที่สมดุลทั้งในเรื่องความเร็วและความทนทาน, Intermediate (ขอบเขียว) เหมาะสำหรับสนามกึ่งแห้งกึ่งเปียก และ Wet (ขอบน้ำเงิน) สำหรับสนามชุ่มฉ่ำไปด้วยฝนที่ตกกระหน่ำ ซึ่งในรอบแรกๆหากสนามแห้งแดดออกผู้เล่นอาจจะเลือกใช้ยาง Option เพื่อขึ้นแซงทำอันดับ แล้วรอบหลังๆค่อยเปลี่ยนมาใช้ Prime เพื่อขับประคองรักษาอันดับที่นำเอาไว้
มาต่อกันที่การ Qualify และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากต่ออันดับสตาร์ทของเราในการแข่งจริง ซึ่งเราจำเป็นต้องทำเวลาต่อรอบให้เร็วที่สุด โดยตัวเกมจะมีระบบแสดงภาพโฮโลกราฟฟิกของรถนักขับที่ขับเร็วสุดเป็นอันดับหนึ่งโผล่ขึ้นมานำหน้าเรา และเราจะต้องเร่งสปีดพยายามรักษาระยะห่างให้เข้าใกล้มากที่สุด หรือแซงได้เลยยิ่งดีเพราะจะทำให้เราขึ้นมาอยู่อันดับหนึ่งทันที หากแซงไม่ได้จริงๆก็ขอให้อยู่อันดับต้นๆเพื่อไปวัดกันที่โค้งแรกตอนออกสตาร์ท ซึ่งเราสามารถรีสตาร์ทเล่น Qualify กี่รอบก็ได้จนกว่าจะได้อันดับที่เราพอใจหรือเอาจนผ่านอันดับ Objective ที่ทีมงานตั้งเอาไว้ เนื่องจากโหมด Career ของเกมนี้จะมีลักษณะคล้ายกับมิชชั่น หากทำไม่ได้ตาม Objective ที่ตัวเกมกำหนดก็จะขึ้น Fail แล้วไปต่อไม่ได้จนกว่าจะเล่นให้ผ่าน
พอเสร็จจากการ Qualify ตัวเกมก็จะเซฟแล้วเข้าสู่อีกวันที่เป็นการแข่งขันจริง หากได้ออกสตาร์ทในอันดับ 10 ขึ้นไปก็มีสิทธิ์สูงที่จะขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้ โดยโค้งแรกของสนามจะเป็นตัวตัดสินควรรีบแซงในช่วงนี้ (แต่ต้องระวังให้ดีเพราะถ้าเร่งมาเร็วเกินไปแล้วเบรกไม่อยู่ไปสะกิดคันอื่นเพื่อให้รถเราแซงขึ้นไปได้อาจจะโดนปรับเอาไม่ใช่น้อย) เพราะถ้าหากเราขับตามๆคันข้างหน้าไปเรื่อยๆหรือปล่อยคู่แข่งขึ้นนำแล้วด้วยสภาพรถของเราในตอนนี้จะตามลำบาก เนื่องจาก AI ในเกมนี้ถึงแม้จะขับแบบมีระเบียบวินัยไม่ก้าวร้าวปาดเบียดแซงเรา แต่มันก็ขับเร็วมากทีเดียว เข้าเนียนทุกโค้งความเร็วไม่มีตก ยิ่งผ่านไปแต่ละรอบยิ่งทำเวลาได้ดีต่อให้ปรับ AI ระดับง่ายสุดแล้วก็ตาม และในระหว่างการแข่งเมื่อเราได้อันดับที่พอใจแล้วก็ควรขับประคอง เพราะ AI จะไม่แซงเราจนกว่าจะเห็นทางโล่งในทางตรงหรือเราขับหลุดโค้งออกไปเอง ซึ่งตรงจุดนี้ตัวเกมก็ได้ใส่ระบบย้อนเวลา Flashback (แบบเดียวกับที่มีอยู่ในเกม Dirt หรือ Grid) เข้ามากันเหนียว โดยจำกัดใช้ได้สูงสุด 4 ครั้งเท่านั้น ดังนั้นควรเก็บไว้ใช้ตอนจำเป็นจริงๆอย่างการเกิดอุบัติเหตุหรือขับชนจนไปต่อไม่ได้จะดีกว่า
อีกปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนสำคัญต่อการแข่งขันนั่นคือ ระบบสภาพอากาศในพื้นที่ของแต่ละสนาม ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ตลอดเวลา บางครั้งขับในสนามแดดเปรี้ยงอยู่ดีๆก็เริ่มมีเมฆก่อตัวท้องฟ้ามืดครึ้ม สักพักฝนก็โปรยปรายลงมา ทำให้เราต้องคิดปรับแผนเฉพาะหน้าเลือกยางให้ดีๆ หรือบางทีมาแต่เมฆแต่ไม่มีเม็ดฝนหยดลงมาก็มี แนะว่าระหว่างขับควรรอดูสภาพอากาศไปสักระยะก่อน รอให้ฝนเริ่มลงเม็ดเสียก่อนแล้วค่อยเข้าพิทไปเปลี่ยนยางก็ยังทัน เท่านั้นยังไม่พอในภาคนี้ทางทีมงานยังได้ใส่ระบบ Active Track Technology เพื่อผลิตฝนบนพื้นที่สนามแข่งในแต่ละช่วงไม่เท่ากัน ทำให้บางส่วนของสนามเปียก แต่บางส่วนกลับแห้ง ส่งผลให้ผู้เล่นปวดหัวกับการเลือกยางเป็นอย่างมาก บางครั้งก็ต้องดูเอาจากรถคู่แข่งว่าใช้ยางอะไรกันเพราะ AI ในภาคนี้ฉลาดล้ำเลิศรู้ดีเป็นที่สุด
โหมด Season Challenge เป็นเหมือนสาส์นท้าประลองตัวต่อตัวกับนักขับทีมอื่น ผู้เล่นจะเริ่มต้นในทีมอันดับล่างๆแล้วเลือกนักแข่งจากทีมอื่นหนึ่งคนที่ตนคิดว่าสามารถเอาชนะได้ ซึ่งการดวลสามารถรู้ผลได้ในการแข่งเพียง 3 ครั้งครั้งละ 5 รอบสนาม ใครที่สามารถชนะได้ 2 ครั้งก่อนก็เป็นผู้ชนะไป ส่วนรางวัลก็คือจะได้ถูกจับเซ็นสัญญาไปแทนที่คู่แข่งคนนั้นและได้ไปขับรถแรงๆให้กับทีมที่มีอันดับสูงกว่า ซึ่งนี่ก็เป็นเหมือนการไต่อันดับจนกว่าเราจะขึ้นไปเป็นนักขับของทีมอันดับหนึ่งนั่นเอง ส่วนโหมด Champions จะเป็นการวัดฝีมือกับแชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเก่งเหนือแชมป์ ผู้เล่นต้องฝ่าฟันภารกิจที่น่าท้าทายกับเหล่านักขับระดับแชมป์โลกทีละคน จำนวนทั้งสิ้น 6 คนด้วยกัน ได้แก่ Kimi Raikkonen, Lewis Hamilton, Jenson Button, Fernando Alonson, Sebastian Vettel และ Michael Schumacher เมื่อสามารถผ่านหมดครบทุกคนแล้ว ก็เหลือการแข่งครั้งสุดท้ายในสนามที่ต้องเผชิญหน้ากับนักขับแชมป์โลกพร้อมกันทีเดียวถึง 6 คน นอกจากนี้ยังมีโหมดการแข่งกับเวลาอย่าง Time Attack และ Time Trial ให้ได้เล่นจับเวลาชิงเหรียญและชิงอันดับลีดเดอร์บอร์ดกัน
ส่วนเเรื่องกราฟฟิกนั้น ภาคก่อนที่ว่าสวยแล้ว ภาคนี้ยังดูดีขึ้นไปอีกทั้งรายละเอียดสนาม แสงเงาที่ดูสมจริง เงาสะท้อนจากพื้นถนนที่เปียก รวมไปถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างเม็ดฝนที่เกาะอยู่บนตัวรถหรือบนหน้าจอของผู้เล่นที่ได้อารมณ์มากๆ โดยเฉพาะตอนขับรถท่ามกลางฝนที่กระหน่ำลงมา เวลาชนก็มีเศษชิ้นส่วนหลุดออกมาให้เห็นกันจะๆ การนำเสนอก็ทำออกมาได้ดีเก็บรายละเอียดแม้กระทั่งอยู่ในพิทไปจนถึงตอนเข้าพิทเปลี่ยนยางก็มีให้เห็นว่าทีมงานทำอะไรบ้างกับตัวรถ ส่วนเสียงตีมเพลงประกอบภายในเกมก็ฟังดูฮึกเหิมเร้าใจแม้จะไม่มีคำร้องเลยก็ตาม เสียงตอนแข่งทั้งเครื่องยนต์ในสนามที่ดังกระหึ่มแตกต่างกันไปในรถแต่ละคัน พร้อมด้วยเสียงคนดูที่คอยส่งเสียงเชียร์อยู่ข้างสนามและเสียงวิทยุจากทีมงานนั้น ทำให้รู้สึกเหมือนว่าเรากำลังนั่งขับรถ F1 อยู่จริงๆ สำหรับการแข่งขันในโหมดออนไลน์นั้น ตัวเกมสามารถรองรับได้สูงสุด 16 คนพร้อมกัน หรือหากต้องการให้เหมือนของจริงแบบแข่งเต็มสนาม 24 คัน ก็สามารถเลือกให้ AI มาขับแทนตำแหน่งว่างที่เหลือก็ยังได้
ตัวเกม F1 2012 ในภาคนี้ถือว่านำเสนอออกมาได้ดูดีเลยทีเดียว ทั้งเรื่องภาพกราฟฟิก รวมไปถึงการใส่ใจนักขับมือใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสเกมนี้มาก่อนให้สามารถเข้าใจและเรียนรู้การขับรถฟอร์มูล่าวันได้อย่างรวดเร็ว แต่ใช่ว่าเมื่อผ่านการฝึกสำเร็จแล้วจะสามารถไปแข่งจริงได้เลยเพราะนั่นเป็นเพียงแค่การสอนพื้นฐานเท่านั้น และทางทีมผู้พัฒนาก็ไม่ได้ปรับลดระดับความยากของเกมลงไปจากภาคก่อนๆ ซึ่งเราจำเป็นต้องอาศัยความอดทนในการเรียนรู้แต่ละสนามด้วยการฝึกขับหลายๆรอบ และอาจทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่เกิดอาการท้อได้
| เกมการเล่น | 8 |
| กราฟิก | 9 |
| เสียง | 9 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 8 |
| ภาพรวม | 8.5 |
ข้อดี : ภาพกราฟฟิกที่มีรายละเอียด, คุณภาพเสียงที่ให้บรรยากาศสมจริง, โหมดฝึกสอน และบรรดาตัวช่วยนักขับมือใหม่
ข้อเสีย : ความยากของเกมที่ไม่ลดลงเลย
Minimum System Requirements (ระบบขั้นต่ำที่รองรับ)
• OS: Windows Vista or Windows 7
• Processor: Intel Core 2 Duo @ 2.4Ghz or AMD Athlon X2 5400+
• Memory: 2 GB RAM
• Graphics: AMD HD2600 or NVIDIA Geforce 8600
• DirectX: 11
• Hard Drive: 15 GB HD space
• Sound: Direct X compatible soundcard
Recommend System Requirements (สเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ที่แนะนำ)
• OS: Windows Vista or Windows 7 64 bit
• Processor: Intel Core i7 / AMD Bulldozer
• Memory: 4 GB RAM
• Graphics: AMD HD6000 Series / Nvidia GTX500 Series minimum 1GB RAM
• DirectX: 11
• Hard Drive: 15 GB HD space
• Sound: Direct X compatible soundcard
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท นิวอีร่า อินเตอร์แอคทีฟ มีเดีย จำกัด New Era Games
