อินฟินิตี้เปิดตัวเวอร์ชันนี้ออกมาในช่วงก่อนที่เซบาสเตียน เว็ตเทลจะคว้าแชมป์โลก F1 สมัยที่ 2 โดยการจัดงานเปิดตัวมีขึ้นที่แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ในตอนนั้นยังไม่มีการยืนยันหรือคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการว่า แฟนๆ ของอินฟินิตี้จะมีโอกาสได้ขับหรือไม่ จนกระทั่งหลังจากที่เว็ตเทลซิ่งเข้าวินอันดับที่ 3 ในรายการเจแปนีส กรังด์ปรีซ์ที่สนามซึซึกะเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางแบรนด์หรูของนิสสันก็เปิดไฟเขียวขึ้นไลน์ผลิตทันที...เรียกว่าอินเทรนด์ ประมาณน้ำขึ้นต้องรีบตักกันเลยก็ว่าได้
เมื่อยืนมองจากภายนอก อาจจะดูแล้วว่า เอสยูวีระดับหรูรุ่นนี้ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจาก FX ที่เพิ่งเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์วางขายในตลาดโลกกันสักเท่าไร ตรงนี้อาจจะจริง เพราะว่า Vettel Edition คือ การต่อยอดในการพัฒนามาจาก FX รุ่นปกติ หรือจะพูดให้ง่ายๆ คือ เหมือนกับจับเอา FX รุ่นปกติมาแต่งเติมเสริมความสปอร์ตเท่านั้นเอง ซึ่งคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับ คือ ความเป็น Edition อย่างเป็นทางการที่ผลิตขึ้นมาเพื่อแชมป์โลก 2 สมัยที่กำลังฮ็อตในตอนนี้
แต่ความจริงเมื่อมองในแง่ของสเปกชี๊ตแล้ว ตัวรถมีอะไรมากกว่านั้น เพราะนอกจากชุดสปอยเลอร์ที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งถูกติดตั้งรอบคัน ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานหรือ Cd ของตัวรถดีขึ้น 30% แล้ว งานนี้เว็ตเทลเข้ามามีเอี่ยวในการพัฒนาอย่างเต็มตัว เพื่อให้ตัวรถสามารถตอบสนองความพึงพอใจในการขับขี่อย่างเต็มที่
ไม่ว่าจะเป็นการปรับเซตระบบช่วงล่างใหม่ เพื่อรองรับกับจำนวนม้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการลดความสูงเพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ และล้อแม็กวงโตขนาด 21 นิ้ว ทำให้สามารถทรงตัวได้ดีขึ้น หรือการตกแต่งภายในห้องโดยสาร ที่เน้นความเป็นสปอร์ตได้มากขึ้นจากรุ่นมาตรฐาน อีกทั้งยังลดน้ำหนักลงจากรุ่นมาตรฐานอีก 46 กิโลกรัมลงมาอยู่ที่ 2,049 กิโลกรัม เพื่ออัตราเร่งที่ดีขึ้นอีกด้วย
สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้ในการพัฒนายกชุดมาจากรุ่น FX50 ซึ่งเป็นขุมพลังแบบวี8 ขนาด 5000 ซีซี ด้วยการปรับเปลี่ยนโปรแกรมของกล่องสมองกลใหม่ เช่นเดียวกับชุดท่อไอเสียที่ได้รับการออกแบบเพื่อช่วยในการระบายไอเสียได้อย่างรวดเร็วและหมดจด ทำให้จำนวนม้าในคอกขยับขึ้นจาก 390 มาอยู่ที่ 420 ตัว เพียงพอสำหรับการสร้างความเร้าใจทั้งตีนต้นและตีนปลาย โดยทางอินฟินิตี้เผยว่า FX Vettel Edition มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 5.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เว็ตเทลกล่าวในช่วงวันเปิดตัวว่า “นี่คือรถยนต์ในสายการผลิตรุ่นแรกที่ผมเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา ผมต้องทำงานร่วมกับวิศวกรมากกว่า 100 คน ในการปรับปรุงและพัฒนารถยนต์สักรุ่นเพื่อผม นี่คือความยอดเยี่ยมมาก และผลตอบแทนคือ FX คันนี้ ซึ่งสามารถแล่นได้ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีการทรงตัวที่ดีอันเป็นผลมาจาก Downforce ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบสปอยเลอร์ใหม่”
อินฟินิตี้คอนเฟิร์มว่ามีขายแน่นอน ส่วนราคาไม่ได้เปิดเผย ซึ่งดูๆ แล้วงานนี้เตรียมเอาไว้เยอะหน่อยก็ดี เพราะความฮ็อตจากการที่เว็ตเทลเพิ่งคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 น่าจะช่วยทำให้อินฟินิตี้สามารถขยับราคาขายได้ขึ้นไปอีก