xs
xsm
sm
md
lg

Audi Crosslane พลิกความหรูสู่ความสปอร์ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดูเหมือนว่าแนวคิดในการพัฒนาเอสยูวีให้มีความสปอร์ตมากขึ้นจะกลายเป็นไอเดียที่ผู้ผลิตรถยนต์หรูหลายรายให้ความสนใจ หลังจากที่บีเอ็มดับเบิลยูประสบความสำเร็จกับ X6 และแลนด์โรเวอร์ประสบความสำเร็จกับแบรนด์ย่อยอย่างเรนจ์โรเวอร์ในชื่ออีโว๊ค

และคราวนี้ผู้ที่ให้ความสนใจคือ ออดี้ ถึงขนาดมีการระบุข่าวมาเลยว่าจะขึ้นไลน์ผลิตจริงแน่นอน โดยจะยุติโปรเจ็กต์การปัดฝุ่นนำรถสปอร์ตสุดคลาสสิคอย่างควอตโตร เพื่อเปิดทางให้กับเอสยูวีมาดสปอร์ตรุ่นนี้

ข่าวที่หลุดออกมาทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากต้นแบบรุ่น "ครอสส์เลน" ที่ออดี้นำออกจัดแสดงงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2012 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดตัวต้นแบบรุ่นนี้สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อยกับรูปทรงที่แม้ว่าจะดูแล้วเรียบๆ แต่กลับสะกดทุกสายตาได้เป็นอย่างดีภายใต้แนวคิดของเอสยูวีมาดสปอร์ตแบบ 3 ประตู


ครอสส์เลน ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงมุมมองของออดี้ที่มีต่อตลาดเอสยูวีในปัจจุบัน ซึ่งหลายคนยังชอบรถยนต์สไตล์นี้อยู่ แต่กลับมีความต้องการที่แตกต่างจากที่ผ่านมาในอดีต คือ จะต้องมีการแฝงความสปอร์ตเอาไว้ด้วย นั่นก็เลยเป็นที่มาของการเปิดโปรเจ็กต์เอสยูวีมาดสปอร์ตรุ่นนี้

ตัวถังของครอสส์เลนได้รับการพัฒนาขึ้นตามแนวคิด ASF หรือ Aluminum Space Frame ของออดี้ โดยใช้โครงสร้างตัวถังที่ผลิตจากอะลูมิเนียม และมีการนำวัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่าง CRPF หรือ Carbon Fiber Plastic Rienfoce มาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังตามจุดต่างๆ เพื่อลดน้ำหนักให้กับตัวรถ

ออดี้บอกว่าครอสส์เลนเป็นเอสยูวีสปอร์ตแบบ 2+2 ที่นั่ง มาพร้อมกับความยาว 4,210 มิลลิเมตร กว้าง 1,880 มิลลิเมตร สูง 1,510 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,560 มิลลิเมตร ถือว่าไซส์อยู่ก้ำกึ่งระหว่าง Q3 และ Q5

ในเรื่องของขุมพลังขับเคลื่อนเป็นงานของระบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบ 3 สูบ TFSI มีความจุ 1,500 ซีซี มีกำลังสูงสุด 130 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 20.4 กก.-ม. พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว คือ EM1 และ EM2 มีกำลังสูงสุด 68 และ 116 แรงม้าตามลำดับ โดยมอเตอร์ทั้ง 2 ตัวจะช่วยในแง่ของการช่วยเครื่องยนต์ขับเคลื่อน หรือขับเดี่ยวๆ ในโหมด EV ซึ่งอาศัยกระแสไฟฟ้าจากเบตเตอรี่


กรณีที่มีการชาร์จแบตเตอรี่ในระบบจนเต็ม เมื่ออยู่ในโหมด EV มอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่ 2 หรือ EM2 จะรับหน้าที่ขับเคลื่อนจนกระทั่งถึงประมาณ 55 กิโลกเมตร ก็จะมอบหน้าที่ในการขับเคลื่อนส่งไปให้กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน และมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่ 1 หรือ EM1 ทำหน้าที่ในการช่วยขับเคลื่อนในรูปแบบไฮบริด

ใครที่ติดใจในความสวยสปอร์ตของต้นแบบรุ่นนี้เตรียมตัวเก็บเงินเอาไว้ให้ดี เพราะมีข่าวว่าออดี้จะผลิตขายจริงแน่นอน น่าจะเปิดตัวไม่เกินปี 2014 เพื่อรับมือกับบีเอ็มดับเบิลยูที่จะผลิตรุ่น X4 ออกสู่ตลาด
กำลังโหลดความคิดเห็น