ทิ้งระยะเวลาร่วม 10 ปี ในที่สุด แลนด์ โรเวอร์ ก็มีอะไรใหม่ๆ ให้กับเอสยูวีระดับลักซัวรี่ของตัวเองอย่าง “เรนจ์โรเวอร์” แล้ว เมื่อเผยภาพของรุ่นใหม่แกะกล่องที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานที่ปารีส และจากนั้นจะเริ่มขายในยุโรปทันที ก่อนทยอยเปิดตัวในอีก 160 ประเทศทั่วโลก


ในรุ่นใหม่นี้เป็นเจนเนอเรชันที่ 4 นับตั้งแต่ชื่อของเรนจ์โรเวอร์ เป็นที่รู้จักกันของนักขับทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 1970 เพื่อเจาะตลาดเอสยูวีระดับหรู ส่วนในรุ่นที่กำลังนับถอยหลังเตรียมเลิกทำตลาดเปิดตัวเมื่อปี 2002 และถือเป็นเรนจ์โรเวอร์รุ่นแรก ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาภายใต้เจ้าของใหม่อย่างบีเอ็มดับเบิลยู ก่อนที่กิจการของแลนด์โรเวอร์จะถูกขายออกไปให้กับฟอร์ดในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่เรนจ์โรเวอร์ใหม่รุ่นนี้เปิดตัวออกมา
สำหรับรุ่นใหม่มีรหัสของการพัฒนา คือ L405 และถูกพัฒนาภายใต้เจ้าของใหม่อย่างทาทาแห่งอินเดีย มาพร้อมกับตัวถังแบบ 5 ประตูที่เน้นน้ำหนักตัวที่เบาขึ้นด้วยการใช้อะลูมิเนียมในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้า และโครงสร้างของแชสซีส์ด้านท้ายของตัวรถ และจากการนำอะลูมิเนียมมาใช้ในการผลิตตัวถังทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาลงประมาณ 39% หรือคิดเป็น 420 กิโลกรัมเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่ใกล้เคียงกันในตัวถังที่แล้ว
ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถหันมาเน้นการผสมผสานแนวคิดของความเป็นรถสปอร์ตเข้ากับสมรรถนะในการบุกตะลุยบนเส้นทางวิบาก และยังแฝงเอาไว้ด้วยความหรูหราในทุกรายละเอียด ส่วนในแง่ความทนทานนั้น ทางแลนด์โรเวอร์ บอกว่า ไม่ต้องกังวลเพราะโปรเจ็กต์นี้มีการนำเรนจ์โรเวอร์ใหม่ออกวิ่งทดสอบจริงตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 20 ประเทศ เพื่อให้เผชิญหน้ากับความหลากหลายประเภท


ทางเลือกของเครื่องยนต์จะมี 3 รุ่น จากขุมพลัง 2 แบบ คือ เบนซิน แบบ วี8 และเทอร์โบดีเซล แบบ วี6 และ วี8 ในรุ่น TDV6 และ SDV8 ซึ่งให้ทั้งสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำ
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2012 ที่จะมีขึ้นในปลายเดือนกันยายนนี้ และจากนั้นจะเริ่มขายในตลาดยุโรปทันที ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้


ในรุ่นใหม่นี้เป็นเจนเนอเรชันที่ 4 นับตั้งแต่ชื่อของเรนจ์โรเวอร์ เป็นที่รู้จักกันของนักขับทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 1970 เพื่อเจาะตลาดเอสยูวีระดับหรู ส่วนในรุ่นที่กำลังนับถอยหลังเตรียมเลิกทำตลาดเปิดตัวเมื่อปี 2002 และถือเป็นเรนจ์โรเวอร์รุ่นแรก ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาภายใต้เจ้าของใหม่อย่างบีเอ็มดับเบิลยู ก่อนที่กิจการของแลนด์โรเวอร์จะถูกขายออกไปให้กับฟอร์ดในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่เรนจ์โรเวอร์ใหม่รุ่นนี้เปิดตัวออกมา
สำหรับรุ่นใหม่มีรหัสของการพัฒนา คือ L405 และถูกพัฒนาภายใต้เจ้าของใหม่อย่างทาทาแห่งอินเดีย มาพร้อมกับตัวถังแบบ 5 ประตูที่เน้นน้ำหนักตัวที่เบาขึ้นด้วยการใช้อะลูมิเนียมในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้า และโครงสร้างของแชสซีส์ด้านท้ายของตัวรถ และจากการนำอะลูมิเนียมมาใช้ในการผลิตตัวถังทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาลงประมาณ 39% หรือคิดเป็น 420 กิโลกรัมเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่ใกล้เคียงกันในตัวถังที่แล้ว
ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถหันมาเน้นการผสมผสานแนวคิดของความเป็นรถสปอร์ตเข้ากับสมรรถนะในการบุกตะลุยบนเส้นทางวิบาก และยังแฝงเอาไว้ด้วยความหรูหราในทุกรายละเอียด ส่วนในแง่ความทนทานนั้น ทางแลนด์โรเวอร์ บอกว่า ไม่ต้องกังวลเพราะโปรเจ็กต์นี้มีการนำเรนจ์โรเวอร์ใหม่ออกวิ่งทดสอบจริงตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 20 ประเทศ เพื่อให้เผชิญหน้ากับความหลากหลายประเภท
ทางเลือกของเครื่องยนต์จะมี 3 รุ่น จากขุมพลัง 2 แบบ คือ เบนซิน แบบ วี8 และเทอร์โบดีเซล แบบ วี6 และ วี8 ในรุ่น TDV6 และ SDV8 ซึ่งให้ทั้งสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำ
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2012 ที่จะมีขึ้นในปลายเดือนกันยายนนี้ และจากนั้นจะเริ่มขายในตลาดยุโรปทันที ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้