หลังจากที่เลิกทำตลาดไปพักใหญ่ ในที่สุดแอสตัน มาร์ตินก็ปัดฝุ่นนำชื่อ "แวนควิช" กลับมาอีกครั้ง โดยจะเข้ามาทำตลาดแทนที่รุ่น DBS และพร้อมเปิดตัวขายในปลายปีนี้ โดยที่ยังไม่เปิดเผยราคาออกมาในตอนนี้
ชื่อของแวนควิชเป็นที่รู้จักในตลาดมาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อแอสตัน มาร์ตินเปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2004 เพื่อเจาะตลาดรุ่นใหญ่กว่ารถสปอร์ตในตระกูล DB แต่ทว่าแวนควิชก็ขายแค่ 2 ปีเท่านั้น ก็มีการเปลี่ยนโฉม และแอสตัน มาร์ตินก็ยุติการทำตลาดของชื่อนี้ และส่ง DBS เข้ามาขายแทน ซึ่ง DBS อยู่ในตลาดนับจากนั้นเป็นต้นมา
แอสตัน มาร์ตินไม่ได้เปิดเผยออะไรเกี่ยวกับการนำชื่อนี้กลับมาขายอีกครั้ง แต่ที่บอกแน่ๆ คือ ตัวรถได้รับการพัฒนามาจากรถสปอร์ตต้นแบบรุ่น AM310 ที่แอสตัน มาร์ตินนำออกจัดแสดงในงานประกวดรถยนต์คลาสสิคที่ประเทศอิตาลี และไม่น่าเชื่อว่าจะใช้เวลาเพียงแค่เดือนเศษๆ ในการบอกว่าในตอนนี้ AM310 กลายมาเป็นคันจริงพร้อมขายในชื่อแวนควิชแล้ว
ในแง่ของการพัฒนาตัวรถ แน่นอนว่าแอสตัน มาร์ตินได้โชว์ให้เห็นความมหัศจรรย์ของพื้นตัวถังในตระกูล VH-Vertical Horizontal กันอีกครั้ง เพราะถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานของรถสปอร์ตรุ่นนี้ โดยตัวถังมาในแบบสปอร์ตคูเป้ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นแบบ 2 ที่นั่งแท้ๆ หรือว่า 2+2 ที่นั่งแบบมี Dog Seat อยู่ด้านหลัง
มิติตัวถังมีความยาว 4,270 มิลลิเมตร กว้างแบบรวมกระจกมองข้าง 2,067 มิลลิเมตร สูง 1,294 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,740 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 1,739 กิโลกรัมจากการใช้เหล็กและอะลูมิเนียมในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังรถยนต์
เลย์เอาท์ของแพล็ตฟอร์ม VH คือ เครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลัง โดยมีการจัดวางขุมพลังให้ถอยยร่นมาอยู่หลังเพลาหน้าตามสไตล์ Front Midship ส่วนชุดเกียร์ก็ย้ายไปรวมอยู่กับเฟืองท้ายที่เพลาด้านท้าย เพื่อประโยชน์ในด้านการกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลังที่สมดุล ส่วนเพลากลางผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อลดน้ำหนัก
ไม่ต่างจากพื้นตัวถังเท่าไรนัก เครื่องยนต์ของแอสตัน มาร์ตินก็แชร์ร่วมกันหลายรุ่นเหมือนกัน ซึ่งขุมพลังวี12 6,000 ซีซีที่พบในแวนควิชใหม่ก็สามารถพบได้ในสปอร์ตรุ่นใหญ่อย่าง DB9 และ Vantage V12 แต่มีการปรับสเป็กให้เร้าใจขึ้น
เครื่องยนต์บล็อกนี้มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 573 แรงม้า ที่ 6,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 63.2 กก.-ม. ที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะสู่การขับเคลื่อนแบบล้อหลัง สมรรถนะไม่เป็นรองใครทั้งช่วงต้นและช่วงปลาย พกอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.1 วินาที แต่น่าเสียดายที่ความเร็วสูงสุดไม่สามารถฝ่ากำแพง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมงไปได้ โดยทำได้แค่ 295 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้นเอง
แอสตัน มาร์ตินเผยว่าคันจริงของแวนควิชจะมีการจัดแสดงอย่างเป็นทางการในงานประกวดรถยนต์โบราณที่ Pebble Beach เมืองมอนเทอร์เรย์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้น จะเริ่มทำตลาดในช่วงปลายปี ขณะที่ราคาจริงๆ คาดว่าน่าจะรอในช่วงวันจัดงานซึ่งจะมีขึ้นกลางเดือนสิงหาคมนี้
ชื่อของแวนควิชเป็นที่รู้จักในตลาดมาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อแอสตัน มาร์ตินเปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2004 เพื่อเจาะตลาดรุ่นใหญ่กว่ารถสปอร์ตในตระกูล DB แต่ทว่าแวนควิชก็ขายแค่ 2 ปีเท่านั้น ก็มีการเปลี่ยนโฉม และแอสตัน มาร์ตินก็ยุติการทำตลาดของชื่อนี้ และส่ง DBS เข้ามาขายแทน ซึ่ง DBS อยู่ในตลาดนับจากนั้นเป็นต้นมา
แอสตัน มาร์ตินไม่ได้เปิดเผยออะไรเกี่ยวกับการนำชื่อนี้กลับมาขายอีกครั้ง แต่ที่บอกแน่ๆ คือ ตัวรถได้รับการพัฒนามาจากรถสปอร์ตต้นแบบรุ่น AM310 ที่แอสตัน มาร์ตินนำออกจัดแสดงในงานประกวดรถยนต์คลาสสิคที่ประเทศอิตาลี และไม่น่าเชื่อว่าจะใช้เวลาเพียงแค่เดือนเศษๆ ในการบอกว่าในตอนนี้ AM310 กลายมาเป็นคันจริงพร้อมขายในชื่อแวนควิชแล้ว
ในแง่ของการพัฒนาตัวรถ แน่นอนว่าแอสตัน มาร์ตินได้โชว์ให้เห็นความมหัศจรรย์ของพื้นตัวถังในตระกูล VH-Vertical Horizontal กันอีกครั้ง เพราะถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานของรถสปอร์ตรุ่นนี้ โดยตัวถังมาในแบบสปอร์ตคูเป้ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นแบบ 2 ที่นั่งแท้ๆ หรือว่า 2+2 ที่นั่งแบบมี Dog Seat อยู่ด้านหลัง
มิติตัวถังมีความยาว 4,270 มิลลิเมตร กว้างแบบรวมกระจกมองข้าง 2,067 มิลลิเมตร สูง 1,294 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,740 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 1,739 กิโลกรัมจากการใช้เหล็กและอะลูมิเนียมในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังรถยนต์
เลย์เอาท์ของแพล็ตฟอร์ม VH คือ เครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลัง โดยมีการจัดวางขุมพลังให้ถอยยร่นมาอยู่หลังเพลาหน้าตามสไตล์ Front Midship ส่วนชุดเกียร์ก็ย้ายไปรวมอยู่กับเฟืองท้ายที่เพลาด้านท้าย เพื่อประโยชน์ในด้านการกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลังที่สมดุล ส่วนเพลากลางผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อลดน้ำหนัก
ไม่ต่างจากพื้นตัวถังเท่าไรนัก เครื่องยนต์ของแอสตัน มาร์ตินก็แชร์ร่วมกันหลายรุ่นเหมือนกัน ซึ่งขุมพลังวี12 6,000 ซีซีที่พบในแวนควิชใหม่ก็สามารถพบได้ในสปอร์ตรุ่นใหญ่อย่าง DB9 และ Vantage V12 แต่มีการปรับสเป็กให้เร้าใจขึ้น
เครื่องยนต์บล็อกนี้มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 573 แรงม้า ที่ 6,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 63.2 กก.-ม. ที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะสู่การขับเคลื่อนแบบล้อหลัง สมรรถนะไม่เป็นรองใครทั้งช่วงต้นและช่วงปลาย พกอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.1 วินาที แต่น่าเสียดายที่ความเร็วสูงสุดไม่สามารถฝ่ากำแพง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมงไปได้ โดยทำได้แค่ 295 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้นเอง
แอสตัน มาร์ตินเผยว่าคันจริงของแวนควิชจะมีการจัดแสดงอย่างเป็นทางการในงานประกวดรถยนต์โบราณที่ Pebble Beach เมืองมอนเทอร์เรย์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้น จะเริ่มทำตลาดในช่วงปลายปี ขณะที่ราคาจริงๆ คาดว่าน่าจะรอในช่วงวันจัดงานซึ่งจะมีขึ้นกลางเดือนสิงหาคมนี้
