ยะลา - เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 2 พรานป่า บนถนนสาน 410 ยะลา-เบตง ขณะขับรถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางกลับบ้านพัก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 และได้รับบาดเจ็บ 1 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.55 น.วันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ สภ.ธารโต ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ ถนนสาน 410 ยะลา-เบตง บริเวณบ้านหน้าเกษตร ม.2 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.วิชัย แจ้งสกุล ผกก.สภ.ธารโต และ พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา ทราบ พร้อมประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด จาก ภจ.ว.ยะลา และชุดพิสูจน์หลักฐานที่ 10 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อมาถึงที่บริเวณดังกล่าวทราบว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (ยังไม่ทราบชื่อ) และผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลธารโต โดยล่าสุด แพทย์โรงพยาบาลธารโต ได้ส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลยะลา ทราบชื่อ คือ นายอารุณ แก้วแก่นเพชร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.1 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ นายอารุณ พร้อมเพื่อนกลับจากหาของป่าโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะเมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายซึ่งได้วางระเบิดชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 2-3 กก. ก่อนหน้านี้ไว้ที่กำแพงประตู เมื่อเห็นนายอารุณ และเพื่อนขับรถจักรยานยนต์มาถึงได้กดชนวนระบิดขึ้นทันที เป็นเหตุให้นายอารุณได้รับบาดเจ็บ และเพื่อนเสียชีวิตดังกล่าว
ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบเศษอะลูมิเนียมซึ่งคนร้ายบรรจุระเบิดไว้ และพบสายไฟลากไปข้างทางประมาณ 100 เมตร จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ แต่ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นในเรื่องส่วนตัว
ล่าสุด วันนี้ (20 ก.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น. ร.ต.ท.ภราดร เชิดชูล้ำตระกูล ร้อยเวร สภ.ธารโต ได้เรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเข้าสอบปากคำพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุมีจำนวน 3 คน และเป็นแนวร่วมในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งสายสืบออกตรวจสอบ และจะดำเนินการติดตามจับกุมตัวต่อไป และทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายมนู หน่อศิริ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม.1 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทราบว่า ผู้เสียชีวิต และเพื่อนมักจะมายิงกระรอกบริเวณเชิงเขาหน้าบ้านเกษตร ม.2 ต.ธารโต อยู่เป็นประจำ จึงได้ลักลอบวางระเบิดดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ เนื่องจากผู้ที่มาล่าสัตว์ หรือยิงกระรอกเป็นคนไทยพุทธ คนร้ายจึงต้องการสร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านที่เป็นคนไทยพุทธที่อยู่ในพื้นที่