ใครจะเชื่อว่าสุดยอดนักฟุตบอลของโลกอย่าง“โรนัลโด้” กับพระเอกแถวหน้าของเมืองไทย “ป๋อ ณัฐวุธ” จะขับ “โตโยต้า วีโก้” ได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งทางเรียบถนนดำและมุดซ้ายป่ายขวาผ่าอุปสรรคฉลุย...ซึ่งพิจารณาแล้วถ้าไม่ใช้เทคนิคการถ่ายทำ คนขับก็ฝีมือหรือไม่สมรรถนะรถต้องดีมากจริงๆ!?
ในส่วนของเทคนิคการถ่ายทำหรือฝีมือการขับรถของพรีเซ็นเตอร์ทั้งคู่ ผู้เขียนไม่อาจรู้ แต่ถ้าเป็นเรื่องปิกอัพ “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” พัฒนาให้ดีขึ้นขนาดไหนก็พอรู้บ้าง จากการได้ลองขับในทริปภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี เมื่อไม่นานมานี้
หลังโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย (TMT) เริ่มส่ง “ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” รุ่นปรับปรุงใหม่ลุยตลาดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยหลักใหญ่ใจความอยู่ที่การเพิ่มเรี่ยวแรงให้กับเครื่องยนต์ดีเซล 1KD-FTV ขนาด 3.0 ลิตร เป็น 171 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร (แต่ในรุ่น3.0ลิตร เกียร์ธรรมดายัง163 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตรเหมือนเดิม) พร้อมเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติเป็น 5 สปีดทั้งหมด
ขณะเดียวกันโตโยต้ายังปรับไลน์อัพการขายใหม่ โดยถึงวันนี้“ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” ถือเป็นปิกอัพที่มีทางเลือกมากที่สุดในตลาด 32 รุ่นย่อย และหนึ่งในนั้นคือรุ่นใหม่ที่หลายคนรอคอยคือ ปิกอัพขับเคลื่อนสองล้อยกสูง “พรีรันเนอร์” วางเครื่องยนต์ดีเซล 2KD-FTV ขนาด2.5 ลิตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด
โดยในทริปทดสอบนี้โตโยต้าจัดพรีรันเนอร์ 2.5E ABS AT Navi ตัวถังดับเบิลแค็บราคา 884,000 บาท มาให้ผู้สื่อข่าวได้ทดสอบบนระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร พร้อมกับสั่งสายฝนให้โปรยปรายเป็นสักขีพยาน
….เริ่มจากภายใน เมื่อเข้ามานั่งยังให้อารมณ์เดิมๆแต่ดูหรูหราด้วย พวงมาลัยฝังปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์(บลูทูธ) แถมรุ่นนี้มีจอแสดงผลแบบทัชสกรีนขนาด 6.1 นิ้วมาให้ แน่นอนว่าใช้รองรับ ดีวีดี ระบบนำทาง เมนูแสดงค่าต่างๆของรถ ตลอดจนสะท้อนภาพจากกล้องมองหลัง ช่วยให้การกะระยะถอยเป็นไปอย่างแม่นยำ
ทั้งนี้ใกล้ๆตำแหน่งเกียร์ยังมีช่องต่ออุปกรณ์ภายนอก AUX และUSB ตามสมัยนิยม ขณะเดียวกันเมื่อเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดแล้ว สัญลักษณ์แสดงตำแหน่งของเกียร์จะเป็น P R N และตำแหน่งที่เชนลงต่ำ(ผลักเข้าหาตัว) D-4, 3 และ L-2 ตามลำดับ (ออโต้ 4 สปีดเดิมจะเป็น D-3,2และ L)
ในส่วนของพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ (VNT) ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ซึ่งเดิมนั้นเพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว กล่าวคือไม่ต้องขึ้นไปถึงรุ่น 1KD 3.0 ลิตร เพราะ 2KD 2.5 ลิตรบล็อกนี้กำลังเหลือๆครับ
ยิ่งมาประกบกับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดใหม่ รู้สึกว่าการส่งผ่านกำลังจะนุ่มนวลมากขึ้น โดยจังหวะออกตัวไล่ขึ้นไปจากเกียร์หนึ่ง-เกียร์สอง รถยังตอบสนองแรงกดต่อเท้าขวาดี และสังเกตว่ารอบไม่ดีดสูงมากเหมือนพวก 4 สปีดเดิม เช่นเดียวกับการขับขี่ย่านความเร็วกลางๆเข็มวัดรอบไม่สวิงวูบวาบ แต่กระนั้นยังสามารถปลดปล่อยเรี่ยวแรงออกมาให้สมกับความต้องการ
อย่างไรก็ตามเมื่อจับความเร็ว 120 กม./ชม.ที่เกียร์สูงสุด ผู้เขียนเห็นรอบนิ่งอยู่ประมาณ 2,100 รอบต่อนาที ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับ 4 สปีดเดิม นั่นน่าจะเป็นเพราะโตโยต้าเซ็ทอัตราทดเกียร์สุดท้ายไว้ใกล้เคียงกัน คือเกียร์ 5 ใหม่อยู่ที่ 0.716 และเกียร์ 4 เก่า 0.705
โดยภาพรวมของเกียร์อัตโนมัติใหม่กับเครื่องยนต์ผสานการทำงานลื่นดีครับ แถมดูแล้วยังช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น ยิ่งขับกรณีเร่งแรงแซงบ่อยครั้ง ซึ่งการขับตะลุยฝนใต้ตลอดเส้นทางพร้อมความเร็วขึ้น-ลง80-100-120 กม./ชม.ตามสภาพการจราจร และมีช่วงที่ได้อัดยาวๆบนความเร็ว 120-130 กม./ชม.นิ่งๆ สรุปตัวเลขหน้าจอแสดงผลประมาณ 13.5กม./ลิตร
นอกจากระบบขับเคลื่อนที่ดูเนียนขึ้นแล้ว โตโยต้ายังปรับระบบกันสะเทือนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นค่าK สปริง จังหวะคืนตัวของโช้กอัพ รวมถึงจุดยึดต่างๆของช่วงล่าง และบุชยางหูแหนบหลังที่โตขึ้น ตลอดจนเสริมแผ่นรีดลมใต้ท้องรถ โดยทั้งหมดทั้งปวงมุ่งหมายให้รถเกาะถนนหนึบและนุ่มนวลขึ้น
ในประเด็นนุ่มนวลนั้น ส่วนตัวของผู้เขียนเฉยๆและไม่คิดว่าการปรับครั้งนี้ “วีโก้ แชมป์ พรีรันเนอร์”จะนุ่มจนรู้สึกได้ เพราะตัวโครงสร้างหลักๆยังเหมือนเดิม แถมเป็นรถขับเคลื่อนสองล้อยกสูง แหนบวางเหนือเพลา ถ้ารถเซ็ทมานิ่มก็คงขับไปเสียวไปละครับ
แต่ในส่วนของประเด็นหนึบแน่น ผู้เขียนเห็นด้วยและคิดว่า “วีโก้ แชมป์” ทำได้ดีกว่าตอนเปิดตัวแรกๆ รวมถึงการไมเนอร์เชนจ์เมื่อ 4 ปีที่แล้วมากมาย(ยังไม่มีคำว่า“แชมป์”ต่อท้าย)
แม้จังหวะโยนตัวในรุ่นพรีรันเนอร์อาจมีอยู่บ้าง แต่ถ้าความเร็วสูงรู้สึกว่าการขับเครียดน้อยลง พร้อมๆกับเข้าโค้งยาวๆได้มั่นใจ กอปรกับพวงมาลัยที่ไร้ความวอกแวกและควบคุมได้สบายมือมากขึ้น
ปิดท้ายด้วยระบบเบรกที่ปรับใหม่ให้ตอบสนองหนึบหนับแม่นยำ และปรับแรงดันเบรกให้สมดุลกว่าเดิม เหนืออื่นใดยังใช้กล่องECU มาช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ในหลายๆสถานการณ์คับขัน อาทิ เมื่อผู้ขับตัดสินใจเหยียบเบรกในทางโค้งหรือถนนลื่น ซึ่งในเสี้ยววินาที ECU พบว่ารถมีโอกาสจะเสียเสถียรภาพการทรงตัว ก็จะสั่งให้เครื่องยนต์ทำงานเบาลง(ลดการฉีดจ่ายน้ำมัน) พร้อมเลือกใช้เกียร์ต่ำทันที(หวังเอ็นจิ้นเบรกช่วย) เพื่อเสริมความปลอดภัยควบคู่ไปกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
รวบรัดตัดความ...ชื่อชั้นของ“วีโก้”ยังหากินได้สบาย แม้คู่แข่งจะดาหน้าปรับโฉมใหม่หลายยี่ห้อ แต่“โตโยต้า”ก็เตรียมทีเด็ดเอาไว้สู้ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมรุ่นย่อยให้ตรงกับความต้องการอย่าง“พรีรันเนอร์ 2.5เกียร์อัตโนมัติ”(ซึ่งกั๊กเอาไว้เอง) พร้อมพัฒนาระบบขับเคลื่อนให้ตอบสนองดีแต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพของช่วงล่าง-เบรกที่แน่นและแน่นอนกว่าเดิม
ในส่วนของเทคนิคการถ่ายทำหรือฝีมือการขับรถของพรีเซ็นเตอร์ทั้งคู่ ผู้เขียนไม่อาจรู้ แต่ถ้าเป็นเรื่องปิกอัพ “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” พัฒนาให้ดีขึ้นขนาดไหนก็พอรู้บ้าง จากการได้ลองขับในทริปภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี เมื่อไม่นานมานี้
หลังโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย (TMT) เริ่มส่ง “ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” รุ่นปรับปรุงใหม่ลุยตลาดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยหลักใหญ่ใจความอยู่ที่การเพิ่มเรี่ยวแรงให้กับเครื่องยนต์ดีเซล 1KD-FTV ขนาด 3.0 ลิตร เป็น 171 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร (แต่ในรุ่น3.0ลิตร เกียร์ธรรมดายัง163 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตรเหมือนเดิม) พร้อมเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติเป็น 5 สปีดทั้งหมด
ขณะเดียวกันโตโยต้ายังปรับไลน์อัพการขายใหม่ โดยถึงวันนี้“ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” ถือเป็นปิกอัพที่มีทางเลือกมากที่สุดในตลาด 32 รุ่นย่อย และหนึ่งในนั้นคือรุ่นใหม่ที่หลายคนรอคอยคือ ปิกอัพขับเคลื่อนสองล้อยกสูง “พรีรันเนอร์” วางเครื่องยนต์ดีเซล 2KD-FTV ขนาด2.5 ลิตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด
โดยในทริปทดสอบนี้โตโยต้าจัดพรีรันเนอร์ 2.5E ABS AT Navi ตัวถังดับเบิลแค็บราคา 884,000 บาท มาให้ผู้สื่อข่าวได้ทดสอบบนระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร พร้อมกับสั่งสายฝนให้โปรยปรายเป็นสักขีพยาน
….เริ่มจากภายใน เมื่อเข้ามานั่งยังให้อารมณ์เดิมๆแต่ดูหรูหราด้วย พวงมาลัยฝังปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์(บลูทูธ) แถมรุ่นนี้มีจอแสดงผลแบบทัชสกรีนขนาด 6.1 นิ้วมาให้ แน่นอนว่าใช้รองรับ ดีวีดี ระบบนำทาง เมนูแสดงค่าต่างๆของรถ ตลอดจนสะท้อนภาพจากกล้องมองหลัง ช่วยให้การกะระยะถอยเป็นไปอย่างแม่นยำ
ทั้งนี้ใกล้ๆตำแหน่งเกียร์ยังมีช่องต่ออุปกรณ์ภายนอก AUX และUSB ตามสมัยนิยม ขณะเดียวกันเมื่อเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดแล้ว สัญลักษณ์แสดงตำแหน่งของเกียร์จะเป็น P R N และตำแหน่งที่เชนลงต่ำ(ผลักเข้าหาตัว) D-4, 3 และ L-2 ตามลำดับ (ออโต้ 4 สปีดเดิมจะเป็น D-3,2และ L)
ในส่วนของพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ (VNT) ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ซึ่งเดิมนั้นเพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว กล่าวคือไม่ต้องขึ้นไปถึงรุ่น 1KD 3.0 ลิตร เพราะ 2KD 2.5 ลิตรบล็อกนี้กำลังเหลือๆครับ
ยิ่งมาประกบกับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดใหม่ รู้สึกว่าการส่งผ่านกำลังจะนุ่มนวลมากขึ้น โดยจังหวะออกตัวไล่ขึ้นไปจากเกียร์หนึ่ง-เกียร์สอง รถยังตอบสนองแรงกดต่อเท้าขวาดี และสังเกตว่ารอบไม่ดีดสูงมากเหมือนพวก 4 สปีดเดิม เช่นเดียวกับการขับขี่ย่านความเร็วกลางๆเข็มวัดรอบไม่สวิงวูบวาบ แต่กระนั้นยังสามารถปลดปล่อยเรี่ยวแรงออกมาให้สมกับความต้องการ
อย่างไรก็ตามเมื่อจับความเร็ว 120 กม./ชม.ที่เกียร์สูงสุด ผู้เขียนเห็นรอบนิ่งอยู่ประมาณ 2,100 รอบต่อนาที ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับ 4 สปีดเดิม นั่นน่าจะเป็นเพราะโตโยต้าเซ็ทอัตราทดเกียร์สุดท้ายไว้ใกล้เคียงกัน คือเกียร์ 5 ใหม่อยู่ที่ 0.716 และเกียร์ 4 เก่า 0.705
โดยภาพรวมของเกียร์อัตโนมัติใหม่กับเครื่องยนต์ผสานการทำงานลื่นดีครับ แถมดูแล้วยังช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น ยิ่งขับกรณีเร่งแรงแซงบ่อยครั้ง ซึ่งการขับตะลุยฝนใต้ตลอดเส้นทางพร้อมความเร็วขึ้น-ลง80-100-120 กม./ชม.ตามสภาพการจราจร และมีช่วงที่ได้อัดยาวๆบนความเร็ว 120-130 กม./ชม.นิ่งๆ สรุปตัวเลขหน้าจอแสดงผลประมาณ 13.5กม./ลิตร
นอกจากระบบขับเคลื่อนที่ดูเนียนขึ้นแล้ว โตโยต้ายังปรับระบบกันสะเทือนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นค่าK สปริง จังหวะคืนตัวของโช้กอัพ รวมถึงจุดยึดต่างๆของช่วงล่าง และบุชยางหูแหนบหลังที่โตขึ้น ตลอดจนเสริมแผ่นรีดลมใต้ท้องรถ โดยทั้งหมดทั้งปวงมุ่งหมายให้รถเกาะถนนหนึบและนุ่มนวลขึ้น
ในประเด็นนุ่มนวลนั้น ส่วนตัวของผู้เขียนเฉยๆและไม่คิดว่าการปรับครั้งนี้ “วีโก้ แชมป์ พรีรันเนอร์”จะนุ่มจนรู้สึกได้ เพราะตัวโครงสร้างหลักๆยังเหมือนเดิม แถมเป็นรถขับเคลื่อนสองล้อยกสูง แหนบวางเหนือเพลา ถ้ารถเซ็ทมานิ่มก็คงขับไปเสียวไปละครับ
แต่ในส่วนของประเด็นหนึบแน่น ผู้เขียนเห็นด้วยและคิดว่า “วีโก้ แชมป์” ทำได้ดีกว่าตอนเปิดตัวแรกๆ รวมถึงการไมเนอร์เชนจ์เมื่อ 4 ปีที่แล้วมากมาย(ยังไม่มีคำว่า“แชมป์”ต่อท้าย)
แม้จังหวะโยนตัวในรุ่นพรีรันเนอร์อาจมีอยู่บ้าง แต่ถ้าความเร็วสูงรู้สึกว่าการขับเครียดน้อยลง พร้อมๆกับเข้าโค้งยาวๆได้มั่นใจ กอปรกับพวงมาลัยที่ไร้ความวอกแวกและควบคุมได้สบายมือมากขึ้น
ปิดท้ายด้วยระบบเบรกที่ปรับใหม่ให้ตอบสนองหนึบหนับแม่นยำ และปรับแรงดันเบรกให้สมดุลกว่าเดิม เหนืออื่นใดยังใช้กล่องECU มาช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ในหลายๆสถานการณ์คับขัน อาทิ เมื่อผู้ขับตัดสินใจเหยียบเบรกในทางโค้งหรือถนนลื่น ซึ่งในเสี้ยววินาที ECU พบว่ารถมีโอกาสจะเสียเสถียรภาพการทรงตัว ก็จะสั่งให้เครื่องยนต์ทำงานเบาลง(ลดการฉีดจ่ายน้ำมัน) พร้อมเลือกใช้เกียร์ต่ำทันที(หวังเอ็นจิ้นเบรกช่วย) เพื่อเสริมความปลอดภัยควบคู่ไปกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
รวบรัดตัดความ...ชื่อชั้นของ“วีโก้”ยังหากินได้สบาย แม้คู่แข่งจะดาหน้าปรับโฉมใหม่หลายยี่ห้อ แต่“โตโยต้า”ก็เตรียมทีเด็ดเอาไว้สู้ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมรุ่นย่อยให้ตรงกับความต้องการอย่าง“พรีรันเนอร์ 2.5เกียร์อัตโนมัติ”(ซึ่งกั๊กเอาไว้เอง) พร้อมพัฒนาระบบขับเคลื่อนให้ตอบสนองดีแต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพของช่วงล่าง-เบรกที่แน่นและแน่นอนกว่าเดิม