xs
xsm
sm
md
lg

Mercedes-Benz C-Class Coupe : เร้าอารมณ์ทุกมุมมอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การยุบสายพันธุ์ CLK แล้วนำ E-Class Coupe กลับมาขายอีกครั้งหลังจากที่ทำตลาดครั้งสุดท้ายกับรหัส W124 พอจะเป็นการบอกได้นัยๆ ว่า ค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังมีการปรับอะไรใหม่ๆ ในไลน์อัพของรถยนต์ตัวเอง เพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น

เพราะจะว่าไปแล้ว CLK คือรถยนต์ที่ออกลูกก้ำกึ่งมากเกินไป อันเนื่องมาจากการใช้พื้นฐานของ C-Class แต่อัพราคาและความรู้สึกว่าเหมือนกับจ่ายเพื่อซื้อความสปอร์ตของรถยนต์หรูระดับกลาง ดังนั้นเมื่อต้องเจอกับคู่แข่งที่เป็นรถสปอร์ตขนาดกลางจริงๆ ก็เลยไปไม่เป็นและการเตรียมเปิดตัวเวอร์ชันสปอร์ตคูเป้ของ C-Class ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2011 ต้นเดือนมีนาคมนี้ ถือว่าคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้


แต่ที่น่าสงสัยคือ ทำไมค่ายดาว 3 แฉกถึงเลือกเปิดตัวรถยนต์ตัวถังใหม่ช่วงกลางอายุของ C-Class เพราะอย่างที่ทราบกันดี แม้ว่า C-Class ตัวถังซีดานและสเตชันแวกอนที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2010 จะใหม่สดทั้งภายนอกและภายใน แต่ทว่าเป็นแค่การไมเนอร์เชนจ์เท่านั้นเอง ซึ่งตรงนี้อาจจะหมายความว่า W204 อาจจะถูกยืดอายุในการทำตลาดต่อไปอย่างน้อยก็อีก 2-3 ปี ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนโฉมใหม่

C-Class Coupe คือความชัดเจนในเรื่องของการจัดระดับตลาดตัวถังสปอร์ตอย่างแท้จริง เพราะก่อนหน้านี้อย่างที่กล่าวข้างต้น การมี CLK ทำให้เกิดความคลุมเครือในตัวผลิตภัณฑ์ และนั่นทำให้ C-Class ต้องเปลี่ยนทางเลือกในการเจาะตลาดสปอร์ตด้วยการผลิตตัวถังแบบแฮทช์แบ็กอย่าง C-Class Coupe ใน W202 และ CLC ใน W203 แทน


รุ่นใหม่นี้ถือเป็นความสปอร์ตที่แสดงความชัดเจนออกมาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการแชร์รายละเอียดของรูปลักษณ์และพื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกับ C-Class รุ่นปัจจุบันเพื่อบ่งบอกว่าความเร้าใจรุ่นนี้มีความสัมพันธ์อยู่กับรถยนต์รุ่นใด โดย C-Class Coupe ใช้โครงสร้างตัวถังด้านหน้าจนถึงเสากระจกบังลมหน้าร่วมกับ C-Class รุ่นปกติ และมีการออกแบบด้านท้ายของตัวรถใหม่ เพื่อให้เกิดสัมผัสของความเป็นสปอร์ตคูเป้แบบ 4 ที่นั่งอย่างแท้จริง

และก็เช่นเดียวกัน ภายในห้องโดยสารถูกปรับแต่งโดยอิงรูปแบบของแผงมาตรวัดและแผงหน้าปัดจากสายพันธุ์ C-Class แต่มีการตกแต่งใหม่เพื่อความสปอร์ตอย่างแท้จริง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันอย่างระบบ COMMAND ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ เพื่อรับทราบข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการเดินทางผ่านทาง Google


สำหรับทางเลือกของเครื่องยนต์เท่าที่มีการเปิดเผยออกมาตอนนี้มีอยู่ 3 รุ่น คือ เบนซิน C350 BlueEFFICIENCY แบบวี6 3,500 ซีซี ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการจ่ายน้ำมันแบบ BlueDIRECT ให้กำลังสูงสุด 306 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 37.7 กก.-ม. มีอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 16.8 กิโลเมตร/ลิตร โดยส่งกำลังคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะในรุ่น 7G-Tronic

ส่วนที่เหลืออีก 2 รุ่นเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลอย่าง C220CDI BlueEFFICIENCY และ C250CDI BlueEFFICIENCY ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,200 ซีซี มีกำลัง 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. และ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 50.9 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน โดยในรุ่น C220CDI จะติดตั้งระบบ Auto START/STOP ซึ่งจะดับเครื่องยนต์เองเมื่อจอดติดอยู่กับที่ และสตาร์ทใหม่อีกครั้งเมื่อต้องออกตัวมาให้ด้วย


เรื่องของระบบช่วงล่างมีการปรับเซ็ตจาก C-Class รุ่นปกติ โดยด้านหน้าเป็นแบบยึด 3 จุด ส่วนด้านหลังใช้แบบมัลติลิงก์ และมีระบบช่วงล่างปรับระดับด้วยไฟฟ้า หรือ AGILITY CONTROL ให้เลือกเป็นออพชั่นสำหรับลูกค้าที่ต้องการความสนุกสนานในการขับขี่เพิ่มขึ้น

เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังไม่เปิดเผยราคาของ C-Class Coupe ออกมา โดยการทำตลาดจริงๆ ในยุโรปจะเริ่มกลางปีนี้ และเมื่อดูจากสภาพแล้ว นอกจากรุ่น Coupe เราน่าจะได้เห็นเวอร์ชันเปิดประทุนของ C-Class ตามออกมาด้วยอย่างแน่นอนในเร็วๆ นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น