xs
xsm
sm
md
lg

Subaru Lecagy JDM ลุยตลาดพร้อมกันทั้ง 3 ตัวถัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นจริงตามคาดสำหรับซีเควนท์ในการดำเนินงานของซูบารุ เลกาซี่รุ่นใหม่ เพราะหลังจากเปิดตัวทั้งตัวถังซีดาน และแวกอนยกสูงในชื่อเอาท์แบ็กเป็นครั้งแรกของโลกที่งานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2009 เมื่อกลาง เดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่สุดท้ายแล้วทางฟูจิเฮฟวี่ อินดัสตรี้ บริษัทแม่ของซูบารุ ก็เน้นตลาดญี่ปุ่นก่อน จัดการส่งเลกาซี่ใหม่เวอร์ชัน JDM ลงขายในบ้านตัวเองก่อนที่อื่นแล้ว แถมยังมาครบทั้ง 3 ตัวเลือกตามธรรมเนียมปฏิบัติของรถยนต์สายพันธุ์นี้ด้วย

นอกจากอิมเพรซาแล้ว เลกาซี่ถือเป็นรถยนต์ยอดนิยมที่คนทั่วโลกต่างรู้จัก และทำตลาดในกลุ่ม D-Segment มานานนับตั้งแต่ปี 1989 และในรุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์ที่เปิดตัวนี้ถือเป็นเจนเนอเรชันที่ 5 ใช้รหัส BM/BR เพื่อเข้ามาแทนที่รุ่นเดิมซึ่งมีรหัส BL/BP แถมยังเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีในการทำตลาดของสายพันธุ์ พร้อมกับการคงแนวคิดของการเป็นรถยนต์ครอบครัวที่สวยสปอร์ตและเพียบพร้อมด้วยสมรรถนะที่เร้าใจในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์สูบนอนบ็อกเซอร์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาซึ่งเป็นสิ่งที่เลกาซี่ยึดถือมาตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน

สำหรับเวอร์ชัน JDM กับตลาดโลกสิ่งที่ต่างกันคงไม่เหมือนกับคู่แข่งสายตรงอย่างโตโยต้า คัมรี่ และฮอนด้า แอคคอร์ด ที่มีแบ่งหน้าตาตามภูมิภาคในการทำตลาด เพราะแต่ไหนแต่ไรมา เลกาซี่ไม่ว่าจะขายที่ไหนก็มีโฉมหลักแบบเดียวจะต่างกันก็ในเรื่องของรายละเอียดปลีกย่อยของรูปลักษณ์ อีกทั้งยังถือเป็นครั้งแรกที่เลกาซี่ แวกอนถูกเปิดตัวออกมาให้เห็นหน้าตา


ซูบารุเผยว่าเลกาซี่ใหม่ได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังรุ่นใหม่ มาพร้อมกับระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้นอีก 81 มิลลิเมตรเป็น 2,750 มิลลิเมตร โดยในรุ่นซีดานมากับตัวถังที่มีความยาว 4,730 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นแวกอนมีความยาว 4,775 มิลลิเมตร และกว้างเท่ากัน 1,780 มิลลิเมตร
ทางเลือกของเครื่องยนต์สำหรับรุ่นซีดานและสเตชันแวกอนยืนพื้นกับเครื่องยนต์ 4 สูบนอน 2,500 ซีซีในรหัส EJ25 ซึ่งเข้ามาแทนที่รุ่น 2,000 ซีซีที่เคยเป็นทางเลือกหลักสำหรับเวอร์ชัน JDM

สำหรับรุ่นธรรมดาหายใจเองเป็นแคมเดี่ยว SOHC มีกำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 23.4 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT ส่วนอีกทางเลือกเป็นทวินแคม เทอร์โบ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน AVCS มีกำลังขยับขึ้นมาเป็น 285 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 35.7 กก.-ม. ที่ 2,000-5,600 รอบ/นาที เลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 5 จังหวะ

ส่วนตัวยกสูงพร้อมลุยในเวอร์ชันเอาท์แบ็กมากับเครื่องยนต์ 2,500 ซีซีแบบหายใจเอง และอีกทางเลือกกับเครื่องยนต์ใหม่แบบ 6 สูบนอนในรหัส EZ36 ซึ่งมาแทนที่รุ่น 3,000 ซีซีด้วยการขยับความจุขึ้นมาเป็น 3,600 ซีซี มีกำลังสูงสุด 260 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 34.2 กก.-ม. ที่ 4,200 รอบ/นาทีจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะแบบเดียว สำหรับตลาดยุโรปนอกจากเครื่องยนต์เหล่านี้แล้ว ยังจะมีทางเลือกในแบบประหยัดกับเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ ดีเซลเทอร์โบตามออกมาขายด้วย


ในญี่ปุ่นขายแล้วกับราคา 2,205,000-3,701,250 เยน หรือ 770,000-1,290,000 บาท ส่วนบ้านเราน่าจะมีเข้ามาขายในเร็วๆ นี้ เพราะเป็นรถยนต์รุ่นหลักและมีแฟนๆ ตามติดกันอย่างเหนียวแน่นเหมือนกับอิมเพรซา

กำลังโหลดความคิดเห็น