ข่าวต่างประเทศ - ฮอนด้าจัดการปรับปรุงตารางการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในตลาดโลก เลื่อนการเปิดตัวฟิต หรือแจ๊ซ ไฮบริด ให้เร็วขึ้นจากเดิมร่วมปีครึ่ง โดยมีกำหนดเปิดตัวในญี่ปุ่นภายในปี 2010 และจากนั้นอีก 1 ปีจะเปิดตัวขายในตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา
เว็บไซต์ Green Car Congress รายงานว่า เหตุผลที่ฮอนด้าต้องการเลื่อนคิวการเปิดตัวของฟิต ไฮบริดให้เร็วขึ้นจากเดิมก็เพราะ ต้องการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ในตอนนี้มีความต้องการรถยนต์ไฮบริดเพิ่มขึ้น โดยในตอนแรกทางฮอนด้าวางแผนเปิดตัวในญี่ปุ่นปี 2012
ฟิต ไฮบริดจะใช้เครื่องยนต์ไฮบริดแบบ IMA ซึ่งเป็นการจับคู่การทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1,300 ซีซี กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเดียวกับที่ติดตั้งอยู่ในอินไซท์ แต่จากการที่แชร์พื้นฐานร่วมกับฟิตใหม่ที่กำลังขายอยู่ในตลาด ทำให้ฮอนด้าสามารถตั้งราคาของฟิต ไฮบริดให้อยู่ในระดับที่ไม่แพงจนเกินไป และคาดหมายจะได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลกด้วยยอดขายต่อปีประมาณ 50,000 คัน โดยตลาดหลักจะอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
นอกจากนั้น รายงานชิ้นนี้ยังมีการระบุถึงความต้องการของโตโยต้าในการบุกตลาดไฮบริดในบ้านตัวเอง ด้วยการนำเลกซัส HS250h ที่เพิ่งเปิดตัวขายในสหรัฐอเมริกาเข้าไปทำตลาดญี่ปุ่นภายในปี 2009 รวมถึงการเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ที่มีระดับตลาดต่ำกว่าพริอุสภายในปี 2011 ส่วนทางนิสสันเองก็มีโครงการผลิตเวอร์ชันไฮบริดให้กับรถยนต์ขนาดกลางกึ่งใหญ่อย่างรุ่นฟูกา หรืออินฟินิตี้ เอ็ม ซีรีส์ ในสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ทางฟูจิ เฮฟวี อินดัสตรี ผู้จำหน่ายซูบารุเตรียมนำเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ เทอร์โบดีเซล ซึ่งตอนนี้มีขายเฉพาะยุโรป เข้ามาขายที่ญี่ปุ่นภายในปี 2011 ซึ่งทาง FHI มั่นใจว่าด้วยความทันสมัยของเครื่องยนต์เทอรน์โบดีเซลรุ่นใหม่จะทำให้สามารถผ่านมาตรฐานไอเสียอันเข้มงวดของญี่ปุ่นได้ และได้รับความนิยมจากลูกค้ารุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถยนต์นั่งซึ่งมีความประหยัดน้ำมัน
โดยนับตั้งแต่เริ่มขายปี 2008 ที่ยุโรปกับรถยนต์โมเดลต่างๆ เช่น ฟอร์เรสเตอร์, เลกาซี และอิมเพรซา เครื่องยนต์บ็อกเซอร์เทอร์โบดีเซลมียอดขายจนถึงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมารวมแล้วกว่า 30,000 คัน อีกทั้งทาง FHI ประกาศอีกว่าจะให้บริการเช่าใช้รถยนต์พลังไฟฟ้าแบบปลักอินกับลูกค้าที่ญี่ปุ่นภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยโครงการนี้จะใช้พื้นฐานของซิตี้คาร์รุ่นสเตลล่า และได้รับการร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีจากทางโตโยต้า ก่อนที่จะผลิตรถยนต์ไฮบริดออกสู่ภายในทศวรรษหน้า
เว็บไซต์ Green Car Congress รายงานว่า เหตุผลที่ฮอนด้าต้องการเลื่อนคิวการเปิดตัวของฟิต ไฮบริดให้เร็วขึ้นจากเดิมก็เพราะ ต้องการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ในตอนนี้มีความต้องการรถยนต์ไฮบริดเพิ่มขึ้น โดยในตอนแรกทางฮอนด้าวางแผนเปิดตัวในญี่ปุ่นปี 2012
ฟิต ไฮบริดจะใช้เครื่องยนต์ไฮบริดแบบ IMA ซึ่งเป็นการจับคู่การทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1,300 ซีซี กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเดียวกับที่ติดตั้งอยู่ในอินไซท์ แต่จากการที่แชร์พื้นฐานร่วมกับฟิตใหม่ที่กำลังขายอยู่ในตลาด ทำให้ฮอนด้าสามารถตั้งราคาของฟิต ไฮบริดให้อยู่ในระดับที่ไม่แพงจนเกินไป และคาดหมายจะได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลกด้วยยอดขายต่อปีประมาณ 50,000 คัน โดยตลาดหลักจะอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
นอกจากนั้น รายงานชิ้นนี้ยังมีการระบุถึงความต้องการของโตโยต้าในการบุกตลาดไฮบริดในบ้านตัวเอง ด้วยการนำเลกซัส HS250h ที่เพิ่งเปิดตัวขายในสหรัฐอเมริกาเข้าไปทำตลาดญี่ปุ่นภายในปี 2009 รวมถึงการเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ที่มีระดับตลาดต่ำกว่าพริอุสภายในปี 2011 ส่วนทางนิสสันเองก็มีโครงการผลิตเวอร์ชันไฮบริดให้กับรถยนต์ขนาดกลางกึ่งใหญ่อย่างรุ่นฟูกา หรืออินฟินิตี้ เอ็ม ซีรีส์ ในสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ทางฟูจิ เฮฟวี อินดัสตรี ผู้จำหน่ายซูบารุเตรียมนำเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ เทอร์โบดีเซล ซึ่งตอนนี้มีขายเฉพาะยุโรป เข้ามาขายที่ญี่ปุ่นภายในปี 2011 ซึ่งทาง FHI มั่นใจว่าด้วยความทันสมัยของเครื่องยนต์เทอรน์โบดีเซลรุ่นใหม่จะทำให้สามารถผ่านมาตรฐานไอเสียอันเข้มงวดของญี่ปุ่นได้ และได้รับความนิยมจากลูกค้ารุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถยนต์นั่งซึ่งมีความประหยัดน้ำมัน
โดยนับตั้งแต่เริ่มขายปี 2008 ที่ยุโรปกับรถยนต์โมเดลต่างๆ เช่น ฟอร์เรสเตอร์, เลกาซี และอิมเพรซา เครื่องยนต์บ็อกเซอร์เทอร์โบดีเซลมียอดขายจนถึงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมารวมแล้วกว่า 30,000 คัน อีกทั้งทาง FHI ประกาศอีกว่าจะให้บริการเช่าใช้รถยนต์พลังไฟฟ้าแบบปลักอินกับลูกค้าที่ญี่ปุ่นภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยโครงการนี้จะใช้พื้นฐานของซิตี้คาร์รุ่นสเตลล่า และได้รับการร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีจากทางโตโยต้า ก่อนที่จะผลิตรถยนต์ไฮบริดออกสู่ภายในทศวรรษหน้า