ข่าวต่างประเทศ - สถานการณ์ด้านตัวเลขในเรื่องของยอดจำหน่ายรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาช่วงเดือนเมษายนยังแย่อย่างต่อเนื่องจากช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อมีการเปิดเผยว่ามีตัวเลขในเดือนนี้ต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี โดยเฉพาะไครสเลอร์และโตโยต้าบอบช้ำหนัก เพราะว่าตัวเลขยอดขายลดลงมากกว่า 40% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
จากการเปิดเผยของเว็บไซต์ Edmunds.com ระบุว่า ตัวเลขยอดจำหน่ายคร่าวๆ ของตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกาในเดือนเมษายนที่ผ่านมาอยู่ที่ 818,766 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2008 ถึง 34%
โดยความปั่นป่วนในเรื่องยอดขายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เชื่อว่าเป็นผลมาจากความไม่มั่นใจในสภาพโดยรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์อเมริกัน โดยเฉพาะเรื่องที่ไครสเลอร์เตรียมขอยื่นล้มละลายตามข้อกำหนดมาตราที่ 11 ซึ่งทางไครสเลอร์ก็ได้ทำไปแล้วเมื่อถึงวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทางด้านเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม ผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาในเรื่องยอดขายลดลงเช่นกัน และมีตัวเลขหล่นวูบถึง 34% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ทว่าบริษัทแห่งนี้กลับมีส่วนแบ่งในตลาดช่วงเดือนนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม และถือว่ามากที่สุดนับจากเดือนธันวาคม 2008 โดย 4 แบรนด์ที่จะถูกเก็บเอาไว้ทำตลาดต่ออย่างเชฟโรเลต, แคดิลแล็ก, จีเอ็มซี และบูอิกต่างทำผลงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ส่วนพอนทิแอคนั้น หลังมีข่าวคลุมเครือมานาน ในที่สุดก็ถึงจุดจบและจีเอ็มตัดสินใจไม่ทำตลาดต่อไป ฟอร์ดยอดจำหน่ายลดลงถึง 32% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ทว่าในความตกต่ำที่เกิดขึ้นก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขยอดขายที่ดีที่สุดนับจากเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และรถยนต์ซีดานรุ่นฟิวชั่นกลายเป็นรถยนต์ที่มียอดขายดีที่สุดนับจากเปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2005 ซึ่งเป็นผลมาจากการให้โปรโมชั่นที่น่าสนใจเพื่อระบายสต็อค
เนื่องจากรุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์ซึ่งเป็นเวอร์ชันปี 2010 เตรียมจ่อคิวขายในปลายปีนี้ ไครสเลอร์อาการหนักที่สุดในบรรดาบิ๊กทรี เพราะยอดจำหน่ายลดลงถึง 48% เนื่องจากข่าวเกี่ยวกับเรื่องการประกาศล้มละลาย เช่นเดียวกับโตโยต้าที่มียอดจำหน่ายในเดือนนี้ไม่ดีนัก ลดลงถึง 42% แต่เอ็มพีวีสำหรับตลาดสหรัฐอเมริการุ่นเว็นซ่ากลับขายดี และมีตัวเลขยอดจำหน่ายสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อกลางปีที่แล้ว
ส่วนพริอุสใหม่กลับยอดขายลดลงถึง 62% ทั้งที่รถยนต์รุ่นนี้ได้รับข้อยกเว้นในเรื่องต่างๆ ทางด้านภาษีสรรพสามิตมากที่สุดนับตั้งแต่ทำตลาดมาเลย สำหรับฮอนด้า แม้ว่ายอดจำหน่ายในเดือนนี้จะลดลง 25% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ก็มีตัวเลขที่อยู่ในระดับดี โดยเป็นผลมาจากยอดขายของแอคคอร์ดที่สามารถแซงหน้าโตโยต้า คัมรี่ได้ และอินไซท์ก็มียอดจำหน่ายในเดือนนี้มากกว่า 2,000 คัน
ส่วนนิสสันมียอดจำหน่ายลดลง 38% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว และถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่ยอดจำหน่ายต่อเดือนของนิสสัน (รวมอินฟินิตี้) ตกเป็นรองยอดจำหน่ายรวมกันของฮุนไดและเกีย ซึ่งเป็นคู่ปรับสำคัญจากเกาหลีใต้
จากการเปิดเผยของเว็บไซต์ Edmunds.com ระบุว่า ตัวเลขยอดจำหน่ายคร่าวๆ ของตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกาในเดือนเมษายนที่ผ่านมาอยู่ที่ 818,766 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2008 ถึง 34%
โดยความปั่นป่วนในเรื่องยอดขายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เชื่อว่าเป็นผลมาจากความไม่มั่นใจในสภาพโดยรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์อเมริกัน โดยเฉพาะเรื่องที่ไครสเลอร์เตรียมขอยื่นล้มละลายตามข้อกำหนดมาตราที่ 11 ซึ่งทางไครสเลอร์ก็ได้ทำไปแล้วเมื่อถึงวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทางด้านเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม ผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาในเรื่องยอดขายลดลงเช่นกัน และมีตัวเลขหล่นวูบถึง 34% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ทว่าบริษัทแห่งนี้กลับมีส่วนแบ่งในตลาดช่วงเดือนนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม และถือว่ามากที่สุดนับจากเดือนธันวาคม 2008 โดย 4 แบรนด์ที่จะถูกเก็บเอาไว้ทำตลาดต่ออย่างเชฟโรเลต, แคดิลแล็ก, จีเอ็มซี และบูอิกต่างทำผลงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ส่วนพอนทิแอคนั้น หลังมีข่าวคลุมเครือมานาน ในที่สุดก็ถึงจุดจบและจีเอ็มตัดสินใจไม่ทำตลาดต่อไป ฟอร์ดยอดจำหน่ายลดลงถึง 32% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ทว่าในความตกต่ำที่เกิดขึ้นก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขยอดขายที่ดีที่สุดนับจากเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และรถยนต์ซีดานรุ่นฟิวชั่นกลายเป็นรถยนต์ที่มียอดขายดีที่สุดนับจากเปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2005 ซึ่งเป็นผลมาจากการให้โปรโมชั่นที่น่าสนใจเพื่อระบายสต็อค
เนื่องจากรุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์ซึ่งเป็นเวอร์ชันปี 2010 เตรียมจ่อคิวขายในปลายปีนี้ ไครสเลอร์อาการหนักที่สุดในบรรดาบิ๊กทรี เพราะยอดจำหน่ายลดลงถึง 48% เนื่องจากข่าวเกี่ยวกับเรื่องการประกาศล้มละลาย เช่นเดียวกับโตโยต้าที่มียอดจำหน่ายในเดือนนี้ไม่ดีนัก ลดลงถึง 42% แต่เอ็มพีวีสำหรับตลาดสหรัฐอเมริการุ่นเว็นซ่ากลับขายดี และมีตัวเลขยอดจำหน่ายสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อกลางปีที่แล้ว
ส่วนพริอุสใหม่กลับยอดขายลดลงถึง 62% ทั้งที่รถยนต์รุ่นนี้ได้รับข้อยกเว้นในเรื่องต่างๆ ทางด้านภาษีสรรพสามิตมากที่สุดนับตั้งแต่ทำตลาดมาเลย สำหรับฮอนด้า แม้ว่ายอดจำหน่ายในเดือนนี้จะลดลง 25% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ก็มีตัวเลขที่อยู่ในระดับดี โดยเป็นผลมาจากยอดขายของแอคคอร์ดที่สามารถแซงหน้าโตโยต้า คัมรี่ได้ และอินไซท์ก็มียอดจำหน่ายในเดือนนี้มากกว่า 2,000 คัน
ส่วนนิสสันมียอดจำหน่ายลดลง 38% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว และถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่ยอดจำหน่ายต่อเดือนของนิสสัน (รวมอินฟินิตี้) ตกเป็นรองยอดจำหน่ายรวมกันของฮุนไดและเกีย ซึ่งเป็นคู่ปรับสำคัญจากเกาหลีใต้
