ข่าวต่างประเทศ - ไม่ใช่มีแค่ตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ประสบปัญหายอดขายรถยนต์ปั่นป่วน สำหรับในยุโรปก็อาการหนักไม่แพ้กัน เมื่อมีการเปิดเผยว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในภูมิภาคนี้ช่วง 4 เดือนแรกของปีหล่นวูบ โดยมีตัวเลขลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเฉียด 16%
ACEA สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปเปิดเผยตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ในภูมิภาคนี้ช่วง 4 เดือนแรกของปีพบว่ามีตัวเลขลดลงมากถึง 15.9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และถือเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกันแล้วที่ตลาดรถยนต์ยุโรปมียอดจำหน่ายลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้
ทาง ACEA เผยว่าปัญหาหลักที่ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ในยุโรปลดลงก็ไม่แตกต่างจากในสหรัฐ อเมริกา โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจตกต่ำ สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และความไม่มั่นใจต่อความมั่นคงในหน้าที่การงาน
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางภาพรวมที่ตกต่ำ แต่สำหรับตลาดรถยนต์รายใหญ่อย่างเยอรมนีแล้ว กลับพบว่ามีตัวเลขยอดจำหน่ายช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น ด้วยตัวเลขระดับ 18.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐ ตรงนี้สอดคล้องกับแนวคิดของทาง ACEA ซึ่งระบุว่า วิธีเดียวที่จะช่วยเหลือบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ คือ การที่รัฐบาลจะต้องยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการล้มละลาย
นอกจากเยอรมนีแล้ว ทางออสเตรียก็มีการให้สิทธิประโยชน์จากทางภาครัฐสำหรับการซื้อรถยนต์เพื่อกระตุ้นยอดจำหน่าย และดูเหมือนว่าจะได้ผลเช่นกัน โดยมียอดจำหน่ายเฉพาะในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นถึง 12.8%
สำหรับตลาดหลักในยุโรปที่ประสบปัญหายอดจำหน่าย 4 เดือนแรกลดลงมากที่สุดนั้น คือ สเปน โดยมีตัวเลขลดลงถึง 43.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่นั่นยังไม่รุนแรงเท่ากับตลาดไอร์แลนด์ ซึ่งลดลงถึง 65.2% ส่วนเพื่อนบ้านอย่างอังกฤษ ก็มีปัญหายอดจำหน่ายลดลงอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน แต่ไม่มากเท่า โดยลดลงในระดับ 28.5%
ตลาดนอกสหภาพยุโรปที่มียอดจำหน่ายลดลงมากที่สุด คือ ไอซ์แลนด์ ซึ่งมีรายงานว่าช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีตัวเลขลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 90.8% เรียกว่าบรรดาดีลเลอร์ในประเทศนี้แทบจะนั่งตบยุงกันเลย เพราะมีรถยนต์เพียง 72 คันเท่านั้นที่ขายออกไปได้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
ทวีปยุโรปถือเป็นตลาดรถยนต์รายใหญ่อีกแห่ง และถือเป็นภูมิภาคที่มีการผลิตรถยนต์มากที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขมากกว่า 18 ล้านคันต่อปี แต่ในปีที่แล้ว ทวีปนี้มียอดขายเพียงแค่ 12 ล้านคันเท่านั้น ซึ่งนั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่อบรรดาคนงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมแล้วกว่า 12 ล้านคน
ACEA สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปเปิดเผยตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ในภูมิภาคนี้ช่วง 4 เดือนแรกของปีพบว่ามีตัวเลขลดลงมากถึง 15.9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และถือเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกันแล้วที่ตลาดรถยนต์ยุโรปมียอดจำหน่ายลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้
ทาง ACEA เผยว่าปัญหาหลักที่ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ในยุโรปลดลงก็ไม่แตกต่างจากในสหรัฐ อเมริกา โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจตกต่ำ สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และความไม่มั่นใจต่อความมั่นคงในหน้าที่การงาน
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางภาพรวมที่ตกต่ำ แต่สำหรับตลาดรถยนต์รายใหญ่อย่างเยอรมนีแล้ว กลับพบว่ามีตัวเลขยอดจำหน่ายช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น ด้วยตัวเลขระดับ 18.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐ ตรงนี้สอดคล้องกับแนวคิดของทาง ACEA ซึ่งระบุว่า วิธีเดียวที่จะช่วยเหลือบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ คือ การที่รัฐบาลจะต้องยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการล้มละลาย
นอกจากเยอรมนีแล้ว ทางออสเตรียก็มีการให้สิทธิประโยชน์จากทางภาครัฐสำหรับการซื้อรถยนต์เพื่อกระตุ้นยอดจำหน่าย และดูเหมือนว่าจะได้ผลเช่นกัน โดยมียอดจำหน่ายเฉพาะในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นถึง 12.8%
สำหรับตลาดหลักในยุโรปที่ประสบปัญหายอดจำหน่าย 4 เดือนแรกลดลงมากที่สุดนั้น คือ สเปน โดยมีตัวเลขลดลงถึง 43.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่นั่นยังไม่รุนแรงเท่ากับตลาดไอร์แลนด์ ซึ่งลดลงถึง 65.2% ส่วนเพื่อนบ้านอย่างอังกฤษ ก็มีปัญหายอดจำหน่ายลดลงอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน แต่ไม่มากเท่า โดยลดลงในระดับ 28.5%
ตลาดนอกสหภาพยุโรปที่มียอดจำหน่ายลดลงมากที่สุด คือ ไอซ์แลนด์ ซึ่งมีรายงานว่าช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีตัวเลขลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 90.8% เรียกว่าบรรดาดีลเลอร์ในประเทศนี้แทบจะนั่งตบยุงกันเลย เพราะมีรถยนต์เพียง 72 คันเท่านั้นที่ขายออกไปได้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
ทวีปยุโรปถือเป็นตลาดรถยนต์รายใหญ่อีกแห่ง และถือเป็นภูมิภาคที่มีการผลิตรถยนต์มากที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขมากกว่า 18 ล้านคันต่อปี แต่ในปีที่แล้ว ทวีปนี้มียอดขายเพียงแค่ 12 ล้านคันเท่านั้น ซึ่งนั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่อบรรดาคนงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมแล้วกว่า 12 ล้านคน
