เงียบหายจากตลาดรถแรงไปนาน ในตอนนี้แผนก OPC หรือ Opel Performance Center ของโอเปิลมีของใหม่ออกมาให้แฟนๆ ได้ลิ้มลองกันแล้ว กับความเร้าใจในรหัส OPC ที่จับเอารถยนต์ครอบครัวระดับหรู เจ้าของรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของยุโรปปีล่าสุดอย่างอินซิกเนียมาเพิ่มมัดกล้าม และเตรียมทำตลาดพร้อมกันทั้งตัวถังซีดานและแวกอน
นอกจากจะทำตลาดผ่านแบรนด์โอเปิลโดยแปะโลโก้ของ OPC แล้ว ในตลาดอังกฤษ ซึ่งโอเปิลต้องเปลี่ยนมาใช้แบรนด์วอกซ์ฮอลล์ในการทำตลาด ก็จะมีทำตลาดเช่นกัน แต่เปลี่ยนมาใช้ชื่อวอกซ์ฮอลล์ อินซิกเนีย VXR แทน
อินซิกเนียเป็นรถยนต์ในกลุ่ม D-Segment ที่ถูกส่งเข้ามาทำตลาดแทนที่เวคตราพร้อมกับการวางกลุ่มตลาดใหม่ เพราะทางโอเปิลต้องการยกระดับตลาดให้เหนือขึ้นจากสมัยที่ใช้ชื่อเวคตราในการทำตลาด โดยเล็งเป้าไปที่การแข่งขันกับเพื่อนร่วมชาติอย่างออดี้ เอ4 และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3
สำหรับตัวแรงรุ่นนี้ถูกเปิดตัวออกมาครั้งแรกด้วยตัวถังซีดาน 4 ประตูที่งานบาร์เซโลน่า มอเตอร์โชว์ ประเทศสเปน ต้นเดือนพฤษภาคม ก่อนที่โอเปิลจะเผยภาพพร้อมรายละเอียดของรุ่นแวกอนตามออกมาในอีก 2 สัปดาห์ให้หลัง และแน่นอนว่าใครที่ชื่นชอบความสวยและเร้าใจชนิดที่พลิกโฉมจากรุ่นปกติแล้ว ถือว่าไม่น่าพลาด เพราะ OPC สามารถเพิ่มความคมเข้มในเชิงรูปลักษณ์ให้กับอินซิกเนียได้อย่างลงตัว
ไม่ว่าจะเป็นชุดสเกิร์ตและล้อแม็กจากโรงงานที่ให้มาแบบไม่หวง เพราะไซส์ใหญ่ถึง 19 นิ้วจับคู่กับยาง 245/40 แต่ถ้ายังไม่พอใจก็จ่ายเพิ่มเพื่อแลกกับขนาด 20 นิ้วกับยาง 255/35 ก็ได้ โดยที่ชุดเบรกมีการอัพเกรดเช่นกันเป็นดิสก์แบบ Cross-Drilled จากเบรมโบ มีขนาด 355 มิลลิเมตร
แน่นอนว่าประเด็นหลักของตัวแรงรุ่นนี้คือสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ฝากระโปรงและสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามารองรับกับจำนวนม้าฝูงโต ซึ่งโอเปิลเผยว่า อินซิกเนีย OPC/VXR มากับเครื่องยนต์วี6 2,800 ซีซี พร้อมเทอร์โบแบบ Twin-Scroll เพียงตัวเดียวในการสร้างกำลังร่วมกับระบบวาล์วแปรผัน หรือ VVT-i ที่สามารถรีดกำลังออกมาได้ 325 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. และมีการปรับแต่งชุดท่อร่วมไอเสียใหม่เพื่อให้การระบายไอเสียเป็นไปอย่างมีประสิทธิ์ภาพและป้องกันปัญหาเรื่องแรงดันย้อนกลับเข้าสู่ระบบ
เกียร์มีแบบเดียวเท่านั้นกับธรรมดา 6 จังหวะ ใครที่ขับแบบธรรมดาไม่เป็นคงหมดสิทธิ์ ใช้เวลา 6 และ 6.5 วินาทีสำหรับรุ่นซีดาน และแวกอน ในการทะยานจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงตามลำดับ และความเร็วปลายถูกล็อกเอาไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
การขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อติดตั้งมระบบ LSD ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ หรือ eLSD โดยที่ระบบช่วงล่างหน้าอัพเกรดด้วยชุดแต่งที่เรียกว่า HiPerStrut หรือ High Performance Strut ซึ่งจะช่วยลดอาการ Torque-Steer เวลากดคันเร่งหนัก และมีการลดความสูงจากรุ่นปกติลงอีก 10 มิลลิเมตร
แฟนๆ ของสำนัก OPC ที่ชื่นชอบกันมาตั้งแต่สมัยแอสตรา และซาฟิรา ไม่น่าพลาดกับความแรงในครั้งนี้ เพียงแต่ต้องอดใจรออีกสักนิด เพราะว่าการทำตลาดจะเริ่มในยุโรปปลายปีนี้