จากต้นแบบที่เปิดตัวออกมาในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2008 ในที่สุดเซียทก็จับรถยนต์คอมแพ็กต์รุ่นนี้มาสานต่อให้กลายเป็นจริง โดยใช้ชื่ออิบิซ่าเป็นชื่อหลักในการทำตลาด และต่อท้ายด้วยคำว่า โบคาเนกรา เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างและระดับในการทำตลาดจากอิบิซ่าอย่างชัดเจน
อิบิซ่า โบคาเนกราถือเป็นผลผลิตที่เซียทพัฒนาขึ้นมาเพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ไซส์เล็กที่มีความแตกต่างทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ และสมรรถนะการขับเคลื่อน ซึ่งแน่นอนว่า เป้าหมายหลักคือ การประชันกับอัลฟา MiTo และก็รวมถึงมินิของบีเอ็มดับเบิลยู
การพัฒนามีขึ้นโดยแชร์พื้นฐานตัวถัง 3 ประตูของอิบิซ่ารุ่นปัจจุบันแต่เสริมความหล่อรอบคันเพื่อความแตกต่าง โดยเฉพาะด้านหน้าซึ่งมีการทำตามชื่อที่ต่อท้าย เพราะคำว่า Bocanegra ในภาษาสเปนมีความหมายว่า ปากดำ เราจึงเห็นกันชนใหม่บางส่วนของตัวแรงรุ่นนี้มากับสีดำสนิท อีกทั้งชื่อนี้ยังเคยถูกนำมาใช้กับตัวแรงรุ่น 1200 Sport ของเซียทที่ขายในปี 1975 อีกด้วย
นอกจากนั้น รอบคันของตัวรถก็มีความตกแต่งใหม่เพื่อให้มีความสวยโฉบเฉี่ยวเช่นเดียวกับ 2 เวอร์ชันตัวแรงของอิบิซ่าอย่าง FR และ Cupra โดยมากับล้อแม็กลายพิเศษขนาด 17 นิ้ว กันชนท้ายพร้อม Diffuse สีดำ และเจาะช่องสำหรับปลายท่อไอเสียเอาไว้ตรงกลาง เช่นเดียวกับเบาะนั่งทรงสปอร์ตพร้อมกับหุ้มผ้าลายพิเศษในแบบดำ-ด้ายแดง พร้อมกับชุดแต่งภายในห้องโดยสารและแผงมาตรวัดที่มีความเร็วสูงสุดถึง 260 กิโลเมตร/ชั่วโมงจาก FR และ Cupra มาใช้
เครื่องยนต์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงเป็นผลผลิตของบริษัทในเครือโฟล์คสวาเกน ซึ่งเซียทยกขุมพลังแบบ 4 สูบ TSI ติดตั้งระบบอัดอากาศช่วยเพิ่มมัดกล้ามให้กับขุมพลังที่มีความจุเพียง 1,400 ซีซี ให้สามารถรีดกำลังออกมาได้ 150 และ 180 แรงม้า พร้อมเกียร์แบบ DSG 7 จังหวะ
หลังเปิดตัวครั้งแรกในบาร์เซโลน่า มอเตอร์โชว์ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว เซียทวางคิวส่งอิบิซ่า โบคาเนกราลุยตลาดยุโรปอย่างแน่นอนไม่เกินปลายปีนี้ พร้อม 2 ระดับความเร้าใจที่ลูกค้าสามารถเลือกได้
อิบิซ่า โบคาเนกราถือเป็นผลผลิตที่เซียทพัฒนาขึ้นมาเพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ไซส์เล็กที่มีความแตกต่างทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ และสมรรถนะการขับเคลื่อน ซึ่งแน่นอนว่า เป้าหมายหลักคือ การประชันกับอัลฟา MiTo และก็รวมถึงมินิของบีเอ็มดับเบิลยู
การพัฒนามีขึ้นโดยแชร์พื้นฐานตัวถัง 3 ประตูของอิบิซ่ารุ่นปัจจุบันแต่เสริมความหล่อรอบคันเพื่อความแตกต่าง โดยเฉพาะด้านหน้าซึ่งมีการทำตามชื่อที่ต่อท้าย เพราะคำว่า Bocanegra ในภาษาสเปนมีความหมายว่า ปากดำ เราจึงเห็นกันชนใหม่บางส่วนของตัวแรงรุ่นนี้มากับสีดำสนิท อีกทั้งชื่อนี้ยังเคยถูกนำมาใช้กับตัวแรงรุ่น 1200 Sport ของเซียทที่ขายในปี 1975 อีกด้วย
นอกจากนั้น รอบคันของตัวรถก็มีความตกแต่งใหม่เพื่อให้มีความสวยโฉบเฉี่ยวเช่นเดียวกับ 2 เวอร์ชันตัวแรงของอิบิซ่าอย่าง FR และ Cupra โดยมากับล้อแม็กลายพิเศษขนาด 17 นิ้ว กันชนท้ายพร้อม Diffuse สีดำ และเจาะช่องสำหรับปลายท่อไอเสียเอาไว้ตรงกลาง เช่นเดียวกับเบาะนั่งทรงสปอร์ตพร้อมกับหุ้มผ้าลายพิเศษในแบบดำ-ด้ายแดง พร้อมกับชุดแต่งภายในห้องโดยสารและแผงมาตรวัดที่มีความเร็วสูงสุดถึง 260 กิโลเมตร/ชั่วโมงจาก FR และ Cupra มาใช้
เครื่องยนต์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงเป็นผลผลิตของบริษัทในเครือโฟล์คสวาเกน ซึ่งเซียทยกขุมพลังแบบ 4 สูบ TSI ติดตั้งระบบอัดอากาศช่วยเพิ่มมัดกล้ามให้กับขุมพลังที่มีความจุเพียง 1,400 ซีซี ให้สามารถรีดกำลังออกมาได้ 150 และ 180 แรงม้า พร้อมเกียร์แบบ DSG 7 จังหวะ
หลังเปิดตัวครั้งแรกในบาร์เซโลน่า มอเตอร์โชว์ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว เซียทวางคิวส่งอิบิซ่า โบคาเนกราลุยตลาดยุโรปอย่างแน่นอนไม่เกินปลายปีนี้ พร้อม 2 ระดับความเร้าใจที่ลูกค้าสามารถเลือกได้
