ต่อจากซีวิค คราวนี้ถึงคิวของเพื่อนร่วมสายพันธุ์อย่างสตรีมที่จะต้องปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์เพื่อกระตุ้นตลาด เพียงแต่การรุกตลาดครั้งนี้ไม่ได้มาแค่หน้าตาที่สดใหม่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังเอาใจแฟนๆ ที่ชื่นชอบความสปอร์ตในเชิงรูปลักษณ์ด้วยเวอร์ชัน RST ที่ได้รับการเสริมสวยรอบคัน ส่วนทางเลือกเครื่องยนต์ยังเป็นขุมพลังตระกูล R ที่มีทั้งแบบ 1,800 และ 2,000 ซีซีเหมือนเดิม
ถือว่าไม่ช้าไม่เร็วเกินไปและมาถูกช่วงเวลา เพราะสตรีมใหม่เป็นเจนเนอเรชันที่ 2 และใช้รหัส RN6 และ RN8 เปิดตัวขายในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปลายปี 2006 และจากการเปิดตัวของคู่ปรับตลอดกาลอย่างโตโยต้า วิชเมื่อต้นปีนี้ ทำให้ฮอนด้าจำเป็นต้องขยับตัวเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดมินิแวนขนาดคอมแพ็กต์ในญี่ปุ่นเอาไว้
ใครที่อยากสัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงในเชิงภาพลักษณ์ได้สมหวังอย่างแน่นอน เพราะว่ารุ่นมาตรฐานของสตรีม เวอร์ชันปรับโฉม มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นดั้งเดิมทั้งด้านหน้าและหลังแบบสังเกตได้อย่างชัดเจนด้วยการออกแบบกระจังหน้า กันชนหน้า ไฟท้ายและกันชนท้ายใหม่
ขณะที่ภายในแม้ว่าจะยังอิงกับแผงหน้าปัดแบบเดิม ซึ่งก็รวมถึงแผงมาตรวัดแบบ Dual Face ที่เป็นดวงกลมคู่และภายในมาตรวัดความเร็วจะมีเข็มมาตรวัดระดับความร้อนวางอยู่ด้านล่าง ส่วนมาตรวัดความเร็วจะเป็นเข็มสำหรับแสดงระดับน้ำมันเชื้อเพลิง โดยในรุ่นธรรมดาจะเรืองเสียงในโทนสีน้ำเงินเพื่อความสบายตา แต่ก็เพิ่มความสดด้วยผ้าหุ้มเบาะลายใหม่
สำหรับคนที่ชอบความสปอร์ตในรุ่นที่แล้ว RSZ อาจจะยังตอบสนองไม่เพียงพอ แต่รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ทางฮอนด้า เลยเพิ่มรุ่นแต่งพิเศษในแบบ RST เน้นความดุดันในทุกมุมมองทั้งภายนอกด้วยชุดแต่งและล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ส่วนภายในเป็นเบาะนั่งแบบดำด้ายแดง แป้นเบรกคันเร่งและที่วางเท้าเป็นอะลูมิเนียม ส่วนแสงบนชุดมาตรวัดเรืองแสงก็เปลี่ยนมาเป็นสีแดง ขณะที่รุ่น RSZ ก็ยังมีให้สัมผัสเช่นเคย รวมถึงเวอร์ชันสปอร์ตกับชุดแต่งจากโรงงานของ Modulo โดยมีทำตลาดครบทั้งรุ่น 1,800 และ 2,000 ซีซี
ตัวรถมากับความยาวในระดับ 4,570 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร สูง 1,545 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,740 มิลลิเมตร พร้อมความอเนกประสงค์ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถวซึ่งสามารถเลือกพับเก็บได้อย่างหลากหลายสไตล์ในการเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ
2 ทางเลือกจากเครื่องยนต์ตระกูล R เหมือนเดิม ในรุ่น R18A ที่เปิดตัวครั้งแรกกับฮอนด้า ซีวิครุ่นปัจจุบันเป็นแบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว i-VTEC 1,800 ซีซีมีกำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 17.7 กก.-ม. ที่ 4,300 รอบต่อนาที
ส่วนรุ่น R20A ที่ใช้พื้นฐานเดียวกัน แต่ขยายความจุเป็น 2,000 ซีซีด้วยการเพิ่มระยะชักจาก 87.3 มิลลิเมตรในรุ่น 1,800 ซีซีมาเป็น 96.9 มิลลิเมตร และคงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของกระบอกสูบเอาไว้ที่ 81.0 มิลลิเมตร มีกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 19.4 กก.-ม. ที่ 4,200 รอบต่อนาที และอัตราส่วนการอัดเท่ากันที่ 10.5 : 1
มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและแบบ 4 ล้อให้เลือกสัมผัส เช่นเดียวกับเกียร์เป็นแบบอัตโนมัติ 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT โดยในรุ่น 1,800 ซีซีไม่ว่าจะขับเคลื่อนแบบไหนจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ส่วนรุ่น 2,000 ซีซีเฉพาะขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ และ CVT ในแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และรุ่น RST มีเฉพาะแบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น ส่วน RSZ มีทั้ง 2 แบบ
ญี่ปุ่นเริ่มทำตลาดแล้วด้วยราคาระหว่าง 1.82-2.72ล้านเยน หรือ 687,000-952,000 บาท น่าเสียดายที่บ้านเราเว้นวรรคในการทำตลาดไปแล้ว ใครอยากขับคงต้องสนองความต้องการของตัวเองผ่านทางผู้นำเข้ารายย่อยแทน
