ข่าวในประเทศ - เปิดแผนพลังงานทดแทนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ หากภาครัฐไม่ชักเข้าชักออกเช่นทุกครั้ง ปี 2559 ผู้บริโภคเตรียมยอมรับชะตาน้ำมันเบนซิน 91 และ 95 หายไปจากตลาดไทย โดยจะชูน้ำมัน E20 เป็นเชื้อเพลิงหลัก พร้อมผลักดันน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เข้าสู่ตลาดอีกทางเลือกในปี 2553 ทำให้สองค่ายรถ “จีเอ็ม-วอลโว่” ยกมือหนุนเต็มที่ โดยเฉพาะวอลโว่ถึงกับประกาศพร้อมผลิตทันทีภายใน 1 ปี และเสนอให้รัฐบาลลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใช้ E85 เหลือ 20% เท่ากับรถยนต์ซีเอ็นจี ขณะที่ค่ายจีเอ็มลั่นจะผลิตรถยนต์เชฟโรเลตใช้น้ำมัน E85 แน่ และเตรียมการนำรถเข้ามาทดสอบแล้ว แม้จะเสียเหลี่ยมส่งรถยนต์เชฟโรเลตใช้น้ำมัน E20 ช้ากว่าคู่แข่ง แต่เหตุผลแว่วว่าจีเอ็มจะทำการปรับโฉม รุ่นออพตร้าและอาวีโอในช่วงปลายปีนี้ ช่วงนี้จึงยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวานก่อน
รถยนต์พลังงานทางเลือกในไทย เริ่มมีความคึกคักมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากเมื่อต้นปีที่มีการแนะนำรถยนต์ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 แทบจะทุกค่าย รวมถึงรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไบโอดีเซล 2-5% และล่าสุดในงานบางกอก อินเตอร์แนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ได้มีค่ายรถยนต์เปิดตัวปิกอัพ ที่ใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี(NGV) ทำให้ปัจจุบันผู้บริโภคไทยสามารถเลือกซื้อรถยนต์ ที่ใช้พลังงานทางเลือกได้หลากหลาย ทั้งน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ซีเอ็นจี(หรือเอ็นจีวี) และแอลพีจี ขณะที่ในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ บริษัทน้ำมัน และผู้ผลิตรถยนต์ ได้มีการพูดถึงแผนการใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลสูงถึง 85% หรือน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 กันแล้ว
โดยมานะ นิติกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ภายในเดือนเมษายนนี้จะเสนอแผนพัฒนาพลังงานทดแทนใหม่ ให้ทางกระทรวงพลังงานพิจารณา เพื่อวางทิศทางให้ประเทศไทยหันมาใช้พลังงานทดแทน ในรูปแบบต่างๆ กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมแก๊สโซฮอล์ E20 ให้เป็นเชื้อเพลิงหลักภายในปี 2559 ซึ่งเป็นเวลาที่จะมีการยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 91 และ95 ทั่วประเทศ ขณะที่ไบโอดีเซลจะปรับมาจำหน่าย B5 ได้ทั้งหมดในปลายปี 2553 และจะเริ่มพัฒนา B10 เข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป
“ปี 2553 จะเป็นปีที่แผนพลังงานทดแทนเริ่มชัดเจน โดยเฉพาะการผลักดันนโยบายการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ในประเทศไทยอย่างจริงจัง ซึ่งถือเป็นการนำพลังงานทดแทนมาใช้เกือบ 100% ฉะนั้นจึงต้องเจรจาและหาข้อสรุปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ผู้ผลิตน้ำมัน และผู้ผลิตรถยนต์ แน่นอนการที่จะผลักดันให้ภาคเอกชนลงทุนเรื่องนี้ จำเป็นต้องให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่วนจะเป็นเท่าไหร่ หรือมีแนวทางอย่างไร ตอนนี้คงยังไม่สามารถระบุได้”
เมื่อภาครัฐมีความชัดเจนที่เกี่ยวกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนในไทย ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ย่อมต้องเริ่มหันมาศึกษาและวางแผนการผลิต ขณะที่บางรายได้ประกาศสนับสนุนเต็มที่ และถึงกับกำหนดปีที่จะผลิตรถออกมากันเลยทีเดียว หากภาครัฐมีความจริงจังตามที่พูดออกมาจริง
สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มบริษัทของเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม (GM) เปิดเผยว่า หากรัฐบาลไทยกำลังสร้างกระแสให้ผู้คนหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ขณะเดียวกันก็ควรจะคำนึงถึงเรื่องของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ไว้ด้วยเลย เพราะรถยนต์ส่วนมากเมื่อนำไปดัดแปลงแล้ว มักจะปรับปรุงให้รองรับกับเอทานอลอัตราส่วนต่างๆ ไว้ด้วย
“ในส่วนของจีเอ็มมองเรื่อง E85 เป็นกลยุทธ์ทั้งโลก (Global Policy) โดยปัจจุบันจีเอ็มมีรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 มีจำนวนถึง 11 รุ่น ซึ่งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดามีรถยนต์ของจีเอ็มที่ใช้ได้มากถึง 3 ล้านคันด้วยกัน สำหรับในประเทศไทยเราพยายามนำรถยนต์ที่รองรับน้ำมันดังกล่าวเข้ามาทดสอบ และเมื่อรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรม คาดว่าภายในปี 2555 คงจะเห็นแนวโน้มรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 ของจีเอ็มได้ชัดเจน”
ทั้งนี้จีเอ็ม ได้มีการแนะนำรถยนต์พลังทางเลือกมาใช้แก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว อย่างเชฟโรเลต ออพตร้า ซีเอ็นจี และปิกอัพ โคโลราโด ซีเอ็นจี ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานก๊าซธรรมชาติแบบอัด อีกทั้งรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแก็สโซฮอล์ E20 (ออพตร้า,อาวีโอ) ก็จะเตรียมเปิดตัวปลายปีนี้ และจะตามมาด้วยรถยนต์ที่ใช้แก็สโซฮอล์ E85 เป็นลำดับต่อไป
การที่จีเอ็มสามารถนำรถยนต์พลังงานทางเลือกได้ เพราะไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ ที่สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนอย่างหลากหลาย ทั้งก๊าซซีเอ็นจี ไบโอดีเซล และแก๊สโซฮอล์ ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างชาญฉลาดในการพัฒนา พร้อมช่วยให้มีการจัดจำหน่ายอย่างแพร่หลาย ขณะเดียวกันยังสนับสนุนระบบโครงสร้างพื้นฐาน จึงถือเป็นผลงานยอดเยี่ยมมาก และหวังว่าจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าการที่จีเอ็มจะเปิดตัวรถใช้น้ำมัน E20 ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งถือว่าช้ากว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ที่ได้เปิดตัวไปแล้ว ไม่ใช่มาจากรัฐบาลได้ประกาศเลื่อนการใช้ E20 ให้เร็วขึ้นจากเดิม 1 ปี จนส่งผลให้จีเอ็มไม่สามารถปรับแผนการผลิต รถยนต์เชฟโรเลต ออพตร้า และอาวีโอ ให้เร็วขึ้นได้ทันตามที่กล่าวอ้าง แต่สาเหตุน่าจะมาจากในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จะมีการแนะนำโฉมใหม่ของรถยนต์ทั้งสองรุ่นสู่ตลาด ทำให้จีเอ็มตัดสินใจนำเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน E20 ไปใส่ไว้ในรุ่นใหม่แทน
จากความเคลื่อนไหวของจีเอ็ม นับว่ามีความชัดเจนและสนับสนุนนโยบายผลักดันเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ของรัฐบาลเต็มที่ แต่ที่ประกาศผลักดันออกหน้าออกตา และเร่งให้แจ้งเกิดโดยเร็ว เห็นจะเป็นค่ายรถยนต์ “วอลโว่” ที่ถึงกับพูดชัดหากรัฐบาลไทยยืนยันลุยแน่ วอลโว่พร้อมที่จะผลิตรถใช้น้ำมัน E85 ทันทีภายใน 1 ปี
“การที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ มีแผนจะผลักดันนโยบายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ในปี 2553 โดยส่วนตัวเห็นว่าจะช้าไป เพราะเรื่องนี้ถือเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งประเทศไทย สิ่งแวดล้อม และผู้บริโภคเอง ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตน้ำมันมีความพร้อมอยู่แล้ว และในส่วนของวอลโว่หากรัฐบาลกำหนดออกมาชัดเจน พร้อมที่จะผลิตรถยนต์ใช้น้ำมัน E85 ภายใน 1 ปีทันที”
พอลล์ สโตคส์ ประธานบริหาร บริษัท วอลโว่ คาร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า ส่วนการผลักดันให้เกิดแรงจูงใจให้บริษัทรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 เข้าสู่ตลาด ควรจะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสรรพสามิตเช่นเดียวกับรถใช้น้ำมัน E20 หรือรถใช้พลังงานซีเอ็นจี โดยวอลโว่เห็นว่าควรจะลดภาษีให้กับรถที่ใช้น้ำมัน E85 เหลือเพียง 20% เท่ากับรถยนต์ที่ใช้พลังงานซีเอ็นจี
นับว่าชัดเจนทั้งสองยี่ห้อ ที่จะเดินหน้าผลิตรถยนต์ใช้น้ำมันแก๊สโฮอล์ E85 แต่เสียงของทั้งสองค่ายคงจะไม่แรงพอ หากค่ายยักษ์ใหญ่ไม่ยกมือสนับสนุนจริงจัง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเสียงระดับไหน ขึ้นอยู่ที่นโยบายรัฐบาลเท่านั้นว่า…จะมีความชัดเจนและจริงจังเกี่ยวกับแผนการนำพลังงานทดแทนมาใช้แค่ไหน?
รถยนต์พลังงานทางเลือกในไทย เริ่มมีความคึกคักมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากเมื่อต้นปีที่มีการแนะนำรถยนต์ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 แทบจะทุกค่าย รวมถึงรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไบโอดีเซล 2-5% และล่าสุดในงานบางกอก อินเตอร์แนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ได้มีค่ายรถยนต์เปิดตัวปิกอัพ ที่ใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี(NGV) ทำให้ปัจจุบันผู้บริโภคไทยสามารถเลือกซื้อรถยนต์ ที่ใช้พลังงานทางเลือกได้หลากหลาย ทั้งน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ซีเอ็นจี(หรือเอ็นจีวี) และแอลพีจี ขณะที่ในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ บริษัทน้ำมัน และผู้ผลิตรถยนต์ ได้มีการพูดถึงแผนการใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลสูงถึง 85% หรือน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 กันแล้ว
โดยมานะ นิติกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ภายในเดือนเมษายนนี้จะเสนอแผนพัฒนาพลังงานทดแทนใหม่ ให้ทางกระทรวงพลังงานพิจารณา เพื่อวางทิศทางให้ประเทศไทยหันมาใช้พลังงานทดแทน ในรูปแบบต่างๆ กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมแก๊สโซฮอล์ E20 ให้เป็นเชื้อเพลิงหลักภายในปี 2559 ซึ่งเป็นเวลาที่จะมีการยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 91 และ95 ทั่วประเทศ ขณะที่ไบโอดีเซลจะปรับมาจำหน่าย B5 ได้ทั้งหมดในปลายปี 2553 และจะเริ่มพัฒนา B10 เข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป
“ปี 2553 จะเป็นปีที่แผนพลังงานทดแทนเริ่มชัดเจน โดยเฉพาะการผลักดันนโยบายการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ในประเทศไทยอย่างจริงจัง ซึ่งถือเป็นการนำพลังงานทดแทนมาใช้เกือบ 100% ฉะนั้นจึงต้องเจรจาและหาข้อสรุปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ผู้ผลิตน้ำมัน และผู้ผลิตรถยนต์ แน่นอนการที่จะผลักดันให้ภาคเอกชนลงทุนเรื่องนี้ จำเป็นต้องให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่วนจะเป็นเท่าไหร่ หรือมีแนวทางอย่างไร ตอนนี้คงยังไม่สามารถระบุได้”
เมื่อภาครัฐมีความชัดเจนที่เกี่ยวกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนในไทย ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ย่อมต้องเริ่มหันมาศึกษาและวางแผนการผลิต ขณะที่บางรายได้ประกาศสนับสนุนเต็มที่ และถึงกับกำหนดปีที่จะผลิตรถออกมากันเลยทีเดียว หากภาครัฐมีความจริงจังตามที่พูดออกมาจริง
สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มบริษัทของเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม (GM) เปิดเผยว่า หากรัฐบาลไทยกำลังสร้างกระแสให้ผู้คนหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ขณะเดียวกันก็ควรจะคำนึงถึงเรื่องของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ไว้ด้วยเลย เพราะรถยนต์ส่วนมากเมื่อนำไปดัดแปลงแล้ว มักจะปรับปรุงให้รองรับกับเอทานอลอัตราส่วนต่างๆ ไว้ด้วย
“ในส่วนของจีเอ็มมองเรื่อง E85 เป็นกลยุทธ์ทั้งโลก (Global Policy) โดยปัจจุบันจีเอ็มมีรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 มีจำนวนถึง 11 รุ่น ซึ่งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดามีรถยนต์ของจีเอ็มที่ใช้ได้มากถึง 3 ล้านคันด้วยกัน สำหรับในประเทศไทยเราพยายามนำรถยนต์ที่รองรับน้ำมันดังกล่าวเข้ามาทดสอบ และเมื่อรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรม คาดว่าภายในปี 2555 คงจะเห็นแนวโน้มรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 ของจีเอ็มได้ชัดเจน”
ทั้งนี้จีเอ็ม ได้มีการแนะนำรถยนต์พลังทางเลือกมาใช้แก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว อย่างเชฟโรเลต ออพตร้า ซีเอ็นจี และปิกอัพ โคโลราโด ซีเอ็นจี ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานก๊าซธรรมชาติแบบอัด อีกทั้งรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแก็สโซฮอล์ E20 (ออพตร้า,อาวีโอ) ก็จะเตรียมเปิดตัวปลายปีนี้ และจะตามมาด้วยรถยนต์ที่ใช้แก็สโซฮอล์ E85 เป็นลำดับต่อไป
การที่จีเอ็มสามารถนำรถยนต์พลังงานทางเลือกได้ เพราะไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ ที่สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนอย่างหลากหลาย ทั้งก๊าซซีเอ็นจี ไบโอดีเซล และแก๊สโซฮอล์ ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างชาญฉลาดในการพัฒนา พร้อมช่วยให้มีการจัดจำหน่ายอย่างแพร่หลาย ขณะเดียวกันยังสนับสนุนระบบโครงสร้างพื้นฐาน จึงถือเป็นผลงานยอดเยี่ยมมาก และหวังว่าจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าการที่จีเอ็มจะเปิดตัวรถใช้น้ำมัน E20 ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งถือว่าช้ากว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ที่ได้เปิดตัวไปแล้ว ไม่ใช่มาจากรัฐบาลได้ประกาศเลื่อนการใช้ E20 ให้เร็วขึ้นจากเดิม 1 ปี จนส่งผลให้จีเอ็มไม่สามารถปรับแผนการผลิต รถยนต์เชฟโรเลต ออพตร้า และอาวีโอ ให้เร็วขึ้นได้ทันตามที่กล่าวอ้าง แต่สาเหตุน่าจะมาจากในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จะมีการแนะนำโฉมใหม่ของรถยนต์ทั้งสองรุ่นสู่ตลาด ทำให้จีเอ็มตัดสินใจนำเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน E20 ไปใส่ไว้ในรุ่นใหม่แทน
จากความเคลื่อนไหวของจีเอ็ม นับว่ามีความชัดเจนและสนับสนุนนโยบายผลักดันเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ของรัฐบาลเต็มที่ แต่ที่ประกาศผลักดันออกหน้าออกตา และเร่งให้แจ้งเกิดโดยเร็ว เห็นจะเป็นค่ายรถยนต์ “วอลโว่” ที่ถึงกับพูดชัดหากรัฐบาลไทยยืนยันลุยแน่ วอลโว่พร้อมที่จะผลิตรถใช้น้ำมัน E85 ทันทีภายใน 1 ปี
“การที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ มีแผนจะผลักดันนโยบายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ในปี 2553 โดยส่วนตัวเห็นว่าจะช้าไป เพราะเรื่องนี้ถือเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งประเทศไทย สิ่งแวดล้อม และผู้บริโภคเอง ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตน้ำมันมีความพร้อมอยู่แล้ว และในส่วนของวอลโว่หากรัฐบาลกำหนดออกมาชัดเจน พร้อมที่จะผลิตรถยนต์ใช้น้ำมัน E85 ภายใน 1 ปีทันที”
พอลล์ สโตคส์ ประธานบริหาร บริษัท วอลโว่ คาร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า ส่วนการผลักดันให้เกิดแรงจูงใจให้บริษัทรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E85 เข้าสู่ตลาด ควรจะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสรรพสามิตเช่นเดียวกับรถใช้น้ำมัน E20 หรือรถใช้พลังงานซีเอ็นจี โดยวอลโว่เห็นว่าควรจะลดภาษีให้กับรถที่ใช้น้ำมัน E85 เหลือเพียง 20% เท่ากับรถยนต์ที่ใช้พลังงานซีเอ็นจี
นับว่าชัดเจนทั้งสองยี่ห้อ ที่จะเดินหน้าผลิตรถยนต์ใช้น้ำมันแก๊สโฮอล์ E85 แต่เสียงของทั้งสองค่ายคงจะไม่แรงพอ หากค่ายยักษ์ใหญ่ไม่ยกมือสนับสนุนจริงจัง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเสียงระดับไหน ขึ้นอยู่ที่นโยบายรัฐบาลเท่านั้นว่า…จะมีความชัดเจนและจริงจังเกี่ยวกับแผนการนำพลังงานทดแทนมาใช้แค่ไหน?