(จากคอลัมน์ Learn&Share โดย ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล (suwatmgr@gmail.com) เซกชั่น Good Health Smart Life ของ ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8-14 พฤศจิกายน 2557)
ถ้าเผอิญคุณได้รับมอบภารกิจให้ไปโน้มน้าวผู้บริหาร และพนักงาน 500 คนของบริษัทผลิตเก้าอี้ให้เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการเพื่อให้รอดพ้นจากปัญหาวิกฤติทางการเงินของบริษัทคุณจะรู้สึกอย่างไร?
จะยินดีเหมือน “เบน” พระเอกของเรื่องที่ภรรยาให้ของขวัญต้อนรับการเลื่อนตำแหน่งจากฝ่ายขายมาอยู่ฝ่ายควบรวมกิจการหรือคิดว่ามันเป็นงานหินแต่ต้องทำให้สำเร็จ เพราะมีผู้บริหารอีกหลายคนรอเข้ามาเสียบเพื่อทำแทนอยู่แล้ว
เรามาเรียนรู้ประสบการณ์ที่น่าสนใจเรื่องนี้กันครับ
ของขวัญที่เบนได้รับจากเมลานี คือสมุดโน้ตที่ปกเขียนด้วยลายมือว่า “คำประกาศจากเบน” ซึ่งเขาได้เขียนบันทึกสรุปประเด็นที่ได้ตกผลึกจากบทเรียนและข้อชี้แนะที่ได้รับจากป๋าแอลล์ผู้อาวุโสมากประสบการณ์
เริ่มด้วยหน้าแรก “กุญแจสู่ความเป็นผู้นำในตำนานของเบน”
กุญแจ # 1. : ยึดมั่นในวิสัยทัศน์
จงนำด้วยจิตใจ
ใครๆ ก็กำหนดวิสัยทัศน์ได้ ส่วนที่ยากคือการยึดมั่นใน วิสัยทัศน์
การสร้างธุรกิจหรือสร้างอะไรก็ตาม เป็นการทำด้วยศรัทธา
มองเห็นอยู่ในจิตนาการเสมอว่า คุณกำลังจะไปทางไหน แม้กระทั้งตอนที่ไม่มีใครเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไม่มีใครมองเห็นเลย
จงอย่าลืมว่าคุณมาจากไหนและจงระวังคำบุรุษสรรพนามที่คุณใช้
เบนได้รับรู้การส่งเสริมพนักงานที่เรียนไม่จบมหาวิทยาลัยและไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน แต่ได้พิสูจน์ความตั้งใจทำงาน มีจุดเด่นที่เห็นใจผู้อื่น รับฟังผู้อื่น จึงเหมาะกับการให้เธอคอยรับโทรศัพท์ซึ่งทำได้ดีมาก ต่อมาจึงได้รับมอบงานฝ่ายจัดหาที่สามารถแก้ปัญหาได้ดี
จึงสมดังคำกล่าวของวินสตัน เซอร์ชิล ที่ว่า
“ฉันได้พบว่า วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คนอื่นมีคุณค่า ก็คือการให้คุณค่าแก่เขา”
ที่เบนบันทึกในกุญแจดอกที่ 1 เรื่อง การใช้คำบุรุษสรรพนาม เพราะป้าแอลล์สังเกตว่าเขาใช้คำว่า “ผม” ถึง 15 ครั้ง และใช้คำว่า “พวกเรา” แค่ 1 ครั้ง
เพราะมันมี “ข้อความ” อยู่ใน “ข้อความ” อีกทีหนึ่งไงล่ะ เหมือนอย่างที่พ่อเธอเคยสอนว่า “แอลล์ เมื่อผู้ชายเริ่มพูดกับลูก จงอย่างได้วางใจในเนื้อเพลง แต่จงฟังเสียงดนตรีให้ออก”
เท่ากับว่ามีทั้ง “สิ่งที่พูด” กับ “สิ่งที่หมายถึงในคำพูด” ซึ่งการเจรจาอะไรกันก็สามารถใช้หลักนี้เตือนใจได้
“คำพูด” ถูกตีความหมายได้ เหมือนที่คนพูดถึงปากกาว่า “มีอนุภาพยิ่งกว่าดาบ” แต่ความจริงปากกาก็เป็นเพียงเครื่องเขียน จึงไม่ใช่ปากกาหรอกที่มีอนุภาพ คำที่เขียนด้วยปากกาต่างหากที่มีอิทธิพล
“คำจึงเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีอนุภาพที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้าง ขึ้นมา”
แต่คำว่า “อิทธิพล” ก็เป็นการใช้อนุภาพส่วนบุคคล เพียงแต่ควรเป็นการ “ดึงดูด” ไม่ใช่การ “ผลักดัน”
ป้าแอลล์จึงย้ำว่า “ยิ่งคุณพูดน้อยเท่าไรคุณก็ยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้นเท่านั้น” และเบนก็บันทึกตอนต่อ
กุญแจ # 2 สร้างคนของคุณ
จงนำด้วยจิตใจ
ยิ่งคุณยอมเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่สำคัญของอิทธิพล คือการดึง...ไม่ใช่การดัน กาลเทศะคือภาษาแห่งพลัง จงมอบสิ่งที่ผู้คนใช้ดำรงชีวิตอยู่ได้ บางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และพวกเขานำไปใช้ได้จริงๆ
อย่าตอบโต้ จงตอบสนอง
กุญแจ # 3 จงทำงาน
จงทำด้วยสัญชาตญาณรู้จักงานทุกซอกทุกมุม
ถ่อมตนให้สูงไว้ ติดดินไว้เสมอ ลุยงานด้วยตัวเอง และไว้ใจตนเอง
กุญแจ # 4 ยืนหยัดเพื่อบางสิ่ง
จงนำด้วยจิตวิญญาณ
สิ่งที่คุณจะต้องให้คือ นำเสนอผ่านสิ่งที่คุณพูดให้น้อยที่สุด นำเสนอผ่านสิ่งที่คุณทำให้มากขึ้น แต่คุณควรนำเสนอผ่านสิ่งที่คุณเป็นให้มากที่สุด
ความสามารถเป็นสิ่งสำคัญ แต่คุณลักษณะสำคัญกว่า
คุณลักษณะคือ สิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อชีวิตขีดรอยไว้เหนือจิตวิญญาณของคุณ
คุณจะเป็นผู้นำได้เท่าที่คุณเติบโต และคุณจะเติบโตได้เท่าที่คุณยอมให้ตัวเองเติบโต
เราได้เห็นสาระสำคัญที่เบนบันทึกไว้ในสมุดโน้ต ซึ่งตกผลึกจากความเข้าใจของเขาที่ได้สัมผัสกับภารการณ์และเป็นคำตอบว่าทำไมในที่สุดอัลเลน และ ออกัสติน 2 พี่น้องผู้ต่อตั้งบรษัทผู้ผลิตเก้าอี้ชั้นเยี่ยมมาพบผู้นำบริษัท มาร์เด็นกรุ๊ป ตอนค่ำ เพื่อนำเอามติเอกฉันท์ของพนักงานที่ยินดีให้มีการควบรวมกิจการ และมีเงื่อนไขว่าผู้ก่อตั้งทั้ง 2 ซึ่งรู้ตัวว่าเป็นอุปสรรคในการพัฒนากิจการต่อในยุคนี้จึงขอให้เบนเป็นประธานแทน
ป้าแอลล์ ซึ่งเปิดตัวให้รู้ว่าเป็นแม่ของผู้นำบริษัทมาร์เด็น กรุ๊ปได้สรุปส่งท้ายด้วยการเขียนตัวอักษร LEAD ซึ่งแปลว่า นำ และวาดรูป ลูกศรโค้ง เพื่อทำให้เห็นว่า L และ D สลับที่กัน ก็กลายเป็นคำใหม่ คือ DEAL แปลว่า ข้อตกลง
ผู้นำและคนที่มีอิทธิพลในองค์กรทุกขนาด เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะเริ่มย้อนกลับทางเดิม โดยนำเอาความไว้วางใจ และ ความศรัทธาทั้งหมดเข้ามา และสับสนระหว่าง สิ่งที่เป็น “ภาชนะ” กับ “สิ่งที่บรรจุไว้ข้างใน”
ในฐานะผู้นำ จะกลายเป็นภาชนะเก็บความหวังของผู้อื่น และกลายเป็นผู้ดูแลสิ่งที่จับต้องไม่ได้ของพวกเขา “คุณจึงไม่ใช่ความฝันของพวกเขา แต่เป็นเพียงบริกรแห่งความฝันเท่านั้น” ป้าแอลล์แนะเบน
ดังนั้นผู้นำต้องไม่ทำตัวกลับกันเหมือนตัวหนังสือนั่น “เมื่อใดที่คุณเริ่มคิดว่าคุณคือข้อตกลงสำคัญ เมื่อนั้นคุณจะเริ่มสูญเสียศักยภาพที่จะสร้างอิทธิพลด้านบวกต่อชีวิตของผู้อื่น...นั้นคือการนำ ไงล่ะ”
ข้อมูลจากหนังสือ ยิ่งให้ยิ่งชนะ
(IT & Not About You)
ผู้เขียน บ๊อบ เบิร์ก และจอห์น เดวิดมานน์
ผู้แปล อมรรัตน์ ศรีสุรินทร์
สำนักพิมพ์อมรินทร์
ถ้าเผอิญคุณได้รับมอบภารกิจให้ไปโน้มน้าวผู้บริหาร และพนักงาน 500 คนของบริษัทผลิตเก้าอี้ให้เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการเพื่อให้รอดพ้นจากปัญหาวิกฤติทางการเงินของบริษัทคุณจะรู้สึกอย่างไร?
จะยินดีเหมือน “เบน” พระเอกของเรื่องที่ภรรยาให้ของขวัญต้อนรับการเลื่อนตำแหน่งจากฝ่ายขายมาอยู่ฝ่ายควบรวมกิจการหรือคิดว่ามันเป็นงานหินแต่ต้องทำให้สำเร็จ เพราะมีผู้บริหารอีกหลายคนรอเข้ามาเสียบเพื่อทำแทนอยู่แล้ว
เรามาเรียนรู้ประสบการณ์ที่น่าสนใจเรื่องนี้กันครับ
ของขวัญที่เบนได้รับจากเมลานี คือสมุดโน้ตที่ปกเขียนด้วยลายมือว่า “คำประกาศจากเบน” ซึ่งเขาได้เขียนบันทึกสรุปประเด็นที่ได้ตกผลึกจากบทเรียนและข้อชี้แนะที่ได้รับจากป๋าแอลล์ผู้อาวุโสมากประสบการณ์
เริ่มด้วยหน้าแรก “กุญแจสู่ความเป็นผู้นำในตำนานของเบน”
กุญแจ # 1. : ยึดมั่นในวิสัยทัศน์
จงนำด้วยจิตใจ
ใครๆ ก็กำหนดวิสัยทัศน์ได้ ส่วนที่ยากคือการยึดมั่นใน วิสัยทัศน์
การสร้างธุรกิจหรือสร้างอะไรก็ตาม เป็นการทำด้วยศรัทธา
มองเห็นอยู่ในจิตนาการเสมอว่า คุณกำลังจะไปทางไหน แม้กระทั้งตอนที่ไม่มีใครเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไม่มีใครมองเห็นเลย
จงอย่าลืมว่าคุณมาจากไหนและจงระวังคำบุรุษสรรพนามที่คุณใช้
เบนได้รับรู้การส่งเสริมพนักงานที่เรียนไม่จบมหาวิทยาลัยและไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน แต่ได้พิสูจน์ความตั้งใจทำงาน มีจุดเด่นที่เห็นใจผู้อื่น รับฟังผู้อื่น จึงเหมาะกับการให้เธอคอยรับโทรศัพท์ซึ่งทำได้ดีมาก ต่อมาจึงได้รับมอบงานฝ่ายจัดหาที่สามารถแก้ปัญหาได้ดี
จึงสมดังคำกล่าวของวินสตัน เซอร์ชิล ที่ว่า
“ฉันได้พบว่า วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คนอื่นมีคุณค่า ก็คือการให้คุณค่าแก่เขา”
ที่เบนบันทึกในกุญแจดอกที่ 1 เรื่อง การใช้คำบุรุษสรรพนาม เพราะป้าแอลล์สังเกตว่าเขาใช้คำว่า “ผม” ถึง 15 ครั้ง และใช้คำว่า “พวกเรา” แค่ 1 ครั้ง
เพราะมันมี “ข้อความ” อยู่ใน “ข้อความ” อีกทีหนึ่งไงล่ะ เหมือนอย่างที่พ่อเธอเคยสอนว่า “แอลล์ เมื่อผู้ชายเริ่มพูดกับลูก จงอย่างได้วางใจในเนื้อเพลง แต่จงฟังเสียงดนตรีให้ออก”
เท่ากับว่ามีทั้ง “สิ่งที่พูด” กับ “สิ่งที่หมายถึงในคำพูด” ซึ่งการเจรจาอะไรกันก็สามารถใช้หลักนี้เตือนใจได้
“คำพูด” ถูกตีความหมายได้ เหมือนที่คนพูดถึงปากกาว่า “มีอนุภาพยิ่งกว่าดาบ” แต่ความจริงปากกาก็เป็นเพียงเครื่องเขียน จึงไม่ใช่ปากกาหรอกที่มีอนุภาพ คำที่เขียนด้วยปากกาต่างหากที่มีอิทธิพล
“คำจึงเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีอนุภาพที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้าง ขึ้นมา”
แต่คำว่า “อิทธิพล” ก็เป็นการใช้อนุภาพส่วนบุคคล เพียงแต่ควรเป็นการ “ดึงดูด” ไม่ใช่การ “ผลักดัน”
ป้าแอลล์จึงย้ำว่า “ยิ่งคุณพูดน้อยเท่าไรคุณก็ยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้นเท่านั้น” และเบนก็บันทึกตอนต่อ
กุญแจ # 2 สร้างคนของคุณ
จงนำด้วยจิตใจ
ยิ่งคุณยอมเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่สำคัญของอิทธิพล คือการดึง...ไม่ใช่การดัน กาลเทศะคือภาษาแห่งพลัง จงมอบสิ่งที่ผู้คนใช้ดำรงชีวิตอยู่ได้ บางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และพวกเขานำไปใช้ได้จริงๆ
อย่าตอบโต้ จงตอบสนอง
กุญแจ # 3 จงทำงาน
จงทำด้วยสัญชาตญาณรู้จักงานทุกซอกทุกมุม
ถ่อมตนให้สูงไว้ ติดดินไว้เสมอ ลุยงานด้วยตัวเอง และไว้ใจตนเอง
กุญแจ # 4 ยืนหยัดเพื่อบางสิ่ง
จงนำด้วยจิตวิญญาณ
สิ่งที่คุณจะต้องให้คือ นำเสนอผ่านสิ่งที่คุณพูดให้น้อยที่สุด นำเสนอผ่านสิ่งที่คุณทำให้มากขึ้น แต่คุณควรนำเสนอผ่านสิ่งที่คุณเป็นให้มากที่สุด
ความสามารถเป็นสิ่งสำคัญ แต่คุณลักษณะสำคัญกว่า
คุณลักษณะคือ สิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อชีวิตขีดรอยไว้เหนือจิตวิญญาณของคุณ
คุณจะเป็นผู้นำได้เท่าที่คุณเติบโต และคุณจะเติบโตได้เท่าที่คุณยอมให้ตัวเองเติบโต
เราได้เห็นสาระสำคัญที่เบนบันทึกไว้ในสมุดโน้ต ซึ่งตกผลึกจากความเข้าใจของเขาที่ได้สัมผัสกับภารการณ์และเป็นคำตอบว่าทำไมในที่สุดอัลเลน และ ออกัสติน 2 พี่น้องผู้ต่อตั้งบรษัทผู้ผลิตเก้าอี้ชั้นเยี่ยมมาพบผู้นำบริษัท มาร์เด็นกรุ๊ป ตอนค่ำ เพื่อนำเอามติเอกฉันท์ของพนักงานที่ยินดีให้มีการควบรวมกิจการ และมีเงื่อนไขว่าผู้ก่อตั้งทั้ง 2 ซึ่งรู้ตัวว่าเป็นอุปสรรคในการพัฒนากิจการต่อในยุคนี้จึงขอให้เบนเป็นประธานแทน
ป้าแอลล์ ซึ่งเปิดตัวให้รู้ว่าเป็นแม่ของผู้นำบริษัทมาร์เด็น กรุ๊ปได้สรุปส่งท้ายด้วยการเขียนตัวอักษร LEAD ซึ่งแปลว่า นำ และวาดรูป ลูกศรโค้ง เพื่อทำให้เห็นว่า L และ D สลับที่กัน ก็กลายเป็นคำใหม่ คือ DEAL แปลว่า ข้อตกลง
ผู้นำและคนที่มีอิทธิพลในองค์กรทุกขนาด เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะเริ่มย้อนกลับทางเดิม โดยนำเอาความไว้วางใจ และ ความศรัทธาทั้งหมดเข้ามา และสับสนระหว่าง สิ่งที่เป็น “ภาชนะ” กับ “สิ่งที่บรรจุไว้ข้างใน”
ในฐานะผู้นำ จะกลายเป็นภาชนะเก็บความหวังของผู้อื่น และกลายเป็นผู้ดูแลสิ่งที่จับต้องไม่ได้ของพวกเขา “คุณจึงไม่ใช่ความฝันของพวกเขา แต่เป็นเพียงบริกรแห่งความฝันเท่านั้น” ป้าแอลล์แนะเบน
ดังนั้นผู้นำต้องไม่ทำตัวกลับกันเหมือนตัวหนังสือนั่น “เมื่อใดที่คุณเริ่มคิดว่าคุณคือข้อตกลงสำคัญ เมื่อนั้นคุณจะเริ่มสูญเสียศักยภาพที่จะสร้างอิทธิพลด้านบวกต่อชีวิตของผู้อื่น...นั้นคือการนำ ไงล่ะ”
ข้อมูลจากหนังสือ ยิ่งให้ยิ่งชนะ
(IT & Not About You)
ผู้เขียน บ๊อบ เบิร์ก และจอห์น เดวิดมานน์
ผู้แปล อมรรัตน์ ศรีสุรินทร์
สำนักพิมพ์อมรินทร์