xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ใหม่ญี่ปุ่น เหล้าเดิมในขวดเก่า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกฯ ใหม่ญี่ปุ่นเปิดตัวคณะรัฐมนตรี กว่าครึ่งหนึ่งเป็นคนเดิมในรัฐบาลอาเบะ สะท้อนนโยบายสานต่องานรัฐบาลเดิม น้องชายอดีตนายกฯ อาเบะได้ดี เป็นรมต.ป้องกันประเทศ ขณะที่รมต.สาธารณสุขรับมือโควิดล้มเหลว แต่ได้อัพเกรดเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ ได้รับการรับรองจากรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนที่ 99 เมื่อวันพุธ (16 ก.ย.) หลังจากเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดิแล้ว เขาได้ประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรี “ซูงะ1”

ตำแหน่งสำคัญยังคงเป็นคนหน้าเดิมในรัฐบาลอาเบะ คือ นายทาโร อาโซ เป็นรัฐมนตรีคลัง, นายโทชิมิตสึ โมเตงิ เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ, นายยาสึโตชิ นิชิมูระ เป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจ, นายฮิโรชิ คาจิยามะ รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรม นายชินจิโร โคอิซูมิ บุตรชายของอดีตนายกฯ จุนอิจิโร โคอิซูมิ เป็นรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

ตำแหน่งที่น่าสนใจ คือ นายโนบูโอะ คิชิ น้องชายของนายกฯ อาเบะ รับตำแหน่งรัฐมนตรีป้องกันประเทศ ขณะที่เจ้ากระทรวงคนเดิมคือ นายทาโร โคโนะ ย้ายไปดูแลงานด้านการปฏิรูประบบราชการ ส่วนนายคัตสึโนบุ คาโต อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข  ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องความล่าช้าในการรับมือการระบาดของไวรัสโควิด กลับได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมของนายซูงะ และเป็นตำแหน่งเทียบเท่ารัฐมนตรีที่มีอิทธิพลอย่างมาก ทั้งการประสานงานกับฝ่ายต่าง ๆ ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งเป็นโฆษกรัฐบาลด้วย

นายคัตสึโนบุ คาโต (คนที่ 2 จากขวาสุด)
การได้เลื่อนชั้นของนายคัตสึโนบุ คาโต เป็นที่วิจารณ์อย่างมากในญี่ปุ่น รัฐบาลอาเบะต้องหมดวาระก่อนเวลาไม่เพียงเพราะเรื่องสุขภาพของนายกฯ แต่ยังเพราะคะแนนนิยมตกต่ำเป็นประวัติการณ์จากความล้มเหลวในการรับมือการระบาดของโรคโควิด แต่นายคาโต ที่เป็นรมต.สาธารณสุขกลับได้ดิบได้ดี เพียงเพราะเขาสนิทสนมกับนายกซูงะและนายอาเบะ

ครม.ผู้เฒ่าใต้เงาอาเบะ คั่นเวลารอเลือกตั้งใหม่

ครม.ซูงะสะท้อนอย่างชัดเจนว่าเดินตามนโยบายของนายอาเบะ ไม่มีคนรุ่นใหม่ อายุเฉลี่ยของคณะรัฐมนตรีสูงถึง 60 ปี ตัวนายซูงะเองมีอายุ 71 ปี มากกว่าอดีตนายกฯอาเบะ 6 ปี ขณะที่มีรัฐมนตรีหญิงเพียง 2 คน ทั้ง ๆ ที่นายอาเบะเคยประกาศว่าจะส่งเสริมสถานภาพของสตรี


ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า นายซูงะเป็นผู้ช่วยที่ดีเยี่ยมในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล แต่เขาไม่เคยแสดงวิสัยทัศน์ในฐานะ “ผู้นำ” ว่าจะนำพาญี่ปุ่นไปในทิศทางใด เขาไม่เคยรับตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญ แทบไม่มีประสบการณ์ด้านการทูต ความมั่นคง และเศรษฐกิจ ที่เป็นสิ่งสำคัญในช่วงที่สหรัฐและจีนกำลังเผชิญหน้ากัน และญี่ปุ่นต้องสร้างสัมพันธ์กับผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน

ไม่มีใครปฏิเสธว่านายซูงะเป็นคนที่ทุ่มเททำงานหนัก และแก้ปัญหาให้รัฐบาลอาเบะได้หลายเรื่อง แต่การเป็นผู้นำประเทศจำเป็นต้องมีจุดยืนทางอุดมการณ์ เพื่อนำพาประเทศเหินฟ้ามุ่งหน้าสู่อนาคต มิใช่เป็นเพียงแค่ “ลมใต้ปีก” หรือ “ร่างเงา” ของคนอื่น.


กำลังโหลดความคิดเห็น