xs
xsm
sm
md
lg

โยชิฮิเดะ ซูงะ: จากลูกชาวสวนสู่นายกฯ ญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายโยชิฮิเดะ ซูงะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น เติบโตจากลูกชาวสวน สู้ชีวิตด้วยตัวเอง เป็นนักการเมืองผู้เข้มงวด ทุ่มเทให้กับงาน จนได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นอย่างคาดไม่ถึง

ซูงะ บุตรชายของชาวสวนสตรอเบอร์รีจากจังหวัดอากิตะ พ่อของเขาเคยเป็นคนงานก่อสร้างทางรถไฟในแมนจูเรีย หลังสงครามสิ้นสุดจึงยึดอาชีพปลูกสตรอเบอร์รีที่บ้านเกิด และประสบความสำเร็จในการสร้างชื่อเสียงให้กับสตรอเบอร์รีของจังหวัดอากิตะ เลี้ยงดูครอบครัวที่มีลูก 4 คน โดยซูงะเป็นลูกชายคนโต มีพี่สาว 2 คน และน้องชาย 1 คน

หลังจบมัธยมปลาย ซูงะปฏิเสธที่จะสืบทอดงานปลูกสตรอเบอร์รีต่อจากพ่อ และเดินทางมาแสวงโชคที่กรุงโตเกียว เขาเริ่มทำงานในโรงงานผลิตกล่องกระดาษ รวมทั้งรับจ้างเป็นยามที่ตลาดปลาสึกิจิ ไปพร้อมๆ กับเข้าเรียนรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโฮเซ

โยชิฮิเดะ ซูงะ (ยืนขวาสุด) สมัยมัธยม
ในช่วงนั้น ญี่ปุ่นอยู่ท่ามกลางกระแสประชาธิปไตย นักศึกษาแดนอาทิตย์อุทัยประท้วงพันธมิตรญี่ปุ่น-สหรัฐและสงครามเวียดนาม แต่นายซูงะไม่ได้สนใจกระแสเหล่านี้ ทั้งๆ เป็นนักศึกษารัฐศาสตร์ เขามุ่งมั่นทำงานหาเลี้ยงชีพ และใช้เวลาว่างเข้าร่วมกับชมรมคาราเต้

หลังจบการศึกษา เขาได้ทำงานในบริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่ทำได้เพียงปีเดียวก็ลาออกและเข้าสู่เส้นทางการเมือง โดยเป็นเลขาของนายฮิโกซาบูโร โอโกโนงิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หลังจากนั้นซูงะได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเมืองโยโกฮามา และไต่เต้าสู่การเมืองระดับชาติ ได้เป็น สส. ในวัย 47 ปี

ชีวิตบากบั่น แม่บ้านครม. อาเบะ

นายซูงะเริ่มสนิทสนมกับนายกชินโซ อาเบะ จากความสนใจร่วมกันของทั้งคู่ ในประเด็นการนำตัวชาวญี่ปุ่นที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวกลับคืนสู่มาตุภูมิ

ถึงแม้เขาจะอายุมากกว่านายอาเบะ 6 ปี และมีเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นายซูงะมุมานะด้วยตัวเองมาตลอด ส่วนนายอาเบะเติบโตขึ้นในตระกูลนักการเมืองชั้นอำมาตย์ และถูกวางตัวให้สืบทอดเส้นทางการเมืองของปู่และพ่อมาตั้งแต่วัยหนุ่ม  นายอาเบะผลักดันให้นายซูงะขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย ดูแลการเลือกตั้งจนนายอาเบะได้เป็นนายกฯ ครั้งแรกเมื่อปี 2006 นายซูงะรับตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกิจการภายในประเทศ


นายอาเบะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ได้เพียงปีเดียวก็ต้องลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ แต่นายซูงะก็ยังภักดี และมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้นายอาเบะหวนคืนสู่อำนาจอีกครั้งในปี 2012 นายกฯ อาเบะได้ตอบแทนด้วยการแต่งตั้งให้เขาเป็นเลขาธิการครม. และโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานด้านนโยบายและระบบราชการ

เขาเป็นผู้ผลักดันนโยยาย “ฟรีวีซ่า” ให้ชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นมากขึ้น และยังได้รับเกียรติ์ให้เป็นผู้ประกาศชื่อ “เรวะ” เป็นชื่อรัชสมัยใหม่ของญี่ปุ่น หลังจากสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะขึ้นครองราชย์


ซิทอัพวันละ 200 ครั้ง ทำงานหามรุ่งหามค่ำ

นายซูงะคือ “แม่บ้านของนายกฯ” ที่สมบูรณ์แบบ เขาไม่สังกัดมุ้งการเมืองใดๆ ไม่แสดงความคิดเห็น หริอเข้าร่วมการแก่งแย่งชิงอำนาจในพรรค เข้าได้กับทุกกลุ่มทุกขั้ว จึงเป็นผู้ประสานและแก้ปัญหาได้ดีเยี่ยม

ประสบการณ์ที่บากบั่นสู้ชีวิตมาแต่ด็ก ทำให้นายซูงะทำงานอย่างทุ่มเท กิจวัตรประจำวันของเขาไม่เคยเปลี่ยนมานานกว่า 10 ปี ตื่นนอนแต่เช้าราวตี 5 ตรวจสอบข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ซิทอัพวันละ 200 ครั้งเช้า-เย็น เดินออกกำลังกาย 40 นาที จึงไปทำงานราว 9 โมง ความเข้มงวดในวินัยของเขาพิสูจน์ได้จากความสำเร็จในการลดน้ำหนัก 14 กก. ในเวลาเพียง 4 เดือน

เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะแถลงข่าววันละ 2 ครั้ง และร่วมประชุมกว่า 10 วง บางครั้งเขามีเวลากินอาหารเที่ยงเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น เขาจะออกจากทำเนียบรัฐบาลราว 18.45 น. แต่ยังมีนัดพบกับนักการเมืองและนักวิชาการ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือเรื่องต่าง ๆ ในยามค่ำคืน เขาจึงไม่ค่อยได้กลับบ้านที่เมืองโยโกฮามา แต่พักที่บ้านพักของรัฐบาลเพื่อรับมือได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน


นายซูงะได้ชื่อว่าเป็นคนที่เข้มงวด เจ้าระเบียบ เขาบอกว่า “ลูกน้องต่างบอกว่าผมเป็นคนน่ากลัว แต่ความจริงแล้วผมใจดีกับคนที่ทำงานได้เรียบร้อย”

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ สมรสกับมาริโกะ อดีตผู้ช่วยของนายฮิโกซาบูโร โอโกโนงิ เจ้านายทางการเมืองคนแรกของเขา มีลูกชาย 3 คน แต่เขาแทบจะไม่เคยปรากฎตัวในที่สาธารณะพร้อมกับครอบครัว

นายชินโซ อาเบะ ได้บรรลุความฝันของเขา เป็นผู้นำญี่ปุ่นที่อายุน้อยที่สุดและอยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุด แต่เหมือนโชคชะตาเล่นกล นายอาเบะต้องลาออกจากตำแหน่งถึง 2 ครั้งจากปัญหาสุขภาพเดิม ขณะที่นายโยชิฮิเดะ ซูงะ ผู้ภักดีกับนายอาเบะมาตลอดก็คงคาดไม่ถึงว่าชะตากรรมของนายอาเบะ จะทำให้เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น.




กำลังโหลดความคิดเห็น