xs
xsm
sm
md
lg

สึนามิโควิด ทลายฝันท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่คึกคักต่อเนื่องหลายปีกลับกลายจากหน้ามือเป็นหลังมือจากการระบาดของโรคโควิด-19 นักท่องเที่ยวที่เคยทำสถิติสูงสุดจากนโยบายฟรีวีซ่าไม่สามารถเดินทางมาญี่ปุ่นได้ เป้าหมายนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนที่รัฐบาลมั่นใจว่าไม่พลาดแน่นอนไม่อาจเป็นจริงแล้ว

สนามบินทั่วประเทศญี่ปุ่นที่เคยคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยววันนี้สุดเงียบเหงา เคาท์เตอร์เช็คอินปิดบริการเกือบทั้งหมด ป้ายแจ้งเวลาแทบไม่มีการขึ้นลงของเครื่องบิน

หากไม่มีไวรัสโควิด ปีนี้ญี่ปุ่นจะคึกคักอย่างยิ่งจากการเป็นเจ้าภาพ “โตเกียวโอลิมปิก”  สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เร่งขยายพื้นที่และผลิตสินค้าของที่ระลึก แต่วันนี้สินค้าต่าง ๆ ต้องนำมาลดแลกแจกแถมเพื่อหารายได้ประคับประคองกิจการ สนามบินโอกินาวาได้ขยายอาคารผู้โดยสารและเปิดรันเวย์ที่ 2 เมื่อเดือนมีนาคม ปีนี้ เพื่อรองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นจาก 135,000 เป็น 240,000 เที่ยวต่อปี แต่มรสุมโควิดที่แรงเกินจะตั้งรับทำให้เที่ยวบินในเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ลดลงมากถึง 60% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือเพียงราว 20,000 เที่ยวบิน

สนามบินโอกินาวา วันนี้มีเพียงความว่างเปล่า
ผลงานด้านการท่องเที่ยวเป็นเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นเคยภาคภูมิใจอย่างยิ่ง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาแดนอาทิตย์อุทัยทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง ญี่ปุ่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวในดวงใจของนักท่องเที่ยวหลายชาติ

ในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาญี่ปุ่น 31.88 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวจากเมื่อ 6 ปีก่อนหน้า รายได้จากการท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าตัวเป็น 4.8 ล้านล้านเยน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของญี่ปุ่น สร้างรายได้มากเป็นอันดับที่ 2 รองจากการส่งออกยานยนต์ที่สร้างทำเงินให้ญี่ปุ่นถึง 12 ล้านล้านเยน รายได้จากการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นแซงหน้ารายได้จากการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่า 4 ล้านล้านเยน

การท่องเที่ยวได้สร้างความคึกคักทั้งในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซากา ไปจนถึงจังหวัดห่างไกลอย่าง โออิตะ ที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวในปีที่แล้วมากถึง 36,800 ล้านเยน เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าตัวจาก 6 ปีก่อน

ส่วนจังหวัดอาคิตะ ถึงกับให้ดาราไทยอย่าง อู๋-ธนากร โปษยานนท์ เป็นพรีเซนเตอร์ส่งเสริมการท่องเที่ยว ผ่านละครสั้นและรายการท่องเที่ยวกว่า 10 ตอน



จากฟรีวีซ่าถึงระงับวีซ่า

ในอดีตญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้มงวดในการขอวีซ่าอย่างมาก แต่นโยบาย “ฟรีวีซ่า” ได้ปลดล็อกทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่ไปเที่ยวได้ รวมถึงนักท่องเที่ยวไทย ที่หลายคนเดินทางมาญี่ปุ่นปีละหลายครั้ง

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ผู้ซึ่งรับผิดชอบนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ถึงกับเคยส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่น ที่มีแนวคิดเข้มงวดกับการตรวจคนเข้าเมืองว่า “ภารกิจคือส่งเสริมการแลกเปลี่ยนกับประเทศต่าง ๆ ควบคู่กับการรักษาความสงบเรียบร้อยในญี่ปุ่น”

นายซูงะผลักดันให้เปิดฟรีวีซ่าให้กับหลายประเทศ และผ่อนคลายข้อจำกัดวีซ่า เช่น ให้ชาวจีนที่มีฐานะเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นได้หลายครั้ง ด้วยเงื่อนไขว่าให้ไปเที่ยวยังพื้นที่ที่ต้องการส่งเสริม เช่น โอกินาวา หลังจากนั้นก็ยังผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง เช่น ลดเงื่อนไขด้านรายได้ของผู้ที่ขอวีซ่า และยกเลิกข้อจำกัดด้านสถานที่ท่องเที่ยว เปิดทางให้นักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวได้ทั่วประเทศญี่ปุ่นด้วยวีซ่าแบบหลายครั้ง

แต่ในขณะนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้สั่งห้ามชาวต่างชาติจากเกือบทุกประเทศทั่วโลกเดินทางเข้าญี่ปุ่น เพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 โดยถึงแม้จะมีมาตรการผ่อนคลายในเดือนกันยายน แต่ก็เฉพาะนักธุรกิจ นักศึกษา และผู้ที่มีสถานะพำนักในญี่ปุ่นเท่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยวยังไม่มีความหวังในการกลับมายังญี่ปุ่นอีกครั้ง


โควิดกระหน่ำ ดั่งสายฟ้าฟาดท่องเที่ยวญี่ปุ่น

รัฐบาลญี่ปุ่นมั่นใจอย่างมากว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย จนปรับเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป้าหมายเป็น 40 ล้านคนในปีนี้...แต่ไวรัสโควิดทำให้ญี่ปุ่นฝันสลาย ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมาแทบไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมายังญี่ปุ่นเลย

นายซูงะยอมรับว่า ไม่มีความหวังที่จะบรรลุเป้าหมายนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนในปีนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ผู้คนในธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมมากกว่า 9 ล้านคนในญี่ปุ่นก็ยังอาจจะอยู่ไม่รอด

เมื่อปีที่แล้ว การตอบโต้เรื่องการใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกระหว่างญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ก็ทำให้เที่ยวบินระหว่าง 2 ประเทศถูกตัดลดและระงับ ส่งผลให้ชาวเกาหลีที่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่อันดับที่ 2 เดินทางมาญี่ปุ่นลดน้อยลงอย่างมาก...แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับมรสุมจากไวรัสโควิด ที่ทำให้ญี่ปุ่นและประเทศต่าง ๆ ต้อง “ปิดประเทศ” การเดินทางและท่องเที่ยวถูก ”สับคัทเอาท์” อย่างกะทันหัน จนธุรกิจต่างๆ ตั้งตัวไม่ทัน

การท่องเที่ยวถูกคาดหวังว่าจะทำให้ญี่ปุ่นเป็นแดนอาทิตย์อุทัยอีกครั้ง แต่วันนี้กลับกลายเป็น “ตะวันชิงพลบ”เพราะพิษโควิด แต่โรคระบาดครั้งนี้ก็ทำให้ประเทศต่าง ๆ ตระหนักว่า ความรุ่งโรจน์ที่ยืมจมูกคนอื่นนั้นไม่ยั่งยืนเท่ากับการพึ่งพาตนเอง .


กำลังโหลดความคิดเห็น