จากบทประพันธ์ของ Ango Sakaguchi (1906-1955)
ปรมาจารย์แห่งความลึกลับของฆาตกรรมปริศนา
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์
สงครามเพิ่งสงบ สังคมนครหลวงสมัยโชวะพยายามดิ้นรนกลับสู่ยุคทองในอดีตที่ไม่ใช่ว่าไกลโพ้น
ไม่เคยมีเสียดีกว่า ต้องสูญเสียไปแล้วอยากได้คืน...
คืนวันที่ 8 สิงหาคมจวนเจียนจะถึงวันแห่งชะตากรรมจนแทบจะต้องนับถอยหลังกันอยู่แล้วแต่ดอกเตอร์โคเซก็ยังไม่กลับมา 9 สิงหาคมวันแห่งชะตากรรมจะย่างกรายเข้ามาเมื่อนาฬิกาตีบอกเวลาสองยาม นักสืบอาตาพินตำรวจหญิงสมองใสนั่งเบิ่งตาวาวเป็นประกายยึดเอาห้องกินข้าวเป็นที่ตั้งมั่นด้วยความอดทน
ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ในห้องกินข้าว ห้องทุกห้องที่เรียงรายอยู่สองฟากระเบียงทางเดินชั้นบนจึงไม่มีใครอยู่ นักสืบจมูกมดกับนักสืบคิดลึกยืนเฝ้าระวังอยู่ที่ปลายสุดระเบียงทางเดินคนละด้าน บรรยากาศตึงเครียดครอบคลุมไปทั่วบริเวณคฤหาสน์อุตางาวะ เมื่อตำรวจระดมกำลังมาคุ้มครองคฤหาสน์เตรียมรับมือสถานการณ์ในวันแห่งชะตากรรมกันอย่างเข้มแข็งเต็มที่
สารวัตรเหยี่ยวมาร่วมรับประทานอาหารค่ำด้วย
“สองทุ่มวันที่ 8 สิงหาคม เลขแปดหมดเลยครับ ช่วงสงครามใคร ๆ พูดกันถึงเลขแปดว่าเป็นเลขนำโชค นำความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งจะเข้าใจได้ถ้าดูจากตัวคันจิที่ด้านบนแคบและด้านล่างขยายกว้างออกเหมือนภูเขาฟูจิ แต่สำหรับตำรวจแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ มันหมายถึงคดีที่บานปลายโดยเฉพาะคดีทั้งหมดที่คฤหาสน์นี้นี่ใช่เลย บานปลายเสียจนตำรวจอย่างเราเอาไม่อยู่น่าอดสูจริง ๆ
ตอนนั้นเองที่มีโทรศัพท์เข้ามาสถานีตำรวจ สารวัตรเหยี่ยวออกไปรับแล้วกลับเข้ามารายงานว่า
“ท่าทางจะไปกันใหญ่แล้วครับทุกท่าน ตำรวจที่สถานีรายงานมาว่าหมอเอบิสึกะลุกขึ้นมาพล่ามเสียงดังเอะอะอยู่ในห้องขัง บอกว่าคืนนี้พระเจ้าจะดลบันดาลให้เกิดการตายหมู่ขึ้นที่คฤหาสน์นี้ และวิญญาณของหมอเองก็จะมาที่นี่ ตอนนี้อาจจะมาสิงอยู่ตามซอกมุมแถวนี้แล้วก็ได้ นั่นก็เรื่องหนึ่ง ส่วนคุณโมโรอินางพยาบาลที่ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลประจำจังหวัดนั้นตอนนี้อาการทรุดหนักลงมาจนหมอบอกว่าอาจหมดหวัง แต่ก็พยายามกันทุกวิถีทางที่จะช่วยชีวิตเอาไว้ ทางเราก็เหมือนกันถ้าเธอเกิดตายขึ้นมาเป็นต้องวุ่นกันใหญ่ มีรายงานว่าคุณผู้หญิงคนนี้จิตใจแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด ไม่มีใครเคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน ขนาดหมดสติอย่างนั้นก็ยังควบคุมตัวเองได้ไม่ให้ปริปากละเมออะไรออกมาสักคำเดียว”
คดีนี้จะยังไม่จบลงง่าย ๆ หรือยังไง ผมมองหน้าคาซูมะ ดูเขากระสับกระส่ายเหมือนจะเริ่มวิตกจริตขึ้นมาอีกครั้ง
วันนี้เป็นวันที่ 27 นับจากวันที่ท่านทามอนกับคุณคาโยโกะถูกฆาตกรรม และวันพรุ่งนี้คือวันครบรอบ 1 ปีการตายของคุณนายคาจิโกะ ตามปกติแล้วจะต้องจัดพิธีทำบุญใหญ่และนิมนต์พระมาสวด แต่เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกทั้งเป็นวันที่เป็นต้นตอของปัญหา ถึงงานขึ้นคนที่มาร่วมวงสมาคมอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะร่วมงานบุญด้วยแน่ จึงตกลงให้เลื่อนไปจัดปีหน้า ส่วนครั้งนี้ทำแค่นิมนต์พระมาสวดเท่านั้น
ทนายคามิยามะหันไปทางสารวัตรเหยี่ยว
“จริงครับผมเห็นด้วย นางพยาบาลคนนี้ผมว่ามีแววเป็นฆาตกรตัวยงคนหนึ่งเลยทีเดียว อย่างแรก ดูตาหล่อนซิครับ คือมันจะเหลือบขึ้นสูงจนเห็นตาขาวข้างล่างอยู่ตลอด น่ากลัวจนขนหัวลุก มองนาน ๆ ไม่ได้เลยครับ ว่าแต่สารวัตรครับ จะมีอะไรเกิดขึ้นในวันที่ 9 สิงหาจริง ๆ หรือครับ”
“เอ ถ้าผมรู้ก็คงจัดการเรียบร้อยไปแล้วละครับ และอีกอย่าง ตำรวจก็ไม่ได้มีตาทิพย์หรือสื่อสารกับเทพเจ้าได้เหมือนหมอเอบิสึกะเสียด้วย ในส่วนตัวของคุณทนายเอง ผมเห็นขยันสืบนั่นสืบนี่ละเอียดลอออยู่ไม่น้อย ตาสมองเห็นอะไรดี ๆ บ้างไหม ขอให้ผมได้ฟังความคิดเห็นบ้าง มีอะไรมากน้อยยังไงพูดได้เลยไม่ต้องเกรงใจครับ”
“ผมต่างหากที่ต้องถาม ผมมีเรื่องอยากถามสารวัตรอย่างหนึ่งคือเวลาที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นเวลาที่ฆาตกรลงมือฆ่านั้นจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไรกันแน่ เป็นจริงตามคำสันนิษฐานไหมครับ”
“เรื่องนี้ ในเบื้องต้นสามารถตอบได้ว่าน่าจะตรงกับความเป็นจริง แต่จะให้บอกว่าจริงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์คงไม่ได้ ยังโชคดีนะครับที่เกิดเหตุฆาตกรรมถึง 7 คดีแต่พบศพเร็วแทบทั้งนั้น ยกเว้นคุณนายอากิโกะคนเดียวที่พบศพหลังตาย 20 ชั่วโมง ดังนั้นเวลาตายที่ทางเราสันนิษฐานจึงค่อนข้างตรงกับความเป็นจริง แต่ก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ”
“ประเด็นคุณชิงูซะที่ถูกเอาผ้าคลุมหัวล่ะครับ ได้ความว่าอย่างไรบ้าง”
“เรื่องคุณชิงูซะหรือครับ ผ้าผืนนั้นเป็นผ้าสำหรับห่อของสีน้ำเงินของคุณชิงูซะเอง พับครึ่งเป็นรูปสามเหลี่ยมผูกคาดหน้าผาก ทิ้งผืนผ้าสามเหลี่ยมลงมาปิดหน้าและยาวลงไปถึงหน้าอก คนร้ายเอาเชือกรัดคอเธอทับลงไปบนผืนผ้านั้นจนขาดใจตายครับ”
“อย่างนี้สารวัตรจะให้ผมคิดว่า คุณชิงูซะกับฆาตกรเป็นคนที่สนิทสนมกันมาก อาจชวนกันเล่นซ่อนหาเอาผ้าผูกตา แลัวก็อีกฝ่ายก็เอาเชือดรัดคอเธอตายอย่างนั้นหรือครับ”
“ใช่ครับ คือมองว่าคุณชิงูซะอาจยอมเป็นคนหาก่อนและก็เอาผ้าผูกตาตัวเอง"
ปิก้าที่นั่งฟังอยู่นานส่งเสียงดังสอดขึ้นมาอย่างไร้มารยาท
“อย่างนี้มากกว่ามั๊ง พอเจ้าหล่อนเอาผ้าผูกตา อีกคนหนึ่งที่เป็นปีศาจตัวจริงอีก็เข้ามารัดคอหล่อนจนตาย”
ทนายคามิยามะแทบจะหัวเราะออกมาดัง ๆ
“คุณคิดว่าเป็นไปได้รึ ที่คนอายุขนาดคุณชิงูซะจะอุตส่าห์ขึ้นไปเล่นซ่อนหาถึงภูเขามิวะ”
“มันก็ทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้แหละคุณ”
ปิก้าเย้ย แล้วพูดต่อด้วยเสียงจริงจังขึ้น
“ผู้หญิงขี้ริ้วงี่เง่าอย่างมิชิงูซะกับกวีหลังค่อมคงทำอะไรที่เข้าท่ากับเขาไม่เป็นหรอก จะให้กอดกันจูบกันอย่างคู่รักคน อื่น ๆ คงไม่มีปัญญา ถ้าบอกว่าเล่นซ่อนหากันก็พอจะเชื่อได้มากกว่า เอาเป็นว่าสองคนนั่นเล่นซ่อนหากันอยู่ ทีนี้หมอเอบิสึมาจากไหนไม่รู้เข้ามาซุ่มคอยจังหวะอยู่ และตรงนี้แหละที่ปีศาจตัวจริงเข้ามาฆ่ารัดคอคุณชิงูซะ เป็นไงถึงจะเป็นคำสันนิษฐานแต่ก็ดูจริงจังมากใช่ไหม การฆาตกรรมนี่บางทีก็คล้ายกับศิลปะการแสดงที่น่าติดตามชมไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะครับสารวัตร”
สารวัตรเหยี่ยวหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“ผมต้องขอเปิดหมวกด้วยความเคารพให้แก่ไหวพริบและจินตนาการของศิลปิน นาน ๆ ท่านถึงจะแสดงพลังเหนือธรรมชาติให้ได้ชมได้ฟังกันสักที สิ่งที่ท่านคิดอาจเป็นจริงก็ได้ใครจะรู้ เอาละครับผมอยากจะขอยืมพลังศิลปะเหนือของท่านทั้งหลายช่วยถอดรหัสคดีกันสักนิด เรื่องมีอยู่ว่าเราพบลูกกะพรวนลูกหนึ่งตกอยู่ใต้เตียงนอนของคุณวานิผู้ตาย และรู้ว่าเป็นลูกกระพรวนที่หลุดจากรองเท้าแตะใส่ในบ้านของคุณนายอายากะครับ”
“ใช่แล้วคุณตำรวจ เรื่องนี้เลยครับ จะว่ายังไง ทุกอย่างชัดเจนออกอย่างนี้”
ปิก้าตะโกนเสียงลั่นห้อง ดวงตาวาวเป็นประกาย
คุณนายอายากะตกใจกลัว เบิกตาโตจ้องไปที่สาวัตร
“สารวัตรค่ะ ตั้งแต่มาถึงคฤหาสน์แห่งนี้ ดิฉันยังไม่เคยเข้าไปในห้องส่วนตัวของคุณวานิเลยแม้แต่ครั้งเดียวนะคะ”
“แหม นางจิ้งจอกตัวนี้พูดอะไรแต่ละทีมันช่างน่านับถือไปหมด” ปิก้าทำเสียงเย้ยหยันอดีตภรรยา
“ถ้าจะแก้ตัวละก็พอแค่นี้เลย ใคร ๆ เขาตกใจกันจะแย่แล้ว ตั้งแต่มาถึงคฤหาสน์แห่งนี้ยังไม่ได้เหยียบเข้าไปเลย ชะ...พูดออกมาได้ ราวกับว่าบ้านหลังนี้มันใหญ่โตมโหฬารมีห้องหับมากมายเหมือนฮาเร็มของตุรกีหรือว่าอินเดีย หล่อนถึงได้เดินไปไม่ถึง ที่แท้มันก็แค่บ้านแฝดสองหลังมีคนมาอยู่สักสิบคนก็เต็มแล้ว ไม่รู้อะไรในโลกกว้างแล้วอย่าพูดดีกว่า บ้านขนาดนี้มันก็แค่ห้องนอนกลางวันของคนครัวในฮาเร็มเท่านั้นแหละนะจะบอกให้ บ้านขนาดนี้ยุงที่ขยันหน่อยยังบินดูเลือดคนได้ครบทุกห้องเลย อย่ามาตบตาใคร ๆ เลยไม่สำเร็จหรอก”
ดวงตาคู่งามของคุณนายอายากะที่จ้องจับไปที่ปิก้าลุกโชนด้วยความโกรธเกรี้ยว
สารวัตรเหยี่ยวพยักหน้าและสอดขึ้นว่า
“คุณนายพูดถูกครับ คุณนายไม่ได้เป็นคนทำกระพรวนลูกนั้นตกไว้ในห้องคุณวานิ ทำไมหรือครับ ก็เพราะมีคนเอาเสื้อนอกของคุณวานิเช็ดใต้เตียงของเขา และลูกกระพรวนลูกหนึ่งตกอยู่บนนั้น”
คราวนี้ทนายคามิยามะพยักหน้าและพูดขึ้นว่า
“เรื่องนี้เป็นปริศนาลึกลับมากครับ ฆาตกรมีเหตุผลอะไรถึงต้องวางลูกกระพรวนของคุณนายอายากะเอาไว้ก่อนออกไปจากที่เกิดเหตุ”
“ครับเรื่องลูกกระพรวนก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่ผมอยากขอยืมพลังเหนือธรรมชาติของพวกท่านมาช่วยคิดก็คือทำไมถึงต้องเช็ดใต้เตียง และเช็ดอะไร”
ไม่มีใครตอบ สารวัตรเหยี่ยวคอยฟังอย่างอดทน แต่ก็ไม่มีใครตอบ
“เอาละครับ ผมยังมีอีกโจทย์หนึ่งคราวนี้ไม่ต้องใช้พลังเหนือธรรมชาติ แต่อยากขอคำแนะนำจากท่านทั้งหลายในประเด็นปัญหาพูดไปอาจเป็นการลบหลู่ดูหมิ่น แต่งานก็ต้องเป็นงาน เรื่องนี้ผมจริงจังมากครับและอยากขอความร่วมมือจากทุกท่าน คดีที่เกิดขึ้นในแวดวงของพวกท่านครั้งนี้มีบางคดีที่เกิดจากการลอบนัดพบ และคดีที่คุณนายอากิโกะไปพบจุดจบบนภูเขามิยามะก็เช่นกัน มีหลักฐานหลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการลอบนัดพบเช่นกัน และถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเราก็มาถึงคำถามที่ว่าคู่นัดของคุณนายคือใคร ท่านผู้ใดมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ช่วยบอกเราด้วย ไม่ต้องที่นี่ก็ได้ครับ”
ปิก้าขวางโลกตามเคย
“ก็คงอย่างที่สารวัตรคิดนั่นแหละ ถ้าไม่มีอะไรคุณนายคนนี้คงไม่อุตส่าห์เดินป่าเดินเขาไปถึงที่นั่นหรอก ถามมาเถอะครับสารวัตรไม่ต้องคิดหรอกว่าจะเป็นการลบหลู่หรืออะไร ผมเห็นสารวัตรสืบได้สืบดีแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เจาะลึกเข้าไปถึงอุปนิสัยใจคอของผู้คนเลยว่าลึกล้ำเลิศเลอแค่ไหน สารวัตรจึงไม่รู้หรอกว่าคุณนายอากิโกะเป็นยอดหญิง เป็นสุภาพสตรีที่ควรแก่การรักเคารพและยกย่องเพียงไร ทั้งยังเป็นคนที่บูชาความรักความใคร่อย่างสูงส่งด้วย คนที่ฆ่าคุณนายคนงามทั้งยังมีอารมณ์ความรู้สึกเช่นนั้นได้ลงคอนั้น จะต้องเป็นอมนุษย์ใจทรามแน่นอน แต่ว่าสุภาพสตรีอย่างคุณนายคงไม่ถูกคู่นัดฆ่าหรอกครับ เพราะแวบเดียวเธอก็เปลี่ยนชายที่เป็นคู่เชยคนใหม่แล้ว ก็ประมาณว่าฉาบฉวยไปเรื่อย ๆ ก็ไม่เลวนักหรอกครับ”
“อะ ฮะ ฮะ” “ ทนายคามิยามะหัวเราะออกมาหลังจากกลั้นไว้นานแล้ว
“ท่านปิก้าจิตรกรเอกพูดได้เด็ดมาก แต่ดูเหมือนจะเป็นความรู้สึกที่กลั่นกรองออกมาจากใจตนเป็นใหญ่นะครับ แต่การที่ผู้ชายคนหนึ่งจะฆ่าผู้หญิงได้นั้นไม่ได้อยู่ที่ความหึงหวงหรือคิดว่านอกใจตนเองเสมอไปหรอกนะครับ แต่ความช้ำใจจากการที่เรารักแทบตายแต่ผู้หญิงเขาไม่ใยดีก็ทำให้แค้นจนต้องฆ่าได้เหมือนกัน ฟังที่ท่านปิก้าบอกว่าคุณนายคบกับชายคนนี้อยู่ได้ไม่ทันไรก็เปลี่ยนไปเป็นชายอื่นแล้ว ทำให้คิดว่านั่นคือเหตุหนึ่งที่จูงใจให้ใครคนหนึ่งฆ่าเธอ การถูกฆ่าด้วยเหตุผลเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ ผมว่าท่านปิก้าออกจะใจร้ายไปสักหน่อยที่คิดโดยเอาตนเองเป็นที่ตั้ง”
“ไม่ต้องคิดอะไรมากคุณทนาย ผมแค่อยากจะบอกว่า คู่นัดของคุณนายไม่ใช่คนฆ่าเธอเท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้น ก็หมายความว่าท่านปิก้าอาจเป็นคู่นัดของคุณนายก็ได้ใช่ไหม”
ทนายคามิยามะพูดพลางหัวเราะชอบใจ
“แต่จะนัดกันทั้งทีทำไมต้องไปที่ป่าเขาด้วยล่ะครับ ไปที่ห้องนอนของผู้ชายก็ได้ไม่ใช่รึ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นซิครับ สารวัตรก็รู้ดีอยู่แล้วว่าคนในคฤหาสน์แห่งนี้ไปไหนมาไหนได้อย่าอิสรเสรีเสียเมื่อไร ตรงนั้นก็มีตำรวจเฝ้าระวังอยู่ตรงนี้ก็มีตำรวจยืนยาม การที่จะไปห้องคนนั้นสักหน่อยคนนี้สักนิดมันไม่ได้ครับ แต่ตำรวจคิดว่าคุณนายออกไปที่ภูเขาเพราะนัดพบกับใครสักคนแน่หรือครับ มีหลักฐานยืนยันแน่นะ”
สารวัตรเหยี่ยวทำหน้าเขิน ๆ เมื่อถูกทนายคามิยามะถาม
“คือ เราพบของที่ผู้หญิงเตรียมไว้ใช้เฉพาะเวลานัดพบกันลับ ๆ ในกระเป๋าถือของคุณนายอากิโกะครับ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าคุณนายจะพกของแบบนั้นติดตัวตลอดทั้งปีหรือเปล่า”
“นั่นมันเป็นความสนุกของผู้หญิงเขา คงไม่มีอะไรสนุกไปกว่านั้นละมัง ผมถึงได้บอกไงว่าสารวัตรน่ะดีแต่สืบสวน แต่ไม่ได้รู้ลุกถึงธรรมชาติของมนุษย์เอาเลย”
“ขอโทษครับ” สารวัตรยิ้มพลางก้มศีรษะให้ปิก้า
เมื่อเสร็จจากการรับประทานอาหารทุกคนก็ทยอยกันเข้าไปที่ห้องใหญ่
ที่เสากลางห้องมีกระดาษแผ่นหนึ่งติดอยู่
“เอ๊ะ นั่นอะไร”
นายทังโงะเป็นคนพบก่อนใคร
“วันที่ 9 สิงหาคม วันแห่งชะตากรรม อีกแล้วรึ ระยะนี้ดูเหมือนจะเป็นโปสเตอร์ยอดนิยม”
นายทังโงะพูดติดตลก แต่ทุกคนตกอกตกใจไปตาม ๆ กัน
คาซูมะหน้าเปลี่ยนสี ยืนตะลึงจ้องมองแผ่นกระดาษอยู่อย่างนั้น ระหว่างที่หมอเอบิสึกะถูกตำรวจจับไปคาซูมะคงจะโล่งใจอยู่ลึก ๆ แต่พอมาเห็นกระดาษแผนนี้เข้าความวิตกกังวลก็พลุ่งขึ้นมาอีก หวาดระแวงถึงกับว่าวิญญาณของหมอเอบิสึกะเอากระดาษแผ่นนี้เข้ามาปิดไว้ในห้องใหญ่ และกลั้นหายใจซุ่มดูลาดเลาอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
ผมเหลือบไปเห็นสารวัตรเหยี่ยวพุ่งสายตาคมกริบของเขาไปจับจ้องที่ใบหน้าของแต่ละคนราวจะเจาะลึกเข้าไปถึงหัวใจ
[ตัวละครในเรื่องที่ตายไปแล้ว 7 คน]
วานิ โมจิซึกิ แขกรับเชิญของทามาโอะ
อูตางาวะ ทามาโอะ ลูกสาวอุตางาวะ ทามอน น้องของคาซุมะ
อากิระ อุตสึมิ กวีหลังค่อมแขกรับเชิญของทามาโอะ
ชิงูซะ หญิงขี้ริ้วลูกสาวนางยูระ นางุโมะ อาของคาซุมะ
คาโยโกะลูกสาวอุตางาวะ ทามอนเกิดจากหญิงรับใช้
อูตางาวะ ทามอน
อุตสึงิ อากิโกะนักประพันธ์สตรีอดีตภรรยาของคาซูมะ อยู่กับโมคูเบ
ปรมาจารย์แห่งความลึกลับของฆาตกรรมปริศนา
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์
สงครามเพิ่งสงบ สังคมนครหลวงสมัยโชวะพยายามดิ้นรนกลับสู่ยุคทองในอดีตที่ไม่ใช่ว่าไกลโพ้น
ไม่เคยมีเสียดีกว่า ต้องสูญเสียไปแล้วอยากได้คืน...
คืนวันที่ 8 สิงหาคมจวนเจียนจะถึงวันแห่งชะตากรรมจนแทบจะต้องนับถอยหลังกันอยู่แล้วแต่ดอกเตอร์โคเซก็ยังไม่กลับมา 9 สิงหาคมวันแห่งชะตากรรมจะย่างกรายเข้ามาเมื่อนาฬิกาตีบอกเวลาสองยาม นักสืบอาตาพินตำรวจหญิงสมองใสนั่งเบิ่งตาวาวเป็นประกายยึดเอาห้องกินข้าวเป็นที่ตั้งมั่นด้วยความอดทน
ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ในห้องกินข้าว ห้องทุกห้องที่เรียงรายอยู่สองฟากระเบียงทางเดินชั้นบนจึงไม่มีใครอยู่ นักสืบจมูกมดกับนักสืบคิดลึกยืนเฝ้าระวังอยู่ที่ปลายสุดระเบียงทางเดินคนละด้าน บรรยากาศตึงเครียดครอบคลุมไปทั่วบริเวณคฤหาสน์อุตางาวะ เมื่อตำรวจระดมกำลังมาคุ้มครองคฤหาสน์เตรียมรับมือสถานการณ์ในวันแห่งชะตากรรมกันอย่างเข้มแข็งเต็มที่
สารวัตรเหยี่ยวมาร่วมรับประทานอาหารค่ำด้วย
“สองทุ่มวันที่ 8 สิงหาคม เลขแปดหมดเลยครับ ช่วงสงครามใคร ๆ พูดกันถึงเลขแปดว่าเป็นเลขนำโชค นำความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งจะเข้าใจได้ถ้าดูจากตัวคันจิที่ด้านบนแคบและด้านล่างขยายกว้างออกเหมือนภูเขาฟูจิ แต่สำหรับตำรวจแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ มันหมายถึงคดีที่บานปลายโดยเฉพาะคดีทั้งหมดที่คฤหาสน์นี้นี่ใช่เลย บานปลายเสียจนตำรวจอย่างเราเอาไม่อยู่น่าอดสูจริง ๆ
ตอนนั้นเองที่มีโทรศัพท์เข้ามาสถานีตำรวจ สารวัตรเหยี่ยวออกไปรับแล้วกลับเข้ามารายงานว่า
“ท่าทางจะไปกันใหญ่แล้วครับทุกท่าน ตำรวจที่สถานีรายงานมาว่าหมอเอบิสึกะลุกขึ้นมาพล่ามเสียงดังเอะอะอยู่ในห้องขัง บอกว่าคืนนี้พระเจ้าจะดลบันดาลให้เกิดการตายหมู่ขึ้นที่คฤหาสน์นี้ และวิญญาณของหมอเองก็จะมาที่นี่ ตอนนี้อาจจะมาสิงอยู่ตามซอกมุมแถวนี้แล้วก็ได้ นั่นก็เรื่องหนึ่ง ส่วนคุณโมโรอินางพยาบาลที่ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลประจำจังหวัดนั้นตอนนี้อาการทรุดหนักลงมาจนหมอบอกว่าอาจหมดหวัง แต่ก็พยายามกันทุกวิถีทางที่จะช่วยชีวิตเอาไว้ ทางเราก็เหมือนกันถ้าเธอเกิดตายขึ้นมาเป็นต้องวุ่นกันใหญ่ มีรายงานว่าคุณผู้หญิงคนนี้จิตใจแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด ไม่มีใครเคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน ขนาดหมดสติอย่างนั้นก็ยังควบคุมตัวเองได้ไม่ให้ปริปากละเมออะไรออกมาสักคำเดียว”
คดีนี้จะยังไม่จบลงง่าย ๆ หรือยังไง ผมมองหน้าคาซูมะ ดูเขากระสับกระส่ายเหมือนจะเริ่มวิตกจริตขึ้นมาอีกครั้ง
วันนี้เป็นวันที่ 27 นับจากวันที่ท่านทามอนกับคุณคาโยโกะถูกฆาตกรรม และวันพรุ่งนี้คือวันครบรอบ 1 ปีการตายของคุณนายคาจิโกะ ตามปกติแล้วจะต้องจัดพิธีทำบุญใหญ่และนิมนต์พระมาสวด แต่เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกทั้งเป็นวันที่เป็นต้นตอของปัญหา ถึงงานขึ้นคนที่มาร่วมวงสมาคมอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะร่วมงานบุญด้วยแน่ จึงตกลงให้เลื่อนไปจัดปีหน้า ส่วนครั้งนี้ทำแค่นิมนต์พระมาสวดเท่านั้น
ทนายคามิยามะหันไปทางสารวัตรเหยี่ยว
“จริงครับผมเห็นด้วย นางพยาบาลคนนี้ผมว่ามีแววเป็นฆาตกรตัวยงคนหนึ่งเลยทีเดียว อย่างแรก ดูตาหล่อนซิครับ คือมันจะเหลือบขึ้นสูงจนเห็นตาขาวข้างล่างอยู่ตลอด น่ากลัวจนขนหัวลุก มองนาน ๆ ไม่ได้เลยครับ ว่าแต่สารวัตรครับ จะมีอะไรเกิดขึ้นในวันที่ 9 สิงหาจริง ๆ หรือครับ”
“เอ ถ้าผมรู้ก็คงจัดการเรียบร้อยไปแล้วละครับ และอีกอย่าง ตำรวจก็ไม่ได้มีตาทิพย์หรือสื่อสารกับเทพเจ้าได้เหมือนหมอเอบิสึกะเสียด้วย ในส่วนตัวของคุณทนายเอง ผมเห็นขยันสืบนั่นสืบนี่ละเอียดลอออยู่ไม่น้อย ตาสมองเห็นอะไรดี ๆ บ้างไหม ขอให้ผมได้ฟังความคิดเห็นบ้าง มีอะไรมากน้อยยังไงพูดได้เลยไม่ต้องเกรงใจครับ”
“ผมต่างหากที่ต้องถาม ผมมีเรื่องอยากถามสารวัตรอย่างหนึ่งคือเวลาที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นเวลาที่ฆาตกรลงมือฆ่านั้นจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไรกันแน่ เป็นจริงตามคำสันนิษฐานไหมครับ”
“เรื่องนี้ ในเบื้องต้นสามารถตอบได้ว่าน่าจะตรงกับความเป็นจริง แต่จะให้บอกว่าจริงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์คงไม่ได้ ยังโชคดีนะครับที่เกิดเหตุฆาตกรรมถึง 7 คดีแต่พบศพเร็วแทบทั้งนั้น ยกเว้นคุณนายอากิโกะคนเดียวที่พบศพหลังตาย 20 ชั่วโมง ดังนั้นเวลาตายที่ทางเราสันนิษฐานจึงค่อนข้างตรงกับความเป็นจริง แต่ก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ”
“ประเด็นคุณชิงูซะที่ถูกเอาผ้าคลุมหัวล่ะครับ ได้ความว่าอย่างไรบ้าง”
“เรื่องคุณชิงูซะหรือครับ ผ้าผืนนั้นเป็นผ้าสำหรับห่อของสีน้ำเงินของคุณชิงูซะเอง พับครึ่งเป็นรูปสามเหลี่ยมผูกคาดหน้าผาก ทิ้งผืนผ้าสามเหลี่ยมลงมาปิดหน้าและยาวลงไปถึงหน้าอก คนร้ายเอาเชือกรัดคอเธอทับลงไปบนผืนผ้านั้นจนขาดใจตายครับ”
“อย่างนี้สารวัตรจะให้ผมคิดว่า คุณชิงูซะกับฆาตกรเป็นคนที่สนิทสนมกันมาก อาจชวนกันเล่นซ่อนหาเอาผ้าผูกตา แลัวก็อีกฝ่ายก็เอาเชือดรัดคอเธอตายอย่างนั้นหรือครับ”
“ใช่ครับ คือมองว่าคุณชิงูซะอาจยอมเป็นคนหาก่อนและก็เอาผ้าผูกตาตัวเอง"
ปิก้าที่นั่งฟังอยู่นานส่งเสียงดังสอดขึ้นมาอย่างไร้มารยาท
“อย่างนี้มากกว่ามั๊ง พอเจ้าหล่อนเอาผ้าผูกตา อีกคนหนึ่งที่เป็นปีศาจตัวจริงอีก็เข้ามารัดคอหล่อนจนตาย”
ทนายคามิยามะแทบจะหัวเราะออกมาดัง ๆ
“คุณคิดว่าเป็นไปได้รึ ที่คนอายุขนาดคุณชิงูซะจะอุตส่าห์ขึ้นไปเล่นซ่อนหาถึงภูเขามิวะ”
“มันก็ทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้แหละคุณ”
ปิก้าเย้ย แล้วพูดต่อด้วยเสียงจริงจังขึ้น
“ผู้หญิงขี้ริ้วงี่เง่าอย่างมิชิงูซะกับกวีหลังค่อมคงทำอะไรที่เข้าท่ากับเขาไม่เป็นหรอก จะให้กอดกันจูบกันอย่างคู่รักคน อื่น ๆ คงไม่มีปัญญา ถ้าบอกว่าเล่นซ่อนหากันก็พอจะเชื่อได้มากกว่า เอาเป็นว่าสองคนนั่นเล่นซ่อนหากันอยู่ ทีนี้หมอเอบิสึมาจากไหนไม่รู้เข้ามาซุ่มคอยจังหวะอยู่ และตรงนี้แหละที่ปีศาจตัวจริงเข้ามาฆ่ารัดคอคุณชิงูซะ เป็นไงถึงจะเป็นคำสันนิษฐานแต่ก็ดูจริงจังมากใช่ไหม การฆาตกรรมนี่บางทีก็คล้ายกับศิลปะการแสดงที่น่าติดตามชมไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะครับสารวัตร”
สารวัตรเหยี่ยวหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“ผมต้องขอเปิดหมวกด้วยความเคารพให้แก่ไหวพริบและจินตนาการของศิลปิน นาน ๆ ท่านถึงจะแสดงพลังเหนือธรรมชาติให้ได้ชมได้ฟังกันสักที สิ่งที่ท่านคิดอาจเป็นจริงก็ได้ใครจะรู้ เอาละครับผมอยากจะขอยืมพลังศิลปะเหนือของท่านทั้งหลายช่วยถอดรหัสคดีกันสักนิด เรื่องมีอยู่ว่าเราพบลูกกะพรวนลูกหนึ่งตกอยู่ใต้เตียงนอนของคุณวานิผู้ตาย และรู้ว่าเป็นลูกกระพรวนที่หลุดจากรองเท้าแตะใส่ในบ้านของคุณนายอายากะครับ”
“ใช่แล้วคุณตำรวจ เรื่องนี้เลยครับ จะว่ายังไง ทุกอย่างชัดเจนออกอย่างนี้”
ปิก้าตะโกนเสียงลั่นห้อง ดวงตาวาวเป็นประกาย
คุณนายอายากะตกใจกลัว เบิกตาโตจ้องไปที่สาวัตร
“สารวัตรค่ะ ตั้งแต่มาถึงคฤหาสน์แห่งนี้ ดิฉันยังไม่เคยเข้าไปในห้องส่วนตัวของคุณวานิเลยแม้แต่ครั้งเดียวนะคะ”
“แหม นางจิ้งจอกตัวนี้พูดอะไรแต่ละทีมันช่างน่านับถือไปหมด” ปิก้าทำเสียงเย้ยหยันอดีตภรรยา
“ถ้าจะแก้ตัวละก็พอแค่นี้เลย ใคร ๆ เขาตกใจกันจะแย่แล้ว ตั้งแต่มาถึงคฤหาสน์แห่งนี้ยังไม่ได้เหยียบเข้าไปเลย ชะ...พูดออกมาได้ ราวกับว่าบ้านหลังนี้มันใหญ่โตมโหฬารมีห้องหับมากมายเหมือนฮาเร็มของตุรกีหรือว่าอินเดีย หล่อนถึงได้เดินไปไม่ถึง ที่แท้มันก็แค่บ้านแฝดสองหลังมีคนมาอยู่สักสิบคนก็เต็มแล้ว ไม่รู้อะไรในโลกกว้างแล้วอย่าพูดดีกว่า บ้านขนาดนี้มันก็แค่ห้องนอนกลางวันของคนครัวในฮาเร็มเท่านั้นแหละนะจะบอกให้ บ้านขนาดนี้ยุงที่ขยันหน่อยยังบินดูเลือดคนได้ครบทุกห้องเลย อย่ามาตบตาใคร ๆ เลยไม่สำเร็จหรอก”
ดวงตาคู่งามของคุณนายอายากะที่จ้องจับไปที่ปิก้าลุกโชนด้วยความโกรธเกรี้ยว
สารวัตรเหยี่ยวพยักหน้าและสอดขึ้นว่า
“คุณนายพูดถูกครับ คุณนายไม่ได้เป็นคนทำกระพรวนลูกนั้นตกไว้ในห้องคุณวานิ ทำไมหรือครับ ก็เพราะมีคนเอาเสื้อนอกของคุณวานิเช็ดใต้เตียงของเขา และลูกกระพรวนลูกหนึ่งตกอยู่บนนั้น”
คราวนี้ทนายคามิยามะพยักหน้าและพูดขึ้นว่า
“เรื่องนี้เป็นปริศนาลึกลับมากครับ ฆาตกรมีเหตุผลอะไรถึงต้องวางลูกกระพรวนของคุณนายอายากะเอาไว้ก่อนออกไปจากที่เกิดเหตุ”
“ครับเรื่องลูกกระพรวนก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่ผมอยากขอยืมพลังเหนือธรรมชาติของพวกท่านมาช่วยคิดก็คือทำไมถึงต้องเช็ดใต้เตียง และเช็ดอะไร”
ไม่มีใครตอบ สารวัตรเหยี่ยวคอยฟังอย่างอดทน แต่ก็ไม่มีใครตอบ
“เอาละครับ ผมยังมีอีกโจทย์หนึ่งคราวนี้ไม่ต้องใช้พลังเหนือธรรมชาติ แต่อยากขอคำแนะนำจากท่านทั้งหลายในประเด็นปัญหาพูดไปอาจเป็นการลบหลู่ดูหมิ่น แต่งานก็ต้องเป็นงาน เรื่องนี้ผมจริงจังมากครับและอยากขอความร่วมมือจากทุกท่าน คดีที่เกิดขึ้นในแวดวงของพวกท่านครั้งนี้มีบางคดีที่เกิดจากการลอบนัดพบ และคดีที่คุณนายอากิโกะไปพบจุดจบบนภูเขามิยามะก็เช่นกัน มีหลักฐานหลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการลอบนัดพบเช่นกัน และถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเราก็มาถึงคำถามที่ว่าคู่นัดของคุณนายคือใคร ท่านผู้ใดมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ช่วยบอกเราด้วย ไม่ต้องที่นี่ก็ได้ครับ”
ปิก้าขวางโลกตามเคย
“ก็คงอย่างที่สารวัตรคิดนั่นแหละ ถ้าไม่มีอะไรคุณนายคนนี้คงไม่อุตส่าห์เดินป่าเดินเขาไปถึงที่นั่นหรอก ถามมาเถอะครับสารวัตรไม่ต้องคิดหรอกว่าจะเป็นการลบหลู่หรืออะไร ผมเห็นสารวัตรสืบได้สืบดีแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เจาะลึกเข้าไปถึงอุปนิสัยใจคอของผู้คนเลยว่าลึกล้ำเลิศเลอแค่ไหน สารวัตรจึงไม่รู้หรอกว่าคุณนายอากิโกะเป็นยอดหญิง เป็นสุภาพสตรีที่ควรแก่การรักเคารพและยกย่องเพียงไร ทั้งยังเป็นคนที่บูชาความรักความใคร่อย่างสูงส่งด้วย คนที่ฆ่าคุณนายคนงามทั้งยังมีอารมณ์ความรู้สึกเช่นนั้นได้ลงคอนั้น จะต้องเป็นอมนุษย์ใจทรามแน่นอน แต่ว่าสุภาพสตรีอย่างคุณนายคงไม่ถูกคู่นัดฆ่าหรอกครับ เพราะแวบเดียวเธอก็เปลี่ยนชายที่เป็นคู่เชยคนใหม่แล้ว ก็ประมาณว่าฉาบฉวยไปเรื่อย ๆ ก็ไม่เลวนักหรอกครับ”
“อะ ฮะ ฮะ” “ ทนายคามิยามะหัวเราะออกมาหลังจากกลั้นไว้นานแล้ว
“ท่านปิก้าจิตรกรเอกพูดได้เด็ดมาก แต่ดูเหมือนจะเป็นความรู้สึกที่กลั่นกรองออกมาจากใจตนเป็นใหญ่นะครับ แต่การที่ผู้ชายคนหนึ่งจะฆ่าผู้หญิงได้นั้นไม่ได้อยู่ที่ความหึงหวงหรือคิดว่านอกใจตนเองเสมอไปหรอกนะครับ แต่ความช้ำใจจากการที่เรารักแทบตายแต่ผู้หญิงเขาไม่ใยดีก็ทำให้แค้นจนต้องฆ่าได้เหมือนกัน ฟังที่ท่านปิก้าบอกว่าคุณนายคบกับชายคนนี้อยู่ได้ไม่ทันไรก็เปลี่ยนไปเป็นชายอื่นแล้ว ทำให้คิดว่านั่นคือเหตุหนึ่งที่จูงใจให้ใครคนหนึ่งฆ่าเธอ การถูกฆ่าด้วยเหตุผลเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ ผมว่าท่านปิก้าออกจะใจร้ายไปสักหน่อยที่คิดโดยเอาตนเองเป็นที่ตั้ง”
“ไม่ต้องคิดอะไรมากคุณทนาย ผมแค่อยากจะบอกว่า คู่นัดของคุณนายไม่ใช่คนฆ่าเธอเท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้น ก็หมายความว่าท่านปิก้าอาจเป็นคู่นัดของคุณนายก็ได้ใช่ไหม”
ทนายคามิยามะพูดพลางหัวเราะชอบใจ
“แต่จะนัดกันทั้งทีทำไมต้องไปที่ป่าเขาด้วยล่ะครับ ไปที่ห้องนอนของผู้ชายก็ได้ไม่ใช่รึ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นซิครับ สารวัตรก็รู้ดีอยู่แล้วว่าคนในคฤหาสน์แห่งนี้ไปไหนมาไหนได้อย่าอิสรเสรีเสียเมื่อไร ตรงนั้นก็มีตำรวจเฝ้าระวังอยู่ตรงนี้ก็มีตำรวจยืนยาม การที่จะไปห้องคนนั้นสักหน่อยคนนี้สักนิดมันไม่ได้ครับ แต่ตำรวจคิดว่าคุณนายออกไปที่ภูเขาเพราะนัดพบกับใครสักคนแน่หรือครับ มีหลักฐานยืนยันแน่นะ”
สารวัตรเหยี่ยวทำหน้าเขิน ๆ เมื่อถูกทนายคามิยามะถาม
“คือ เราพบของที่ผู้หญิงเตรียมไว้ใช้เฉพาะเวลานัดพบกันลับ ๆ ในกระเป๋าถือของคุณนายอากิโกะครับ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าคุณนายจะพกของแบบนั้นติดตัวตลอดทั้งปีหรือเปล่า”
“นั่นมันเป็นความสนุกของผู้หญิงเขา คงไม่มีอะไรสนุกไปกว่านั้นละมัง ผมถึงได้บอกไงว่าสารวัตรน่ะดีแต่สืบสวน แต่ไม่ได้รู้ลุกถึงธรรมชาติของมนุษย์เอาเลย”
“ขอโทษครับ” สารวัตรยิ้มพลางก้มศีรษะให้ปิก้า
เมื่อเสร็จจากการรับประทานอาหารทุกคนก็ทยอยกันเข้าไปที่ห้องใหญ่
ที่เสากลางห้องมีกระดาษแผ่นหนึ่งติดอยู่
“เอ๊ะ นั่นอะไร”
นายทังโงะเป็นคนพบก่อนใคร
“วันที่ 9 สิงหาคม วันแห่งชะตากรรม อีกแล้วรึ ระยะนี้ดูเหมือนจะเป็นโปสเตอร์ยอดนิยม”
นายทังโงะพูดติดตลก แต่ทุกคนตกอกตกใจไปตาม ๆ กัน
คาซูมะหน้าเปลี่ยนสี ยืนตะลึงจ้องมองแผ่นกระดาษอยู่อย่างนั้น ระหว่างที่หมอเอบิสึกะถูกตำรวจจับไปคาซูมะคงจะโล่งใจอยู่ลึก ๆ แต่พอมาเห็นกระดาษแผนนี้เข้าความวิตกกังวลก็พลุ่งขึ้นมาอีก หวาดระแวงถึงกับว่าวิญญาณของหมอเอบิสึกะเอากระดาษแผ่นนี้เข้ามาปิดไว้ในห้องใหญ่ และกลั้นหายใจซุ่มดูลาดเลาอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
ผมเหลือบไปเห็นสารวัตรเหยี่ยวพุ่งสายตาคมกริบของเขาไปจับจ้องที่ใบหน้าของแต่ละคนราวจะเจาะลึกเข้าไปถึงหัวใจ
[ตัวละครในเรื่องที่ตายไปแล้ว 7 คน]
วานิ โมจิซึกิ แขกรับเชิญของทามาโอะ
อูตางาวะ ทามาโอะ ลูกสาวอุตางาวะ ทามอน น้องของคาซุมะ
อากิระ อุตสึมิ กวีหลังค่อมแขกรับเชิญของทามาโอะ
ชิงูซะ หญิงขี้ริ้วลูกสาวนางยูระ นางุโมะ อาของคาซุมะ
คาโยโกะลูกสาวอุตางาวะ ทามอนเกิดจากหญิงรับใช้
อูตางาวะ ทามอน
อุตสึงิ อากิโกะนักประพันธ์สตรีอดีตภรรยาของคาซูมะ อยู่กับโมคูเบ