สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว ผมคิดว่ายังมีเรื่องที่คนต่างประเทศโดยเฉพาะชาวฝรั่งตะวันตก มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับญี่ปุ่นอีกหลายเรื่อง เช่นเรื่องที่เข้าใจกันว่าคนญี่ปุ่นสามารถปล่อยพลังได้แบบการ์ตูนมังงะแอ็คชั่นที่ปล่อยพลังตูมๆ การปล่อยพลังแบบเกมส์ เราเรียกว่า ฮาโดเคน 波動拳 ที่เป็นคลื่นพลังที่มีในเกือบทุกเกมส์ที่มีการต่อสู้ เกมส์เกี่ยวกับนักรบต่างๆ ซึ่งความเข้าใจผิดที่ว่านี้คงคล้ายๆ กับเรื่องที่มีคนต่างชาติบางคนยังคิดว่าคนไทยขี่ช้างไปโรงเรียน ไปทำงาน ขี่ช้างในชีวิตประจำวัน แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบที่เขาเข้าใจ
และคนต่างชาตินั้นก็ยังคิดว่าคนญี่ปุ่นทำได้เหมือนตัวเอกเรื่องฤทธิ์หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ Hokuto no Ken (北斗の拳 Hokuto no Ken) การ์ตูนญี่ปุ่นแนวต่อสู้เรื่องฤทธิ์หมัดเทพเจ้าดาวเหนือนี้ มีเคนชิโร่ หนุ่มผู้มีคุณสมบัติที่สืบต่อและกอบกู้โลกด้วย "หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ Hokutoshinken" ว่ากันว่าเป็นเพลงหมัดที่สามารถทะลวงจุดตายของคู่ต่อสู้ได้และทำให้ร่างกายระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ในพริบตา นี่เป็นงานเขียนครับเป็นการจินตนาการออกมาในรูปแบบงานเขียนการ์ตูน
พอบอกความจริงว่าคนญี่ปุ่นไม่สามารถที่จะต่อยได้แบบหมัดเทพเจ้าดาวเหนือหรือปล่อยพลังคลื่นเต่าได้หรอก ฝรั่งก็ตกใจและเสียใจ คิดว่าชาวฝรั่งตะวันตกเหล่านั้นคงเข้าใจผิดมาตลอดว่าคนญี่ปุ่นปล่อยพลังได้ ที่จริงก็อยากแกล้งอำเพื่อนมากว่าตอนเด็กๆ ที่โรงเรียนสอนอยู่นะ เพียงแต่ว่าสิ่งที่เด็กๆ ญี่ปุ่นได้ถูกสั่งสอนและมีหลักสูตรการเรียนการสอนมานั้นมีแค่ทักษะ Sakaagari 逆上がり คือการหมุนตัวบนบาร์ และ バク転 Back ten หรือการตีลังกากลับหลัง มิใช่การปล่อยพลังแต่อย่างใด เพื่อนๆ เคยเรียนไหมครับ
เมื่อมองในประเด็นที่ว่าการที่ครอบครัวคนญี่ปุ่นมีลูกคนเดียว แล้วจะต้องถ่ายทอดทักษะพิเศษของครอบครัวให้คงอยู่ต่อไป แต่ถ้ามีลูกหลายคน จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้รับเลือกให้เป็นผู้สืบทอดกิจการหรือทักษะของครอบครัว หรือทักษะพิเศษนั้นๆ แล้วการที่มีลูกหลายๆ คนจะมีปัญหาการแก่งแย่งชิงดี หรือว่าเป็นสิ่งที่ดีกันแน่
ลูกคนเดียวของครอบครัวหรือที่เรียกว่า 一子相伝 Itshisoden จะเป็นคนที่ถูกเลือกให้สืบต่อกิจการหรือทักษะของครอบครัว เรื่องการถ่ายทอดการเรียนรู้และศิลปะของครอบครัวให้ผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัวนั้น เพื่อให้ตระกูลได้สืบสายวิชาความรู้หรือทักษะพิเศษของตระกูลต่อไป และต้องไม่ถ่ายทอดให้บุคคลอื่นอีกจนกว่าจะมีทายาทคนต่อไปมาสานต่อ เพื่อทำให้วิชาการหรือทักษะนั้นคงอยู่และเป็นความลับเฉพาะในตระกูลเท่านั้น ซึ่งจะถูกส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นนั่นเอง ถ้าคนที่ไม่มีลูกก็อาจจะต้องหาสาวกหรือลูกบุญธรรมที่ไว้ใจมาแทน หรือถ้ามีลูกหลายคนก็จักต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง หนึ่งในบรรดาลูกๆ นั่นเอง เป็นระบบที่ครอบครัวจะต้องหาลูกหลานหนึ่งคนเอาไว้เทคโอเวอร์เพื่อที่จะให้เป็นผู้ที่สืบต่อกิจการหรือสืบต่อวิชาความรู้ของครอบครัว ซึ่งถ้าถามว่าแล้วคนที่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้สืบต่อ จะไม่เสียใจหรือ ก็ต้องตอบว่าอาจจะทำให้เขามีความเป็นอิสระ อาจจะดีสำหรับเขามากกว่าก็ได้ เพราะว่าไม่ต้องผูกติดกับสิ่งที่ต้องสืบต่อนั้นๆ
คล้ายๆ กับเรื่อง ฤทธิ์หมัดเทพเจ้าดาวเหนือที่ต้องมีผู้สืบทอดได้เพียงคนเดียวเพื่อไม่ให้เพลงหมัดรั่วไหลออกไป ปรมาจารย์ริวเค็น ผู้สืบทอดคนก่อนไม่มีบุตรชาย จึงรับเอาเด็กกำพร้า 4 คนมาชุบเลี้ยงไว้ และถ่ายทอดเพลงหมัดเทพเจ้าดาวเหนือให้ แต่ผู้สืบทอดต้องมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ทำให้ชะตาของ 4 พี่น้องจะต้องสู้รบประมือกัน ขอเล่าคร่าวๆ ตามหนังสือเขียนถึงบุคลิกลักษณะของแต่ละคนไว้ว่า
■ราโอ พี่ใหญ่ของ Hokuto หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ ในเรื่องอธิบายว่าเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน เรื่องเล่าว่าเขาต้องการที่จะใช้หมัดเทพเจ้าดาวเหนือครอบครองแผ่นดิน และได้ตั้งตัวเองเป็นเจ้าแห่งหมัด สร้างกองทัพและครอบครองทุกสิ่ง
■โทคิ พี่คนรองของ Hokuto หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ เรื่องเล่าว่ามีความอัจฉริยะเก่งที่สุดในบรรดาสี่คนพี่น้อง และเมื่อคราวที่โลกเกิดสงครามนิวเคลียร์ โทคิได้เสียสละตนเองให้เคนชิโร่ และยูเรีย คนรักของเคนชิโร่ได้ไปหลบในห้องนิรภัย ทำให้ตนเองต้องอาบเถ้าพิษกัมมันตรังสี และใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อตั้งโรงเรียนรักษาผู้คน
■จากิ ลูกบุญธรรมคนที่สาม น้องรองของ Hokuto หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ มีศักดิ์เป็นพี่ของเคนชิโร่ เรื่องเขียนทำนองว่าเป็นต้นตอแห่งความชั่วร้ายของทั้งเรื่อง มีฝีมือแย่และมีจิตใจชั่วร้าย อิจฉาเคนชิโร่ที่อาจารย์เลือกให้เป็นผู้สืบทอด และวางแผนทำร้ายต่างๆ นานา
■เคนชิโร่ น้องเล็กผู้มีพรสวรรค์และเป็นผู้สืบทอดของ Hokuto หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ ได้รับการช่วยชีวิตโดยผู้ที่มองเห็นอนาคตของเคนชิโร่ว่าต่อไปจะกลายเป็นผู้กอบกู้โลก
เรื่องนี้มีการแปลเป็นภาษาต่างๆ อย่างแพร่หลายและได้รับความนิยมมาก คนที่อ่านก็อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการต่อสู้เอย ความรักเอย แต่สำหรับผม ผมคิดว่าเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของพี่น้อง และแนวคิดแบบคติญี่ปุ่น 一子相伝 Itshisoden ที่จะต้องหาลูกหลานหนึ่งคนเอาไว้เทคโอเวอร์เพื่อที่จะให้เป็นผู้ที่สืบต่อกิจการหรือสืบต่อวิชาความรู้ของครอบครัว และไม่เผยแพร่ต่อคนนอกอย่างที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง
และเมื่อลองคิดกลับ จากบุคลิกลักษณะของตัวละครจากที่เล่า โดยทั่วไปเราอาจจะคิดว่าศัตรูและคู่แข่งตัวจริงของเคนชิโร่ คือ①ราโอ>>>>>②จากิ>>>>>>(超えられない壁) มาถึงกำแพงกั้นที่ไม่สามารถข้ามผ่านได้ง่ายๆ >>>>>>>③โทคิ ใช่ไหมครับ? แต่ที่จริงแล้วมันน่าจะเป็น คือ①โทคิ>>>>>>(超えられない壁 ..กำแพงกั้นที่ไม่สามารถข้ามผ่านได้ง่ายๆ>>>>>>>>>>②จากิ>>③ราโอ
หมายความว่าไง จริงเหรอ?!!
เพราะอะไร ลองมาวิเคราะห์กันดู ก่อนอื่นอาชีพของเคนชิโร่ เปรียบเสมือนวีรบุรุษผู้ช่วยให้คนรอด นั่นคือ 用心棒 bouncer ของเมือง หรือคนเฝ้าอารักขาที่คอยช่วยป่องกันอันธพาลเมื่อช่วยแล้วก็แลกอาหารมายังชีพ คล้ายๆ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่ราโอมีความทะเยอทะยานต้องการเป็นหัวหน้ากองทัพอันธพาล บางทีเขาอาจจะไม่ได้ชอบการช่วยเหลือคนเพื่อแลกอาหาร และอาจจะแค่อยากเรียนทักษะหมัด 北斗神拳 Hokutoshinken หรือทักษะอื่นก็ได้ ไม่เจาะจง คืออะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเองเก่งและมีกำลังอำนาจมาก เขาแค่อยากรวยมากๆ เป็นหัวหน้ากองทัพคนอันธพาล เป็นหัวหน้าใหญ่ของ ゴロツキ Gorotsuki สร้างลูกน้องและคนใต้บังคับบัญชาให้หาเงินให้ตัวเองเด่นดัง แค่นั้นเองไม่ได้สนใจทักษะหมัด Hokutoshinken อะไรนี่เป็นพิเศษนัก ซึ่งหมัด Hokutoshinken และความแข็งแรงไม่ใช่วัตถุประสงค์ของเขา
ในหนังสือแจ้งข้อมูลว่าเขามีความสูง 210 เซนติเมตร แต่ใครดูสเกลแล้วน่าจะคิดได้ว่าเขาน่าจะสูงมากกว่า 4 เมตรเลยมั้ง ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องมีกำปั้น Hokutoshinken (เพราะเขาแข็งแรงกำยำอยู่แล้ว) ปกติเขามักจะขี่ม้า เพราะเขาไม่ชอบนั่งเครื่องบิน เขารู้สึกอึดอัดมากเมื่อต้องนั่งเครื่องบินในชั้นประหยัด เคนชิโร่ผู้ที่จะกลายเป็นผู้สืบทอดตำนานทักษะหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ Hokutoshinken ผมคิดว่าทั้งสองคนที่จริงน่าจะสามารถเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันได้มากที่สุด (ถ้าเพียงสามารถแก้ปัญหาเรื่องยูเรียได้) ราโอดูเป็นคนร้ายกลายเป็น ラスボス Last boss แต่ทั้งหมดคือความทะเยอทะยานที่ไม่มีอะไรซับซ้อน ผมคิดว่าราโอเป็นคนที่เข้าใจง่ายที่สุดในเรื่อง และน่าจะเป็นคนที่เคนชิโร่พูดคุยเพื่อสร้างพันมิตรได้มากที่สุดเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจและ yakuza ในยุคโชวะ
ปัญหาคือโทคิ เขาเป็นคนเหมือนจะดีที่สุดอย่างแน่นอน เขาทำ Hokutoshinken medical school ในทางการแพทย์ , โรงเรียนนวด Hokuto และอีกไม่นาน Hokutoshinken ก็จะถูกเผยแพร่ให้กระจายออกไป ซึ่งผิดกฏความลับของครอบครัว และทักษะ Hokutoshinken ของเคนชิโร่ ก็อาจจะรั่วไหลออกไปในที่สุด
สุดท้ายจากิ เขาเป็นคนที่มีใจครึ่งๆ กลางๆ และมีความยุ่งยากที่สุด สาระสำคัญของเขาคือเขากล่าวว่า "ไม่มีน้องชายที่จะดีกว่าเก่งกว่าพี่ชายได้ " มีการกระทำที่มีความซับซ้อนกับพี่น้องของเขา นอกจากนั้นเขายังใช้อาวุธอื่น เช่น ปืนและเข็ม เพราะทักษะอย่างเดียวมันไม่ได้เป็นวัตถุประสงค์ที่จะทำให้เขารวย เขายังต้องการที่จะเป็นหัวหน้าแก๊งค์เช่นกัน แต่เรื่องที่ราโอและโทคิหรือใครๆ ก็ชอบ ยูเรีย มีแต่เพียงจากิเท่านั้นที่ไม่สนใจนัก จากิคนนี้ดูแล้วมีความยุ่งยากมากที่สุด ถ้าไม่รีบจัดการอาจจะทำให้จากิและสาวกของเขาเริ่มใช้ "Hokutoshinken 2.0" ก็ได้ โดยเขาจะใช้ปืนและอาวุธอื่นๆ ดังนั้นควรจะต้องจัดการทันที (ครูของเคนชิโร่ อาจจะเสียชีวิตจากปืน)
ข้อสรุป: Hokutoshinken เป็นหนึ่งทักษะพิเศษที่ต้องสืบต่อให้รุ่นลูกต่อไป แบบแนวคิดคตินิยมญี่ปุ่น 一子相伝 Itshisoden แต่มันดูเหมือนยาก เพราะถ้ามีคนรู้มันก็มีโอกาสเผยแพร่ได้ เหมือนกับการนวดไทย ถ้าเรียนรู้ก็ต้องมีคนเข้าใจเทคนิคและสามารถเรียนรู้ได้ ดังนั้นการที่ชาวฝรั่งมีความรู้สึกว่าคนญี่ปุ่นปล่อยพลังได้นั้น บางทีชาวฝรั่งนั้นก็คิดเข้าทางนะครับไม่ผิดจริงๆ อาจจะมีคนทำได้ก็ได้นะเออ วันนี้สวัสดีครับ