xs
xsm
sm
md
lg

แรงมาก "เอกชัย" สั่งลูกบุญธรรมห้ามมีเมีย ให้ซื้อกินเอา!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55 - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (27 ม.ค.) "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "เอกชัย ศรีวิชัย" ในบทบาทนักปั้น อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินใหม่ๆ พร้อมเปิดตัวลูกชายบุญธรรม "แนคกี้" และ "นีโน่"

เรื่องลับก่อนเข้าวงการ อยากเข้าวงการเพราะมีคนไม่ให้ดูทีวี?
เอกชัย : "คนที่มีทีวีในหมู่บ้าน ตอนนั้นไฟฟ้าไม่มี ต้องใช้แบตเตอรี่ มันมีเฉพาะบ้านคนมีฐานะ เราต้องพาน้องไปดูทีวีกับเขา แอบดูทางหน้าต่าง อุ้มน้องไปสองสามคน น้องเล็กๆ เข้าบ้านเขาไม่ได้ เขาปิดประตูไม่ให้เราดู เราก็เจาะประตูดู"

เจ็บใจมาก?
เอกชัย : "ไม่นะ แค่คิดว่าสักวันหนึ่ง ขอพูดหยาบๆ กูจะเข้าไปอยู่ในทีวีให้มึงนั่งดูตัวกูให้ได้ ตอนเข้ากรุงเทพฯ มาเรียนหนังสือ เราก็เริ่มงานถ่ายแบบ แต่เป้าหมายไม่สนใจ อยากจะไปหาอาหรั่ง (ไพรัช สังวริบุตร) มาก เพื่อที่จะได้เล่นหนังจักรๆ วงศ์ๆ"

ชีวิตลำบากมาก ไม่ได้มาง่ายๆ?
เอกชัย : "ต้องบอกว่าคุณพ่อมีหลายภรรยา คุณแม่ผมเป็นภรรยาล่าสุด คุณพ่อสร้างฐานะกับครอบครัวมาเยอะ พอเลิกคนนึงก็ให้เขาไป มาเจอคุณแม่แทบไม่มีอะไร เริ่มต้นจากการอยู่ในที่ดินป่าสงวน อยู่ที่หลวง รับจ้างดำนา รับจ้างกรีดยาง ยางตัวเองก็ไม่มี ผมไม่รู้ว่าผมเป็นวัยรุ่นตอนไหน เพราะผมทำงานตลอด เป็นเด็กแล้วเป็นผู้ใหญ่เลย ต้องรับผิดชอบน้อง ตอนผมอายุ 20 กว่า พ่ออายุ 80 แล้ว"

เคยคิดฆ่าตัวตาย?
เอกชัย : "ตอนขึ้นกรุงเทพฯ มาเรียนหนังสือ ตัวเองมาสมัครร้องเพลงตามผับ สมัครตั้งแต่สะพานผ่านฟ้า เดินมาหมดเลย มีร้านอาหารเยอะมาก เดินสมัครมาจนรองเท้ากัด โอ้โห ร้องไห้เลยไม่มีใครเขารับ เพราะสมัยก่อนนักร้องเขารับแค่ 2 คน ร้องลูกกรุงคนนึง ร้องลูกทุ่งคนนึง เหมือนมิวสิกมาก ฝนตก รองเท้าก็กัด มีตังค์ในกระเป๋าแค่ 800 บาท เดินขึ้นสะพานปิ่นเกล้า ลาแม่ลาพ่อในใจ จะกระโดดสะพาน คิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เราไม่ไหวแล้ว การให้โอกาสมนุษย์ในยุคนั้นเขาก็ไม่ให้โอกาสเราเลย ทั้งที่ผมพกโน๊ตมาเยอะมาก ให้เขารู้ว่าเราร้องหลายที่ เดินขึ้นสะพานปิ่นเกล้าฝนตก พอมาถึงตรงกลางสะพานไฟสว่างไสวมาก เขาถ่ายหนังกันหรือเปล่า ไม่ใช่ เขาเอารถเครนดึงรถมินิที่ตกแม่น้ำเจ้าพระยา ดึงขึ้นมาแล้วศพก็อยู่ในนั้นด้วย ผมเห็นกับตาเลย โอ้ กูไม่ตายแล้ว การตายน่ากลัวมาก แล้วพอลงสะพานไปสมัครงาน นักร้องที่เขาร้องประจำ เขาลาไปบวช แล้วเราก็ได้งานเลย นี่ไงถ้าเราสู้ไม่ถึงที่สุด ความสำเร็จมันอยู่ข้างหน้าเราเอง อย่าเพิ่งตัดสินใจ"

ดังได้ยังไง?
เอกชัย : "ผมเรียนหนังสือในรามคำแหง และร้องเพลงอยู่คาเฟ่ มีคุณพ่อชวนชัย ฉิมพะวงษ์ เป็นนักปั้นในสมัยนั้น พ่อก็เข้ามาเห็นและชวนไปบันทึกเสียง ก็ได้อัดเสียงเลย อัดสองครั้ง เพลงแรกคือแกงรสใหม่ อัดไปเสร็จเอาไปเสนอนายห้าง ห้างรับได้ 7 วัน ห้างล้มละลาย เพลงทั้งหมดที่เอาไป มีเพลงนึงซึ่งผมไม่เลือก เพลงพี่มีแต่ให้ ก็เอาเพลงนี้มาทำใหม่และไปออกกับบริษัทเมโทรแผ่นเสียง ป๋าวรชัย เพลงนี้ก็ดังเปรี้ยงเลย"

เพลงหมากัด?
เอกชัย : "หมากัดรุ่นหลังมาก ผมไปอัดเพลง ตอนนั้นย้ายค่ายออกมาผมไม่มีตังค์เลย ไปรออัดเพลงที่โคราช จะเอาเพลงโคราชมาทำเป็นเพลงสามช่า แต่ไม่ได้เนื้อเพราะเขาไม่ให้ เราจะทำยังไงดี เราจำได้ว่าวันนึงเราเคยไปนั่งดูลำตัด จะมีเพลงที่พ่อหวังเต๊ะเคยร้อง แต่มันเป็นท่อนๆ ก็จับท่อนนี้ที่จำได้มาวางๆ อีตรงกลางเราเขียนใส่ เลยออกมาเป็นหมากัด แล้วไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโอ้มาเถิดหนากระไกรแม่มา เป็นเพลงอีแซว ผมเอาเพลงอีแซวกับลำตัดมารวมกัน ตอนแรกแม่ขวัญจิตโกรธมาก เฮ้ย เอ็งไม่รู้เรื่องเหรอ เอ็งเอามาทำได้ยังไง เพลงหมากัดออนแอร์ไม่ได้เลยในยุคที่มีกบว. ตอนนั้นไม่ได้สักช่องเดียวเลย แต่เพลงมันดังไปแล้ว มันทำให้เพลงอื่นที่อยู่ในชุดเดียวกันอย่างสาวผมแดง ออกมาดังต่อกัน เพลงนี้ทำเอ็มวีได้"

แนคกี้ กับ นีโน่ ก่อนเป็นลูกบุญธรรมเอกชัย รู้จักมาก่อนมั้ย?
นีโน่ : "รู้จักตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อผมบอกว่าพ่อเอกเป็นเพื่อนรักของเขา แต่ไม่เคยเจอพ่อเลย เคยเห็นแค่ในทีวี"

เอกชัย : "เด็กๆ เขารบเร้าให้พามาเจอ แต่พ่อบอกว่า"

นีโน่ : "พ่อกลัวว่าพ่อเอกจะจำเขาไม่ได้ เป็นลูกบุญธรรมประมาณ 10 กว่าปี เป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่ 18 ตอนนี้ 28 แล้วครับ"

เขาสอนเรื่องอะไร?
นีโน่ : "ทุกเรื่องของชีวิต พ่อเป็นคนวางแผนชีวิตไว้ให้ ว่าต้องก้าวเดินแบบไหน สิ่งไหนควรทำไม่ควรทำ ทุกสิ่งทุกอย่าง การอยู่กับสังคม ใช้คำพูด การออกสังคม พ่อแนะนำหมด"

แนคกี้ : "ตอนเจอพ่อผมยังเด็กมาก มีความเป็นวัยรุ่น ไม่เข้าใจโลกว่าเป็นยังไง มองแค่ว่าพ่อเป็นนักร้องลูกทุ่ง มาอยู่ตอนนั้นไม่ได้เก็ตอะไร ขณะที่พ่อแกสอน เราก็คิดว่าเรายังเด็ก"

เอกชัย : "นี่เขาจะต่อต้าน"

แนคกี้ : "เรารู้สึกว่าพ่อไม่ได้รัก เพราะให้เราเป็นตัวโกง แต่พอผ่านมามากขึ้นๆ เรารู้เลยว่าความสามารถเราไม่ได้ ทัศนคติก็ไม่ได้ แล้วสิ่งที่พ่อสอนก็ย้อนมาว่านั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ"

พ่อดุมั้ย?
แนคกี้ : "ดุครับ"

จริงมั้ย พ่อห้ามมีเมีย?
แนคกี้ : "จริงครับ เพราะในสายทางเราต้องสดเสมอ ถ้าเราเป็นของใครคนใดคนหนึ่ง แฟนคลับจะห่างหาย เราจะหมดความนิยม แต่มีผัวได้นะครับ"

เอกชัย : "(หัวเราะลั่น) ไอ้แนค (หัวเราะ) เวลาผมขึ้นเวที ผมจะบอกเขาว่าหนูจะต้องเป็นสมบัติของทุกคน ไม่ใช่มีคนใดคนหนึ่งมานั่งพัดวีให้หลังเวที แล้วเป็นเจ้าของ คนอื่นจับต้องไม่ได้ เราเป็นศิลปิน ทุกคนมีสิทธิ์กอดหนู ไม่รู้สิ ที่ผมอยู่ปัจจุบันนี้ ผมเล่นคอนเสิร์ตทุกครั้ง คนแน่นเอี๊ยดทุกครั้งเพราะผมไม่มีใครเป็นเจ้าของ"

แต่เขายังเด็กอยู่ จะทนได้กับกฎกี่ปี?
เอกชัย : "ผมบอกให้ซื้อกิน ตรงๆ อาจารย์"

แนคกี้ : "ซื้อกินจริงๆ เลือกเมนูได้ครับ (หัวเราะ)"

เอกชัย : "(หัวเราะถูกใจ) นี่เรื่องจริงนะอาจารย์"

ทนได้มั้ย?
นีโน่ : "พ่อให้คำพูดประมาณว่าถ้าเกิดเราจะกินนมวัว เราก็ซื้อนมกล่องกิน"

เอกชัย : "ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น คนมีบ้านเล็กบ้านน้อยเพราะเลี้ยงวัวทั้งนั้น ทำไมไม่ซื้อนมกล่อง"

เคยแหวกกฎบ้างมั้ย?
นีโน่ : "เรื่องไปเรียนหนังสือครับ ด้วยความที่เราอยากใช้ชีวิตวัยรุ่นกับเพื่อน เพราะมีอีกคนนึงเป็นลูกบุญธรรมพ่อ ไปเรียนที่ม.สยาม ผมก็นัดกันไปเรียน เราอยากไปดูหนัง ไปเที่ยว"

เอกชัย : "ตอนแรกบ้านอยู่ลำลูกกา แล้วรวมตัวไปอยู่อยุธยา"

แนคกี้ : "เรื่องอะไรๆ ที่ไม่ดีในวัยรุ่น ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเที่ยวกลางคืน ไปโน่นนี่นั่น มันจะอยู่ที่อยุธยาบ้านผม ซึ่งอยุธยาบ้านผมกับม.สยาม กับลำลูกกาบ้านพ่อไปม.สยาม จริงๆ ลำลูกกาไปใกล้กว่า แต่ผมบอกว่ารถมันติดนะ เดี๋ยวมันจะไปสาย ก็คือไม่ได้ไปโรงเรียนเลย เที่ยว แต่บอกพ่อว่าไปโรงเรียนทุกวัน ถ่ายรูปให้ดูด้วยนะ ปรากฎว่าวันไปสอบอาจารย์ไม่ให้เข้าห้องสอบ"

เอกชัย : "ผมก็โทรหาคณบดีว่าทำไมลูกผมถึงเข้าสอบไม่ได้ ท่านมีปัญหาอะไร มันมีปัญหาทำไมไม่คุยกับผมก่อน ผมก็โวยวาย ภาษาไม่สวยเท่าไหร่ เขาบอกว่าคุณเอกครับ อยากจะเรียนอย่างนี้นะครับ เนื่องจากลูกชายคุณเอกทั้งสามคนไม่มีใครเข้าเรียน โอ้โห ควันออกหูแล้วเรียกมา อยากเดินเข้าไปตบ ไม่ได้ตบนะ แต่ด่าแบบหยาบคาย ด่าหนักมาก ด่าไปร้องไห้เลย มันโกรธมาก เราก็เสียหน้าผู้ใหญ่ เพราะผมไปว่าเขาแรงด้วย"

ทำให้พ่อหน้าแหก?
นีโน่ : "หลังจากนั้นเราก็แยกกันครับ (หัวเราะ)"

แนคกี้ : "ขนาดเรื่องผ่านมา 10 ปีแล้วนะ ทุกครั้งที่อยู่รวมกันพ่อยังระแวงจนทุกวันนี้"

พ่อเป็นสายเปย์มั้ย?
แนคกี้ : "พวกผมสองคนเข้ามาเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ยังไม่รู้เลยว่าจะปลูกขึ้นได้มั้ย จะเสียมั้ย ตอนนั้นพ่อปลูกขึ้นมา ด้วย ณ ตอนนั้นอย่างที่พ่อบอกว่าพ่อผมมีบุญคุณกับพ่อเอกแค่เงิน 200 ให้ค่ารถ ทุกสิ่งทุกอย่างแกดูแล ให้ไปฟิตเนส ให้อยู่วงการเพลงอะไรก็แล้วแต่ แกทำให้ทุกอย่างเพื่อให้พวกผมโตขึ้นมาเพื่อเลี้ยงครอบครัวได้"

แต่ไม่มีเมีย?
แนคกี้ : "ครอบครัวผมคือแม่และน้อง"

ทำไมถึงเลือกตั้งวงลิเกให้ลูกบุญธรรม?
เอกชัย : "ถ้าในแวดวงนักร้องลูกทุ่งอาจไม่เข้าใจ แต่ถ้าแวดวงศิลปะพื้นบ้านจะเข้าใจ เพราะกำเนิดผมมาจากมโนราห์ นายหนังตะลุง ผมเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ก็คลุกเคล้ากับลิเก ผมเล่นลิเกกับพ่อแม่เขา ผมเป็นพระเอกอยู่เป็นสิบเรื่อง ผมรักความเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น ผมเล่นเป็นหมดทุกอย่าง เกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรมทั้งหมดเลย แล้วเด็กภาคใต้ที่เรียนทุนผมน่าจะมากกว่า 200-300 ทุน ใน 20 กว่าปีที่ผ่านมา แต่เด็กคนนั้นต้องเป่าปี่ได้ เล่นเครื่องหนังตะลุงได้ รำโนราห์ได้ ผมส่งเสริมด้านนี้มาตลอดชั่วชีวิตผมที่ทำมา"

เคยได้พวงมาลัยเยอะมั้ย?
นีโน่ : "เคยได้มากสุด 8 แสนครับ คืนนั้นคนให้มากที่สุด 5 แสน"

แนคกี้ : "ผมได้ 3 แสน"

เอกชัย : "คนจะมาถามว่าในวงการลิเก เอกชัยเอากี่เปอร์เซ็นต์ที่มาทำคณะให้"

นีโน่ : "ทุกวันนี้คนก็ยังพูดอยู่ครับ"

แนคกี้ : "พ่อไม่เคยกินเปอร์เซ็นต์ แม้แต่บาทนึง ผมเป็นลูกพ่อสิบกว่าปี ไม่เคยถึงพ่อ เวทีเครื่องเสียงเป็นของพ่อสิบๆ ล้าน ที่มาลงตรงนี้ ให้ลูกมาใช้ ก็ไม่ได้กินเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างขอให้เป็นที่ทำมาหากิน"

รวยหรือยัง?
นีโน่ : "ยังผ่อนบ้านอยู่ครับ"

เอกชัย : "รถมีคันเดียว ให้ไปพร้อมกัน ล่าสุดซื้อรถให้พ่อเขา เวลาไปงานผมอยากให้ไปพร้อมๆ กัน ขอมาถ้าบ้านปลูกเสร็จเมื่อไหร่ จะซื้อรถใหม่ผมอนุญาต แต่ที่พูดมาผมไม่ได้เป็นคนไปซื้อให้นะ เป็นตังค์เขา แต่ผมจะไปจัดการให้ไม่ให้ฟุ่มเฟือย ผมห้ามถึงขนาดนาฬิกาซื้อเรือนแพงเรือนเดียวพอ จะซื้อก็ซื้อโรเล็กซ์พอ จบ"










กำลังโหลดความคิดเห็น