xs
xsm
sm
md
lg

งานที่อยากทำกับสิ่งที่ต้องทำ !? แล้วถ้าจะสมัครเป็นนักแสดงนำชายเอวีญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว อาทิตย์ที่แล้วพูดเกี่ยวกับเรื่องซูชิ ผมเคยคุยกับเพื่อนว่าเวลาไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วๆ ไปในญี่ปุ่น ร้านซูชิบางร้านไม่อยากต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น และเราจะหาร้านซูชิอร่อยๆ ยาก เพราะอะไร เพราะไม่ว่าจะเป็นร้านซูชิที่ขายอยู่ทั่วไปก็ตาม ร้านแฟรนไชส์ก็ตาม แต่เป็นร้านที่ไม่มีใจในงานบริการหรือว่าไม่ได้อยากจะขายคุณภาพให้ลูกค้าจริงๆ จังๆ ก็มักจะไม่ใส่ความพยามที่จะตั้งใจปรับปรุงคุณภาพหรือปรับปรุงให้อาหารหรือผลิตภัณฑ์ในร้านของตัวเองมีรสชาติที่ดีมากขึ้น นอกจากนั้นบางร้านคิดว่าทำอาหารขายให้นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นขาจรมาทานครั้งเดียวแล้วก็ไป ไม่จำเป็นจะต้องมีการรักษาระดับอะไรมากมายนัก ทำให้เราไม่ค่อยเจอร้านซูชิอร่อยๆ ตามแหล่งท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก กลับกันร้านอาหารที่มีลักษณะการทำงานแบบเป็น salaryman คือมีบริษัทหลักคุมนโยบาย ร้านค้าในเครือต้องทำตามนโยบายที่รัดกุมของบริษัทก็จะต้องคุมระดับคุณภาพให้ได้ตามระดับมาตรฐานของบริษัท ซึ่งก็จะทำให้อาหารนั้นอร่อยมีคุณภาพได้มาตรฐานคงเส้นคงวามากกว่าแต่ก็หายากอยู่เหมือนกัน
พอพูดถึงเรื่องซูชิ ก็ต้องนึกถึงเชฟซูชิ ซึ่งเป็นงานที่ต้องเป็นมืออาชีพเท่านั้นจึงจะทำงานนี้ได้ เป็นงานที่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่าถึงคนทั่วไปอยากทำงานนี้ก็เป็นไปได้ยาก ดังนั้นวันนี้ผมจึงคิดว่าจะพูดถึงเรื่องการทำงานที่เราอาจจะคิดว่าสมัครเข้าไปทำได้ง่ายๆ แต่ที่จริงไม่ง่ายเหมือนงานอื่นๆ ทั่วๆ ไป อย่างหมอ พยาบาล งานทั่วไปต่างๆ เหล่านี้ก็คือเรียนจบตามหลักสูตรและไปสมัครสอบ หรือพนักงานบริษัทก็คือสอบและสัมภาษณ์ตามระบบของบริษัท หรือใครคิดอยากเปิดกิจการของตัวเองก็ต้องมีประสบการณ์มีความถนัดในเรื่องที่ตัวเองทำ เป็นต้น แต่งานที่กำลังจะพูดถึงในวันนี้ เป็นการทำงานที่หาทำยาก จะว่าไม่มีคนอยากทำก็คงไม่ใช่ บางคนก็อาจจะอยากทำงาน 3 อย่างนี้มาก แต่โอกาสก็ไม่อำนวย งาน 3 อย่างนี้ คือ


〇Sushi Chef เชฟทำซูชิ

〇Studio musician นักดนตรีมืออาชีพผู้ที่รับงานแบบฟรีแลนซ์

〇ดารานำแสดงชายหนังเอวีญี่ปุ่น

〇Sushi Chef ก่อนหน้านี้ผู้ที่จะทำอาชีพเป็นเชฟซูชิของประเทศญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยากมาก ถึงยากมากที่สุด เพราะว่าถือเป็นอาชีพที่พิเศษและต้องมีระดับฝีมือชั้นเซียนจริงๆ ถึงจะทำได้ ถ้าอยากเป็นล่ะจะต้องทำอย่างไร ก็อาจจะต้องคอยเรียนรู้ด้วยวิธีครูพักลักจำในร้าน แล้วก็ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ แต่ถึงขนาดนั้นก็ไม่สามารถที่จะไต่เต้าขึ้นมาเป็นเชฟซูชิได้ง่ายๆ นัก ต้องใช้เวลานานมากกว่าจะได้รับความไว้วางใจ เพราะว่าส่วนใหญ่เชฟซูชิระดับเซียนจริงๆ หรือว่าคนที่เป็นเจ้าของร้านที่ซูชิของตัวเองก็จะไม่อยากสอนเทคนิคหรือความรู้ให้คนอื่นเพราะว่าไม่อยากจะให้มีคนนำความรู้ความสามารถนั้นไปทำงานแข่งกับตัวเองนั่นเอง อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้มีโรงเรียนสอนทำซูชิ คือสอนให้ออกมาทำอาชีพเชฟซูชิแล้ว


เมื่อมีโรงเรียนออกมาแบบนี้ก็มีกระแสต่อต้านเกิดขึ้นมาบ้างว่า สมัยก่อนนั้นกว่าเชฟซูชิจะได้เป็นเชฟอย่างปัจจุบันนี้ต้องผ่านความยากลำบากลำบนครูพักลักกจำ โดนกระทำโดนว่าโดนด่า และยอมเป็นเบี้ยล่างมาตลอดกว่าจะได้วิชาความรู้แต่ปัจจุบันกลับมีโรงเรียนที่สอนให้ง่ายๆ อย่างนี้มันจะดีหรอ ซึ่งพอได้ฟังคำต่อต้านอย่างนี้ก็มีไลฟ์คำตอบของประธานบริษัทหนึ่งออกมากล่าวว่า ค่อนข้างจะเป็นความคิดที่แคบไม่เปิดใจเลย เพราะว่าเรื่องของเทคนิคต่างๆ หรือ know how ในการทำซูชินั้นก็ควรจะมีการสอนกันได้ ซึ่งผมเองก็เข้าใจความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย


ซึ่งคาดว่าบางท่านที่มีวิชาแล้วหวงวิชาความรู้ อาจจะเกิดจากสองเหตุผลด้วยกัน เหตุผลแรกคือ ต้องการหาคนดีที่มีความสามารถจริงๆ มารับสืบทอดไป ประการที่สอง กลัวว่าถ้าลูกศิษย์รู้เท่าเทียมกันแล้วจะคิดล้างครู จึงต้องมีการกั๊กวิชาหรือเทคนิคสำคัญไว้ จึงทำให้คนที่อยากทำอาชีพนี้ต้องคอยลักจำเอาเอง


〇Studio musician หรือถ้าแปลตามตัวคือ นักดนตรีสตูดิโอ และอาจจะเรียกว่า Session musicians หรือ Backing musicians เป็นนักดนตรีมืออาชีพที่รับงานตามจ๊อบงานที่ได้รับการว่าจ้างมา เป็นผู้ที่ทำให้วงดนตรีครบวง ส่วนใหญ่จะรับเล่นให้ในการบันทึกเสียงของศิลปินในสตูดิโอ , เป็นนักดนตรีที่ได้รับการว่าจ้างให้ไปเสริมวงในการแสดงสด เล่นดนตรีให้โปรเจ็คการบันทึกเพลงสำหรับการโฆษณาภาพยนตร์โทรทัศน์และโรงละคร ต่างๆ เป็นต้น มักจะไม่ได้เป็นสมาชิกถาวรของวงดนตรี ส่วนใหญ่ทำงานเบื้องหลังและไม่ค่อยมีคนรู้จัก นักดนตรีเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญในการเล่นเครื่องดนตรีมากๆ อาจจะเป็นมือกีตาร์ เปียโน เบสหรือกลอง ผมเองยังเคยอยากฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของนักดนตรีบางคน อย่างตอนช่วงสิ้นปีที่ผ่านมามีโอกาสไปดูการแสดงดนตรีวงของพี่ไผ่ พงศธร แล้วเห็นนักกีต้าร์คือผมประทับใจพี่มาก อยากขอเป็นลูกศิษย์พี่จริงๆ แต่ไม่รู้ว่าจะติดต่ออย่างไร


〇AV男優 ดารานำแสดงชายหนังเอวีญี่ปุ่น คนที่ทำอาชีพนี้ทั้งหมดในตอนนี้ ถ้าเทียบกับจำนวนดาราหญิงที่มีเยอะมากๆ แต่คงจะมีดาราชายทั้งหมดแค่ 50-100 คนเองกระมัง มีจำนวนไม่เยอะเลยยิ่งถ้าเทียบกับอาชีพอื่นๆ ยิ่งน้อย มีคนเปรียบเทียบว่าจำนวนของคนที่ทำอาชีพนี้ในตอนนี้คงเหมือนเสือ ベンガル虎 Bengal Tiger ที่เกือบจะสูญพันธุ์ละ เพราะมีจำนวนน้อยมากๆ แล้วถ้าอยากสมัครทำงานนี้จะเป็นไปได้ไหม ต้องทำอย่างไร เคยมีมังงะญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องของคนที่อยากจะเป็นนักแสดงนำฝ่ายชายในหนังเอวีญี่ปุ่น จึงไปสมัคร แต่อาชีพนี้ไม่ใช่จะเป็นกันได้ง่ายๆ มันมีความยากคล้ายๆ กับสองอาชีพด้านบนแต่มีความต่างอยู่บ้าง มังงะเล่าว่าชายหนุ่มที่อยากเป็นดาราเอวีนั้น อยากเป็นมากถึงกับต้องไปกราบขอร้องนักแสดงชายเอวีคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากในตอนนั้น ดาราชายที่มีงานรุ่งๆ เนี่ยอาจจะมีผลงานออกมาถึงปีละ 500 เรื่องเลย แล้วการถ่ายทำมันไม่ใช่ว่าถ่ายครั้งเดียวซีนแล้วจบ มันต้องมีแก้ไข มีผิด มีเทค หลายครั้ง แต่หนุ่มคนที่อยากทำงานนี้ก็ไม่สามารถจะเป็นดาราเอวีได้ในทันทีทันใดหรอก ตามระบบแบบญี่ปุ่นมันต้องมีการฝากตัวเป็นลูกศิษย์ แบบด้วยความปรารถนาและชื่นชมยินดี


แต่วิธีการที่ชายหนุ่มจะเข้าไปทำงานนี้ก็คือ จะต้องสมัครงานเข้าไปเป็นเด็ก Part time ก่อน แต่ก็จะเลือกงานที่เขาจะโยนให้ทำไม่ได้ ให้ทำอะไรก็ต้องรับไปทำให้เห็นถึงความใฝ่รู้และตั้งใจจริง แต่บางงานอาจจะไม่ใช่งานปกติทั่วไป แบบยกของยกไฟ งานเอกสาร งานในกองถ่ายแต่กลายเป็นว่าจะต้องทำน้ำอสุจิ หรือน้ำเชื้อมาสำรองให้ดารานำแสดงชาย เพราะว่าดาราเข้าแสดงหลายฉากแล้วอาจจะทำให้เกิดการสูญเสียน้ำเชื้อไปจำนวนมากจนทำให้น้ำมีไม่พอ หนุ่มคนที่ไปสมัครงานแรกๆ ก็จะต้องเป็นคนผลิตน้ำอสุจิออกมาให้แทน ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ รอโอกาสจนกระทั่งวันหนึ่งก็อาจจะมีคนมาถามว่าช่วยเอาน้องชายมาเป็นสแตนด์บายให้น้องชายนักแสดงนำหน่อยได้ไหม คือเป็นสแตนด์บายแทนนักแสดงกรณีที่น้องชายของนักแสดงไม่สู้แล้ว เป็นต้น นี่คือการไต่เต้าแห่งการเริ่มต้นของการเป็นนักแสดงนำชายหนังเอวีญี่ปุ่น

ด้วยความที่คนญี่ปุ่นมีความยินดีและปรารถนาอยากเนื้อฝากตัว จึงมีการกล่าวว่าที่จริงแล้วคำพูดที่คนญี่ปุ่นอยากลองพูดมากที่สุดในชีวิตจริง (╭☞•́⍛•̀)╭☞ 日本人が一度でいいから言ってみたい台詞คือคำว่าอะไรกันแน่ หรือคำที่คนญี่ปุ่นอยากจะลองพูดออกมามากที่สุดคือไม่ใช่คำว่าผมรักคุณ หรือฉันรักคุณ แต่ประการใด แต่คำว่าอะไร ?!


1.弟子はとらない!Deshi wa toranai! .,(`谷´*)ノノ"

"ผมไม่อยากรับใครเป็นลูกศิษย์" ( เพราะถ้าพูดเป็นคำนี้ออกมาแสดงว่า มีคนมาขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ แสดงว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถจนมีคนอยากมาขอเป็นลูกศิษย์ไง คือในชีวิตนี้ก็อยากจะพูดสักครั้งล่ะน้า )

2.弟子にしてください! Deshi ni shite kudasai! m( ・`д・´ )m彡

ส่วนคำที่อยากจะมีโอกาสพูดเป็นลำดับที่สองคือ "ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ได้ไหม" เพราะคนญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่ถ่อมตนมาแต่รากเหง้าดั้งเดิม

ยกตัวอย่างการฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ เพื่อนผมคนไทยจะเป็นที่เอ็นดูของบรรดาป้าๆ ญี่ปุ่นมาก เวลาไปเรียนชงชากับป้าๆ แล้วขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ขอเรียนวิชาด้วยความอยากเรียนรู้ แบบนี้ทำให้ป้าๆ มีจิตใจพองโต

3.愛してる Aishiteru...(*゚-゚)(*゚-゚)

ส่วนคำว่า ผมรักคุณ หรือ ฉันรักเธอ นี่เป็นอันดับที่สามครับ บางคนก็ไม่อยากเอ่ยปากออกมา

สรุปว่าเรื่องของการทำงาน 3 งานดังกล่าว ก็คงจะต้องเริ่มจากทำให้เขารู้จักเรา อยากจะทำงานอะไรสักอย่างหนึ่งก็คือจะต้องดิ้นรนตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น มีเขียนสรุปไว้ให้เข้าใจง่ายๆ คือ การเข้าไปสมัครฝึกงาน / การเรียนรู้แบบครูพักลักจำ / ยอมทำตามที่อาจารย์สั่ง / ขอฝากตัวเป็นสาวก นั่นเอง แต่ว่างานนักแสดงนำชายเอวีจะต่างสักหน่อยตรงที่ต้องทำงานแปลกๆ อย่างที่กล่าวไป ซึ่งถ้าเทียบให้เห็นภาพก็คือเวลาที่เราอยากจะเข้าไปในสมาคมใดสมาคมหนึ่งเราก็ต้องทำให้เขารู้จักเราค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อที่สามารถที่จะเรียนรู้และทำงานนั้นได้ในวันหนึ่ง อาจจะมีคนรู้จักชักชวนจากการที่รู้จักหรือเกิดจากการที่เราเสนอตัวเข้าไปเรียนรู้ก่อน ที่เรียกว่าเปิดโอกาสให้ตัวเอง วันนี้สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น