นายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัทนิสสัน มอเตอร์ เปิดแถลงข่าวที่เลบานอน กล่าวหาอดีตผู้บริหารนิสสันร่วมกับอัยการญี่ปุ่น วางแผนโค่นอำนาจเขา พร้อมวิจารณ์กระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่นว่าไร้มนุษยธรรม แต่กลับลำว่าไม่มีนักการเมืองเกี่ยวข้อง
นายคาร์ลอส กอส์น ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงแถลงข่าวเป็นครั้งแรกหลังจากหนีการดำเนินคดีจากญี่ปุ่น ในช่วงวันส่งท้ายปีเก่า เขาระบุว่า “ไม่มีทางเลือกอื่น แต่ทำต้องเพื่อปกป้องตัวเองและครอบครัว” และเปิดใจว่า “เหมือนถูกจับเป็นตัวประกันในประเทศญี่ปุ่น ที่เขาทำงานให้มานานถึง 17 ปี”
อดีตบิ๊กบอสนิสสันไม่ได้เปิดเผยเรื่องวิธีการหลบหนีออกจากญี่ปุ่น ที่เป็นเหมือนนิยายสายลับตามที่สื่อได้รายงานไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่พูดถึงสาเหตุที่ต้องหนีว่า ทีมทนายความประเมินว่า เขาอาจต้องต่อสู้คดีนานถึง 5 ปี โดยแทบไม่มีโอกาสชนะคดี เพราะระบบกฎหมายของญี่ปุ่นได้สันนิษฐานล่วงหน้าไว้แล้วว่าจำเลยมีความผิด พร้อมระบุว่า การควบคุมตัวของญี่ปุ่นทำให้เขารู้สึกราวกับ “ตายเหมือนสัตว์ตัวหนึ่ง” และมี “โอกาสเป็นศูนย์” ที่จะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม
นายกอส์นระบุว่า เขาถูกสอบปากคำนานกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน โดยไม่มีทนายความ ปฏิเสธพยานหลักฐานของเขา และบีบให้เขาต้องรับสารภาพ เขาถูกขังเดี่ยวนานกว่า 130 วัน และขยายการประกันตัวไปเรื่อย ๆ เหมือนกับเขาเป็น “ผู้ก่อการร้าย”
เขาโจมตีกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่นว่า “ทารุณ” “ไร้มนุษยธรรม” และ “คร่ำครึ” และเปรียบเทียบการบีบให้เขายอมจำนนว่า เหมือนกับที่กองทัพญี่ปุ่นลอบโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์
“ตลอด 17 ปี ผมเป็นบุคคลต้นแบบในญี่ปุ่น แต่อัยการญี่ปุ่นกลับป้ายสีให้ผมเป็นคนที่เลือดเย็น ละโมบ เผด็จการ ผมรักญี่ปุ่น ผมรักชาวญี่ปุ่น ทำไมญี่ปุ่นจึงตอบแทนความดีที่ผมทำให้กับประเทศนี้ด้วยความเลวร้าย ผมไม่เข้าใจ” นายกอส์นกล่าว
เขาจึงตัดสินใจหนีการประกันตัว โดยระบุว่า “คุณจะตายในญี่ปุ่น หรือว่าหนีออกไป” “ผมรู้ว่าถ้าแผนล้มเหลวก็จะเป็นหายนะ แต่ถึงแม้จะมีโอกาสเพียงเล็กน้อย ผมก็เลือกที่จะทำ ผมคุ้นเคยดีกับ mission impossible”
เผยแผนโค่นอำนาจจากนิสสัน
นายคาร์ลอส กอส์น ยังบอกว่าเขาเป็นเหยื่อของการ “ยึดอำนาจ” จากการสมคบคิดของผู้บริหารนิสสันและอัยการ เพื่อป้ายสีความผิดให้เขา เนื่องจากผู้บริหารฝั่งญี่ปุ่นไม่ต้องการให้มีการควบรวมกิจการของนิสสันกับเรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์ของฝรั่งเศส ที่ถือหุ้นใหญ่ในนิสสัน 43%
เขาเปิดเผยชื่อ 6คนที่วางแผนโค่นล้มเขา คือ นายฮิโรโตะ ไซกาวะ อดีต CEO นิสสัน, นายมาซากาสุ โทโยดะ ผู้อำนวยการอิสระของนิสสิน และอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมแห่งญี่ปุ่น, นายฮิเดโทชิ อิมาสุ อดีตผู้ตรวจสอบของนิสสัน, นายฮิโตชิ คาวากูจิ อดีตผู้บริหารนิสสัน, นายฮาริ นาดะ และนายโทชิอากิ โอนูมะ จากสำนักเลขานุการของนิสสัน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ระบุถึง “คนในรัฐบาลญี่ปุ่น” ตามที่อ้างไว้ก่อนหน้า โดยกล่าวว่า เขาไม่สามารถทำหรือพูดสิ่งใด ที่จะทำร้ายผลประโยชน์ของชาวเลบานอนและรัฐบาลเลบานอน เขาบอกว่า “โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่คิดว่าคนระดับสูงของรัฐบาลญี่ปุ่นจะเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายกฯ ชินโซ อาเบะ”
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ขอให้ตำรวจสากลออกหมายจับนายคาร์ลอส กอส์น และเมื่อวานนี้ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเลบานอน ได้เข้าพบและขอให้ประธานาธิบดีมิเชล อูน แห่งเลบานอน ร่วมมือในคดีของนายคาร์ลอส กอส์น
ญี่ปุ่นไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับเลบานอน และนายกอส์นมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับรัฐบาลเลบานอน เขามีภาพลักษณ์เป็นดั่ง “ฮีโร่” ของชาวเลบานอน จึงทำให้โอกาสที่ญี่ปุ่นจะได้ตัวเขากลับมาดำเนินดีแทบจะไม่มีเลย.