จับตาวันนี้ นายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานนิสสัน มอเตอร์ จะแถลงข่าว หลังหนีออกจากญี่ปุ่นไปเลบานอน โดยเขาบอกว่าจะเปิดเผยชื่อของกลุ่มบุคคลที่วางแผนให้เขาต้องถูกจับกุม
นายคาร์ลอส กอส์น ระบุกับสถานีโทรทัศน์ “ฟ็อกซ์ บิสิเนส” ของสหรัฐฯ ว่า “ผมมีหลักฐานที่หนักแน่นว่านี่เป็นการยึดอำนาจ เพื่อโค่นล้มผม” และยังบอกด้วยว่าจะเปิดเผยกลุ่มบุคคล ที่รวมถึงคนในรัฐบาลญี่ปุ่นที่วางแผนให้เขาต้องถูกดำเนินคดี เนื่องจากกลุ่มคนญี่ปุ่นเหล่านี้ ไม่พอใจที่เขามีแผนจะควบรวมนิสสันกับเรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์ของฝรั่งเศส ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของนิสสัน
นายกอส์นยังกล่าวว่า เขาต้องออกจากญี่ปุ่นเพราะรับไม่ได้กับกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่นที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งเงื่อนไขการประกันตัวที่ห้ามพูดคุยกับภรรยาของเขา
อดีตผู้บริหารสูงสุดของนิสสันรายนี้จะจัดการแถลงข่าวที่เมืองหลวงของเลบานอนในวันนี้ซึ่งคาดว่าจะเป็น “ระเบิด” สำหรับรัฐบาลญี่ปุ่น และบริษัทนิสสัน
โอกาสส่งตัวกลับเท่ากับศูนย์
เมื่อวานนี้ อัยการโตเกียวได้รับหมายจับแคโรล นาฮัส ภรรยาของนายคาร์ลอส กอส์น ในข้อหาให้การเท็จ ขณะที่เป็นพยานฝ่ายจำเลยในการพิจารณาคดีสามีของเธอเมื่อเดือนเมษายน
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ขอตำรวจสากลให้ออกหมายจับสากลต่อนายกอส์นแล้ว
นายโยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะดำเนินความพยายามทางการทูตทุกวิถีทางเพื่อนำตัวนายคาร์ลอส กอส์น กลับมายังญี่ปุ่น
นายซูงะระบุว่า เขาหมดคำพูดเมื่อเขาได้ยินเรื่องเหตุการณ์นี้ และเขาจะทำให้แน่ใจว่าจะมีการสืบสวนรายละเอียดการออกนอกประเทศของนายกอส์น และจะใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ทางด้านบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ก็ได้ออกแถลงการณ์ว่า จะยังคงดำเนินคดีกับนายกอส์นต่อไป
นิสสัน มอเตอร์ ออกแถลงการณ์ในวันอังคารที่ 7 มกราคมว่า การเดินทางออกนอกญี่ปุ่นโดยที่ศาลไม่อนุญาต และการฝ่าฝืนเงื่อนไขการประกันตัวของนายกอส์น เป็น “การกระทำที่ท้าทายระบบตุลาการของญี่ปุ่น” และเป็นเรื่องที่ “น่าเสียใจอย่างยิ่ง”
แถลงการณ์ระบุว่า ทางบริษัทได้ตัดสินใจว่านายกอส์นไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหาร และได้ปลดเขาออกจากทุกตำแหน่งหลังจากที่มีการสืบสวนสอบสวนภายในอย่างละเอียด
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเหมาะสมต่อไป เพื่อให้นายกอส์นรับผิดชอบต่อความเสียหายของบริษัท อันเกิดจากการทุจริตทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับเลบานอน และนายกอส์นมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับรัฐบาลเลบานอน เขามีภาพลักษณ์เป็นดั่ง “ฮีโร่” ของชาวเลบานอน จึงทำให้โอกาสที่ญี่ปุ่นจะได้ตัวเขากลับมาดำเนินคดีแทบจะไม่มีเลย